ครม.อนุมัติ กฟผ.เพิ่มวงเงินกู้ระยะสั้นอีก 2 หมื่นล้าน เสริมสภาพคล่อง

กฟผ.

ครม.อนุมัติให้ กฟผ.เพิ่มวงเงินกู้ระยะสั้นแบบ Credit Line จากวงเงินเดิม 10,000 ล้านบาท เป็น 30,000 ล้านบาท เสริมสภาพคล่อง

วันที่ 26 กรกฎาคม 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพิ่มวงเงินกู้ระยะสั้นแบบ Credit Line จากวงเงินเดิม 10,000 ล้านบาท เป็น 30,000 ล้านบาท จนถึงวันที่ 11 กันยายน 2567 ซึ่งเป็นวันที่วงเงินกู้ระยะสั้นแบบ Credit Line ที่ได้รับอนุมัติจาก ครม.เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2564 จะครบกำหนดระยะเวลา 3 ปี

ภายใต้เงื่อนไขเดิมประกอบด้วย กู้เบิกเกินบัญชี ตั๋วสัญญาใช้เงิน การทำ Trust Receipt (R/T) และการทำสัญญากู้เงินเมื่อทวงถาม (Call Loan) โดยจะพิจารณาทำสัญญาเงินกู้กับสถาบันการเงินที่เสนอรูปแบบที่มีต้นทุนต่ำที่สุด ตามอัตราดอกเบี้ยตลาด โดยกระทรวงการคลังจะไม่ค้ำประกันเงินต้นและดอกเบี้ยจากการกู้เงินดังกล่าว

ทั้งนี้ กฟผ.อยู่ระหว่างดำเนินการนำเสนอการกู้เงินเพื่อบริหารภาระค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ (เอฟที) ตามนโยบายของรัฐประจำปีงบประมาณ 2566 ภายใต้กรอบวงเงินไม่เกิน 85,000 ล้านบาท ซึ่งหากได้รับความเห็นชอบจาก ครม.แล้ว กฟผ.คาดว่าจะได้รับเงินกู้ดังกล่าวในช่วงปลายเดือนตุลาคม 2565 ซึ่งไม่ทันต่อการรองรับการขาดสภาพคล่องในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน 2565

ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องมีวงเงินกู้ระยะสั้นแบบ Credit Line เพิ่มขึ้น ตามคาดการณ์ในเดือนสิงหาคม 2565 เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงจากการขาดสภาพคล่อง วงเงินประมาณ 30,000 ล้านบาทดังกล่าว เนื่องจาก กฟผ.ต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานสูงมาก ได้แก่ ค่าเชื้อเพลิง ค่าซื้อกระแสไฟฟ้า งบฯลงทุน และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ โดยรายจ่ายที่เกิดขึ้นจริงในส่วนของค่าเชื้อเพลิงและค่าซื้อกระแสไฟฟ้าในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2565 สูงกว่าประมาณการจำนวน 23,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มสูงขึ้นกว่าประมาณการที่คาดการณ์ไว้