ประยุทธ์ ลงนามบันทึกความเข้าใจ ไทย-สปป.ลาว เชื่อมรถไฟจีน

ประยุทธ์ หารือ นายกฯ สปป.ลาว ในโอกาสเยือนไทยอย่างเป็นทางการ กระชับความสัมพันธ์ “บ้านพี่เมืองน้อง” ลงนามแลกเปลี่ยนความเข้าใจ 3 ฉบับ ย้ำการเป็น “หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เพื่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาอย่างยั่งยืน” พร้อมฟื้นฟูเศรษฐกิจ เชื่อมโยงการท่องเที่ยว-คมนาคมรอบด้าน สานประโยชน์ win-win

วันที่ 1 มิถุนายน 2565 เวลา 17.00 น. ณ บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมให้การต้อนรับ นายพันคำ วิพาวัน นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในโอกาสการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐบาลไทย (Official Visit)

โดยนายกรัฐมนตรีไทยและลาวได้ร่วมตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ ณ บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล จากนั้น นายกรัฐมนตรีเชิญนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ไปยังห้องสีงาช้างด้านนอก เพื่อลงนามในสมุดเยี่ยม และได้หารือข้อราชการเต็มคณะ ในเวลา 17.30 น. ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล ผู้นำทั้งสองได้ร่วมกันหารือข้อราชการเต็มคณะ

นายกฯสปป.ลาวเข้าเฝ้าในหลวงพรุ่งนี้

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ว่า นายกรัฐมนตรียินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว และคณะในการเยือนไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรก พร้อมยินดีที่ช่วงเช้าวันนี้นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ได้รับมอบปริญญารัฐศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และยินดีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว เข้าเฝ้าในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเป็นการเข้าเฝ้าฯ ครั้งแรกของผู้นำรัฐบาลต่างประเทศในรัชกาลปัจจุบัน เป็นการสะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่พิเศษระหว่างไทยกับ สปป.ลาว

ทั้งนี้ การเยือนของนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ถือเป็นนิมิตหมายอันดีที่ทั้งสองประเทศจะได้กลับมาเปิดประเทศให้มีการไปมาหาสู่ระหว่างกันอีกครั้ง เพื่อกระชับความร่วมมือ เสริมสร้างความเข้มแข็ง รวมทั้งกับประเทศอื่น ๆ ในอนุภูมิภาคและในภูมิภาคอาเซียนด้วย

ด้านนายกรัฐมนตรี สปป.ลาวขอบคุณรัฐบาลไทยและประชาชนชาวไทยที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น การเยือนไทยครั้งนี้ถือเป็นการยืนยันคำหมายมั่นของ สปป.ลาวที่จะส่งเสริมและสานต่อมิตรภาพและความร่วมมือระหว่างกัน ซึ่งทั้งสองประเทศต่างเป็นบ้านใกล้เรือนเคียงที่ดี เป็นพี่เป็นน้อง พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน และมีความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงและคล้ายคลึงกัน ทั้งด้านภาษา วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ที่มีมาอย่างยาวนาน

พร้อมยืนยันว่า ลาวยินดีให้ความร่วมมือกับไทยในการพัฒนาปัจจุบันให้ดีที่สุด เพื่ออนาคตลูกหลานของประชาชนทั้งสองประเทศให้อยู่ดีกินดี นำมาสู่ความสงบสุขและความมั่นคงยืนยาวตลอดไป รวมทั้งเห็นพ้องกับนายกรัฐมนตรีในการยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างกันให้เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เพื่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาอย่างยั่งยืนเพื่อก้าวไปข้างหน้าด้วยกันอย่างมั่นคงและยั่งยืน อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว เสนอแนะว่า ทั้งสองฝ่ายควรแลกเปลี่ยนประสบการณ์ผ่านความร่วมมือที่สำคัญระหว่างกันเพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมมากขึ้น

เปิดจุดผ่านแดนทางบกครบทุกแห่ง

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ได้หารือในประเด็นความร่วมมือต่าง ๆ ที่สำคัญ ได้แก่ ด้านเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายพร้อมที่จะส่งเสริมความเชื่อมโยงเพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูทางเศรษฐกิจจากผลกระทบของสถานการณ์โควิด-19 และสถานการณ์ระหว่างประเทศ โดยนายกรัฐมนตรียินดีที่ไทยและ สปป.ลาว ได้กลับมาเปิดให้มีการไปมาหาสู่ของประชาชนและการขนส่งสินค้าผ่านจุดผ่านแดนทางบกอีกครั้ง ซึ่งในวันนี้ (1 มิ.ย.65) ได้มีการเปิดจุดผ่านแดนถาวร/ด่านสากลระหว่างทั้งสองประเทศครบทุกแห่งแล้ว เป็นการช่วยฟื้นฟูวิถีชีวิตของชุมชนไทยและลาว และกระตุ้นเศรษฐกิจกับการค้าชายแดน ขณะที่นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว กล่าวว่าไทยเป็นคู่ค้าที่สำคัญเป็นอันดับ 1 ของลาว ซึ่งพร้อมที่จะส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างกันต่อไป

หนุนก่อสร้างสะพานเชียงแมน – หลวงพระบาง

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังเน้นย้ำการใช้เศรษฐกิจดิจิทัลให้เป็นเครื่องมือหลักที่สำคัญในอนาคต โดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของไทยพร้อมที่จะจัดหลักสูตรฝึกอบรมด้านดิจิทัลให้แก่บุคลากรลาว และพร้อมสนับสนุนด้านเทคนิคและการฝึกอบรมทักษะแก่บุคลากรลาวในการพัฒนาระบบการชำระเงินระหว่างประเทศให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในวงกว้าง

ด้านการเชื่อมโยงท่องเที่ยวและการคมนาคมขนส่ง นายกรัฐมนตรีเห็นว่าไทยและลาวสามารถเชื่อมโยงการท่องเที่ยวระหว่างกันได้มากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับการเดินทางข้ามแดนและนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่น ๆ โดยจะเน้นเส้นทางที่มีศักยภาพระหว่างแขวงหลวงพระบางกับจังหวัดน่าน และจังหวัดในภาคเหนือของไทย ซึ่งสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (Neighbouring Countries Economic Development Cooperation Agency: NEDA) ของไทยพร้อมสนับสนุนโครงการก่อสร้างสะพานเชียงแมน – หลวงพระบาง

ด้าน นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว พร้อมที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อให้ประชาชนได้ไปมาหาสู่ระหว่างกัน สร้างความใกล้ชิดและเป็นประโยชน์ต่อมูลค่าท่องเที่ยวในภาพรวม รวมทั้งกระทรวงการท่องเที่ยวของทั้งสองฝ่ายจะหารือร่วมกันเพื่อจัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาความเชื่อมโยงการท่องเที่ยวไทย-ลาว ให้ได้ข้อสรุปภายในปีนี้ ขณะเดียวกัน ด้านการคมนาคมขนส่ง นายกรัฐมนตรียินดีสนับสนุนนโยบายของ สปป.ลาวในการเปลี่ยนให้เป็นประเทศ land-linke

แลกเปลี่ยนความร่วมมือในการพัฒนาไฟฟ้า

ต่อมาในเวลา 18.45 น. พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถ้อยแถลงในการแถลงข่าวร่วมกับนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาลไทย

นายธนกร กล่าวสรุปสาระสำคัญภายหลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าวร่วม ว่า นายกรัฐมนตรีของทั้งสองประเทศได้ร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามแผนปฏิบัติการว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ไทย – สปป. ลาว เพื่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ระยะ 5 ปี พ.ศ. 2565 – 2569 และร่วมเป็นสักขีพยานการแลกเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจระหว่างไทยกับลาว ว่าด้วยความร่วมมือในการพัฒนาไฟฟ้าใน สปป. ลาว ฉบับปี ค.ศ. 2022 รวมถึงการลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างไทยกับลาว ว่าด้วยโครงการจัดสร้างสวนรุกขชาติไทย – ลาว

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียินดีสนับสนุนการก่อสร้างศูนย์พัฒนาสังคมมิตรภาพไทย – ลาวเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์แบบครบวงจร ที่เมืองไซทานี นครหลวงเวียงจันทน์ ด้วย ในระหว่างการหารือ ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและมุมมองครอบคลุมในทุกมิติ โดยมีผลลัพธ์สำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนทั้งสองประเทศ มีดังนี้

ด้านเศรษฐกิจ ประกอบด้วย 1.ไทยและ สปป.ลาว พร้อมเดินหน้าฟื้นฟูวิถีชีวิตของประชาชนและกิจกรรมทางเศรษฐกิจบริเวณพื้นที่ชายแดนให้กลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว 2.การเร่งรัดฟื้นฟูการท่องเที่ยวเพื่อสร้างงานสร้างรายได้ให้กับประชาชน โดยไทยพร้อมสนับสนุน สปป.ลาว ในการก่อสร้างสะพานเชียงแมน – หลวงพระบาง เพื่อส่งเสริมความเชื่อมโยงด้านการท่องเที่ยวระหว่างกัน

เชื่อมระบบรางรถไฟลาว-จีน

3.การเร่งรัดและขยายการเชื่อมโยงด้านคมนาคมขนส่งระหว่างกันมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการเชื่อมต่อระบบรางของทั้งสองประเทศ พร้อมทั้งใช้ประโยชน์จากโครงการรถไฟลาว – จีน ให้เกิดประโยชน์สูงสุดร่วมกันแบบ win-win

4.เดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และประสานมาตรฐานและกฎระเบียบต่าง ๆ 5. กระชับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจดิจิทัลซึ่งมีความสำคัญสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจยุคใหม่ ซึ่งไทยพร้อมสนับสนุน สปป.ลาว ในการพัฒนาทักษะและขีดความสามารถของบุคลากรในด้านดิจิทัล และพัฒนาระบบการชำระเงินระหว่างประเทศให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ตลอดจนเพิ่มความร่วมมือด้านพลังงานสะอาดมากขึ้น

ด้านความมั่นคง ไทยและ สปป.ลาว เห็นพ้องเพิ่มความเข้มงวดการลาดตระเวนตามแนวชายแดน เพื่อป้องกันการลักลอบข้ามแดนผิดกฎหมาย และกระชับความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ซึ่งไทยพร้อมสนับสนุน สปป. ลาวในการขยายผลการจับกุมและการมอบอุปกรณ์สืบสวนสอบสวนที่ทันสมัย นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายพร้อมร่วมมือกันแก้ไขปัญหาแก๊ง call center และปัญหาค้ามนุษย์อย่างเต็มที่ เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนของทั้งสองฝ่ายได้รับความเดือดร้อน

ด้านความสัมพันธ์ระดับประชาชน ถือเป็นรากฐานที่มั่นคงสำหรับการพัฒนาความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศในทุกด้าน โดยทั้งสองฝ่ายพร้อมสานต่อความร่วมมือเพื่อพัฒนาความร่วมมือด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะระหว่างโรงพยาบาลตามแนวจังหวัดกับแขวงชายแดน ความร่วมมือด้านการเกษตร และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

มอบ 700 ทุน เยาวชน สปป.ลาว

โดยรัฐบาลไทยพร้อมมอบทุนการศึกษาในระดับปริญญาตรี โท และเอก แก่เยาวชน สปป.ลาว รวมกว่า 700 ทุน ซึ่งจะเป็นโอกาสให้เยาวชนของทั้งสองประเทศใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น ตลอดจนเห็นพ้องร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในด้านสื่อมวลชน เพื่อส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างกันของประชาชน

ความร่วมมือในระดับอนุภูมิภาคและภูมิภาค ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่า ไทยและ สปป. ลาว จำเป็นต้องประสานท่าทีและร่วมมือกันใกล้ชิดยิ่งขึ้นทั้งในระดับอนุภูมิภาคและภูมิภาค เพื่อรับมือกับความท้าทายทั้งในปัจจุบันและอนาคต โดยไทยพร้อมสนับสนุน สปป. ลาว ในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำ ACMECS ครั้งที่ 10 ในปีนี้อย่างเต็มที่ เพื่อผนึกกำลังของประเทศในอนุภูมิภาคในการผลักดันการฟื้นฟูอย่างมั่นคงและยั่งยืน

นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศพร้อมร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อส่งเสริมความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของอาเซียน และเพื่อให้อาเซียนคงบทบาทที่สำคัญในการรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ และการพัฒนาของภูมิภาค

ภายหลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าวร่วม นายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีสปป.ลาว เยี่ยมชมนิทรรศการศิลปหัตถกรรม ณ โถงกลาง ตึกสันติไมตรี และนายกรัฐมนตรีเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรีสปป.ลาว ณ ตึกสันติไมตรีหลังนอก

ลงนามบันทึกความเข้าใจ 3 ฉบับ

ทั้งนี้ ในการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว รัฐบาลไทยได้มอบการสนับสนุนการก่อสร้างศูนย์พัฒนาสังคมมิตรภาพไทย – ลาว เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์แบบครบวงจร ที่เมืองไซทานี นครหลวงเวียงจันทน์ และทั้งสองฝ่ายได้ร่วมลงนามและแลกเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจระหว่างกัน 3 ฉบับ ได้แก่

1.แผนปฏิบัติการว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ไทย – สปป. ลาว เพื่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2565 – 2569)

2.บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ว่าด้วยความร่วมมือในการพัฒนาไฟฟ้าใน สปป. ลาว ฉบับปี ค.ศ. 2022

3.บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวว่าด้วยโครงการจัดสร้างสวนรุกขชาติไทย – ลาว