ประยุทธ์ ปล่อยหมัดเด็ด บนเวที นิกเคอิ ฟอรัม ครั้งที่ 27 ชวนค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ญี่ปุ่น ลงทุน อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ปักหลักไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์อีวีใหญ่ที่สุดในโลก
วันที่ 26 พฤษภาคม 2565 เวลา 13.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ณ ห้อง Fuji โรงแรม Imperial พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กล่าวปาฐกถาในการประชุม International Conference on the Future of Asia (Nikkei Forum) ครั้งที่ 27 โดยผู้ดำเนินรายการคือ นายทากาฮาชิ โทรุ (Takahashi Toru)
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 1 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- ออมสิน ฉลองครบวาระ 111 ปี จัดเต็ม สลากออมสินลุ้นรางวัลใหญ่ 111 ล้านบาท
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยสาระสำคัญ ดังนี้ นายกรัฐมนตรียินดีที่ได้พบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งท่านได้มาร่วมรับฟังปาฐกถาของนายกรัฐมนตรีในวันนี้ ยินดีที่ได้เข้าร่วมการประชุม และขอบคุณสำหรับการต้อนรับที่อบอุ่น นายกรัฐมนตรีตั้งใจมาร่วมการประชุมด้วย 4 เหตุผลหลัก
1.ไทยเชื่อว่าญี่ปุ่นเป็นมิตรแท้ของไทยเสมอมา นายกรัฐมนตรีคิชิดะได้เยือนไทยและประเทศในอาเซียนเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เป็นการส่งสัญญาณเชิงบวกต่อเนื่องทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นโอกาสเฉลิมฉลองความสัมพันธ์และมิตรภาพกว่า 135 ปี ระหว่างไทย-ญี่ปุ่น
2.ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดระหว่างไทย-ญี่ปุ่น ญี่ปุ่นเป็นคู่ค้าที่มีความสำคัญอันดับ 2 ของไทย และมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่เหนียวแน่น นับตั้งแต่ได้จัดทำความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น หรือ JTEPA และความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจอาเซียน-ญี่ปุ่น (AJCEP) ซึ่งในปี 2564 การค้าระหว่างกันมีมูลค่าสูงกว่าหกหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ลงทุนในไทยอันดับหนึ่งมาอย่างยาวนาน คิดเป็นเกือบร้อยละ 30 ของมูลค่า FDI ทั้งหมดของไทยในปีที่แล้ว นอกจากนี้ จากที่ RCEP มีผลใช้บังคับเมื่อต้นปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นการเจริญเติบโตทางการค้าที่มหาศาลระหว่างประเทศสมาชิก
“ขอขอบคุณรัฐบาล นักธุรกิจ และนักลงทุนญี่ปุ่นที่เชื่อมั่นศักยภาพ สนับสนุนการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคมไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ไทยยินดีต้อนรับการลงทุนจากญี่ปุ่น โดยเฉพาะในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ทั้งนี้ มีความเจริญเติบโตของ FDI จากไทยไปยังญี่ปุ่นในรอบทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งหวังว่าจะเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะการลงทุนในสาขาพลังงานทดแทน ซึ่งนายกรัฐมนตรีเชื่อว่าญี่ปุ่นจะให้การสนับสนุน และสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีแก่นักลงทุนไทย” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
3.นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการที่ไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปค ซึ่งญี่ปุ่นเป็นสมาชิกที่แข็งขัน ในปีนี้ซึ่งตรงกับที่กัมพูชาเป็นประธานอาเซียน และอินโดนีเซียเป็นประธาน G20 ประเทศสมาชิกอาเซียน 3 ประเทศมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับหุ้นส่วนเพื่อส่งเสริมจิตวิญญาณของความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เสริมสร้างความเข้มแข็ง ความน่าเชื่อถือ และบทบาทของอาเซียน ในการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาคและของโลกต่อไป
ซึ่งไทยในฐานะผู้ประสานงานความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่น พร้อมร่วมมือในการส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างกันให้แน่นแฟ้น โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง โดยเฉพาะในโอกาสการฉลองความสัมพันธ์ 50 ปีระหว่างอาเซียนกับญี่ปุ่นในปีหน้า
4.นายกรัฐมนตรีเชื่อว่าโลกกำลังเผชิญสถานการณ์ที่ท้าทาย การเข้าร่วมประชุมในเวทีแห่งนี้ทำให้ได้แบ่งปันมุมมองของไทยและรับฟังและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นที่มีประโยชน์กับทุกฝ่าย โดยเฉพาะภาคเอกชน
นายธนกรกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงหัวข้อหลักของการประชุม ต่อคำถามว่าเอเชียจะมีบทบาทอย่างไรได้บ้าง เมื่อช่องว่างขยายกว้างขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกมิติ เอเชียจะมีส่วนในการสร้างสันติภาพ ความมั่นคง และความมั่งคั่งในทุกด้านได้อย่างไร และคำตอบคือ เอเชียจะต้องยืดหยุ่นต่อการปรับตัว เอเชียจะต้องสนับสนุนความยั่งยืน จะต้องสร้างสังคมที่ครอบคลุมมากขึ้น เพราะสองปีที่ผ่านมาได้สอนให้รู้ว่า ความยืดหยุ่นเพื่อปรับตัวต่อความชะงักงันใด ๆ เป็นพื้นฐานในการประคับประคองตนเอง การเจริญเติบโตจะไม่มีความหมายหากไม่มีความยั่งยืน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทปัจจุบันที่การเติบโตเปราะบางมาก นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าการฟื้นฟูทางเศรษฐกิจต้องเดินหน้าควบคู่ไปกับการสร้างความสมดุลของสรรพสิ่งและก้าวไปสู่ความยั่งยืน และนายกรัฐมนตรีได้แบ่งปันมุมมองของไทย 3 สิ่งที่เชื่อว่าเอเชียจะร่วมกันทำได้เพื่อก้าวข้ามสถานะปัจจุบัน มุ่งให้เกิดสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค
1.กระตุ้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ จะต้องทำให้ตลาดเปิดกว้างและครอบคลุมเศรษฐกิจที่ยั่งยืน จะเกิดขึ้นต่อเมื่อมีภูมิต้านทานมากพอที่จะปรับตัวและรับมือกับความชะงักงันและความไม่แน่นอนอย่างทันท่วงที พร้อมกับมีห่วงโซ่อุปทานของภูมิภาคและของโลกที่มีความเข้มแข็ง ยืดหยุ่นและไม่ถูกตัดขาด จึงต้องสนับสนุนระบบการค้าพหุภาคีที่มีกฎเกณฑ์เป็นพื้นฐาน โดยมี WTO เป็นแกนกลาง และต้องสร้างสภาพแวดล้อมการค้า และการลงทุนที่เสรี เป็นธรรม เปิดกว้าง ไม่เลือกปฏิบัติ โปร่งใส ครอบคลุม และคาดการณ์ได้
โดยในส่วนของไทยมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ เพื่ออำนวยความสะดวกการค้า และการลงทุน เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันของไทยให้สูงขึ้นกว่าเดิม มีนวัตกรรม และเอื้ออำนวยแก่นักธุรกิจ และนักลงทุน ไทยมองว่า จำเป็นต้องเตรียมกำลังคนและโครงสร้างพื้นฐานรองรับภูมิทัศน์ทางการเงิน และเศรษฐกิจที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว ซึ่งไทยกำลังยกระดับและขยายระบบขนส่งทางรางและท่าอากาศยานทั่วประเทศ และกำลังดำเนินการเพื่อพัฒนาโครงข่ายโทรคมนาคม และโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล รวมถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและการบริหารจัดเก็บข้อมูลในระบบคลาวด์ การส่งเสริมการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ
ตลอดจนการสร้างบุคลากรดิจิทัลที่มีทักษะสูง ทั้งนี้ ทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางการจัดเก็บข้อมูลในระบบคลาวด์ที่น่าดึงดูดในภูมิภาค ซึ่งต้องขอบคุณญี่ปุ่นสำหรับความร่วมมืออย่างใกล้ชิดและความช่วยเหลือที่ผ่านมา ไทยภูมิใจที่ระบบการธนาคารของไทยเป็นหนึ่งในระบบธนาคารที่ก้าวหน้ามีระบบพร้อมเพย์ สามารถโอนเงินผ่านแอปพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือได้อย่างรวดเร็วโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ไทยและสิงคโปร์ได้เชื่อมระบบชำระเงินดิจิทัลครั้งแรกของโลก และได้เชื่อมระบบในลักษณะเดียวกันกับญี่ปุ่น กัมพูชา มาเลเซีย และอินโดนีเซียแล้ว จึงหวังว่าจะสามารถเชื่อมต่อระบบกับประเทศอื่น ๆ เพิ่มเติม โดยเฉพาะในเอเปค
2.ต้องสนับสนุนระบบพหุภาคีต่อไป เพราะไม่มีประเทศใดจะสามารถรับมือและจัดการกับความท้าทายเหล่านี้ได้เพียงลำพัง ไทยเชื่อมั่นและพร้อมสนับสนุนแนวคิดพหุภาคีและขับเคลื่อนความร่วมมือระดับพหุภาคีต่อไปให้มากที่สุด เอเปคเป็นอีกเวทีหนึ่งที่ไทยจะสามารถแสดงการสนับสนุนระบบพหุภาคีได้
ในการจัดการประชุมเอเปก 2022 ไทยรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ขับเคลื่อนงานของเอเปก ไม่ย่อท้อ และขอยืนยันถึงความมุ่งมั่นที่จะทำให้เอเปกยังคงเดินหน้าต่อ เพื่อให้เอเปคมีผลลัพธ์ที่มีความหมายและเป็นรูปธรรม เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนในเอเชีย-แปซิฟิกทุกคน โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงหัวข้อหลักของไทย “เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์” ไทยผลักดันให้ทบทวนการหารือเรื่อง FTAAP
โดยคำนึงถึงประเด็นการค้าและการลงทุนใหม่ ๆ เช่น เศรษฐกิจดิจิทัลและสิ่งแวดล้อม และหวังว่าจะมีการต่อยอดงาน การเปิดเสรีและการอำนวยความสะดวกการค้าและการลงทุน การลดอุปสรรคทางการค้าระหว่างกัน และการรวมตัวทางเศรษฐกิจ หัวข้อหลักที่ 2 “เชื่อมโยงกัน” ในทุกมิติ ไทยมุ่งจะเชื่อมโยงภูมิภาคเข้าด้วยกัน
โดยได้จัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อหาแนวทางที่จะรื้อฟื้นการเดินทางข้ามพรมแดนอย่างปลอดภัย และไร้รอยต่อ การใช้ใบรับรองการฉีดวัคซีนร่วมกันได้ในเอเปค และการขยายขอบเขตการใช้บัตรเดินทางของนักธุรกิจในเอเปค เป็นต้น หัวข้อหลักที่ 3 “สู่สมดุล” ในทุกทาง ไทยผลักดันการส่งเสริมการเติบโตที่ยั่งยืนและครอบคลุม
จุดมุ่งหมายประการหนึ่งที่สำคัญ คือการทำให้ SMEs ธุรกิจที่นำโดยสตรี และธุรกิจเล็ก ๆ ซึ่งล้วนเป็นพื้นฐานสำคัญของเศรษฐกิจ สามารถเข้าถึงตลาดและเงินทุนได้มากขึ้น เพื่อให้มีความสามารถในการแข่งขันและมีโอกาสที่จะเติบโต
นอกจากนี้ ไทยเสนอให้มีการรับรองเอกสารระดับผู้นำ ชื่อว่า “เป้าหมายกรุงเทพฯ ว่าด้วยเศรษฐกิจ BCG” ซึ่งเป็นเอกสารที่จะวางรากฐานเอเปคด้านความยั่งยืนที่ครบถ้วนที่สุด ทั้งในด้านการปรับตัวและการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การส่งเสริมการค้าและการลงทุนที่ยั่งยืน และการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องอย่างมากกับนโยบายการเติบโตสีเขียวของญี่ปุ่น และผมขอขอบคุณญี่ปุ่นที่สนับสนุนวาระ BCG ของไทย
3.ประการสุดท้ายและสำคัญที่สุด การฟื้นฟูทางเศรษฐกิจจะต้องเกิดควบคู่ไปกับความยั่งยืน ขอเชิญชวนภาคเอกชนมาร่วมมือกันเพื่อบรรลุเป้าหมาย หนทางไปสู่ความยั่งยืนของไทยกำลังเปลี่ยนผ่านทางพลังงานไปสู่พลังงานสะอาดเพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2050 และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2065
โดยได้เริ่มกระบวนการเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรม EV แล้ว และกำลังเร่งสร้างระบบนิเวศเพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านดังกล่าว และในขณะนี้ มีเรือ EV อัจฉริยะล่องอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อขนส่งผู้โดยสารทางน้ำเพื่อลดปริมาณคาร์บอนในระบบขนส่งมวลชนทางน้ำ
ไทยหวังว่าจะเป็นหนึ่งในฐานการผลิต EV ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในอนาคตอันใกล้ จึงหวังว่าจะได้ร่วมมือกับญี่ปุ่นในด้านนี้
ในตอนท้ายนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงเอเชียว่าเป็นภูมิภาคที่กว้างใหญ่ ไม่หยุดนิ่ง ยืดหยุ่นและเต็มไปด้วยทรัพยากรอีกทั้งมีศักยภาพอีกมาก ความเข้มแข็งของเอเชียคือความเป็นเอกภาพ การเติบโตไปด้วยกันโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เอเชียเป็นแผ่นดินแห่งความหวัง เป็นสถานที่แห่งโอกาส ไทยกำลังทำหน้าที่นี้อย่างเต็มที่ในทุกระดับ