6 พันบริษัท ดาหน้าบุก EEC นายหน้าพรึ่บ-ทุนจีนตุนที่ดินอื้อ

ทัพธุรกิจดาหน้าบุก EEC ทุนญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน พรึ่บ เผยจดทะเบียนตั้งบริษัทใหม่ 3 จังหวัดภาคตะวันออก ยอดทะลักกว่า 6.8 พันบริษัท เมืองชลฮอตจัด อสังหาฯ-รับเหมา-นายหน้าซื้อขายที่ดิน ปักธงรอลูกค้า อุตสาหกรรม S-curve ทั้งหุ่นยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์-อากาศยาน แห่ลงทุนเพิ่มต่อเนื่อง ด้าน กนอ.ผนึก 6 พันธมิตรดึง BTS ผุดระบบขนส่งมวลชน

แม้ร่าง พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ…..ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในวาระที่สอง แต่ที่รัฐบาลประกาศนโยบายชัดเจนว่าจะเดินหน้าผลักดันโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor-EEC) ให้เห็นผลเป็นรูปธรรมภายในปีนี้ ทำให้นักธุรกิจนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติเชื่อมั่นมากขึ้น จากที่เคยชะลอแผนก็เริ่มตัดสินใจลงทุนโครงการใหม่ ขณะเดียวกันก็เริ่มเห็นสัญญาณความเคลื่อนไหวของธุรกิจหลากหลายสาขาไม่ว่าจะอุตสาหกรรม ธุรกิจบริการ รับเหมาก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ เตรียมการลงทุนในพื้นที่ 3 จังหวัด EEC ทั้งชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา

ยอดตั้งบริษัทในอีอีซีพุ่ง

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า จากตรวจสอบข้อมูลการจดทะเบียนตั้งบริษัท จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า ตลอดปี 2560 ที่ผ่านมา มีนักลงทุนทั้งที่เป็นชาวไทยและต่างประเทศ จดทะเบียนตั้งบริษัทในเขตพื้นที่ 3 จังหวัด อีอีซี รวมทั้งสิ้นสูงถึง 6,800 บริษัท เพิ่มจากปี 2559 ที่ยอดทั้ง 3 จังหวัดดังกล่าวเริ่มพุ่งสูงขึ้นหลังโครงการ EEC เริ่มชัดเจน โดยยอดจดทะเบียนรวมทั้งปีอยู่ที่ 6,378 บริษัท ในจำนวนนี้ จ.ชลบุรี เป็นพื้นที่ที่มีการจดทะเบียนมากที่สุด รวม 4,880 บริษัท เทียบกับปี 2559 ที่มีตัวเลขการจดทะเบียน 4,630 บริษัท รองลงมาเป็น ระยอง 1,390 บริษัท เพิ่มจาก 1,280 บริษัท เมื่อปี 2559 และฉะเชิงเทรา 530 บริษัท เพิ่มจาก 468 บริษัท เมื่อช่วงปี 2559

“อสังหาฯ-รับเหมา” แห่ปักธงรอ

ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าระบุว่า ปัจจุบันพื้นที่ EEC มีนิติบุคคลเปิดดำเนินกิจการอยู่รวมทั้งสิ้น 61,284 ราย ทุนจดทะเบียนรวมกว่า 1.7 ล้านล้านบาท แยกเป็น จ.ชลบุรี 44,975 ราย ทุนจดทะเบียนกว่า 1.02 ล้านล้านบาท ระยอง 11,553 ราย ทุนจดทะเบียน 5.60 แสนล้านบาท และฉะเชิงเทรา 4,756 ราย ทุนจดทะเบียน 1.44 แสนล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัทที่จดทะเบียนตั้งบริษัทดังกล่าวส่วนใหญ่จะดำเนินการเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ทั้งการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ ที่ดิน การพัฒนาและจัดสรรที่ดิน รับเหมาก่อสร้างอาคาร อาคารพาณิชย์ ที่พักอาศัย ธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องมือในการก่อสร้าง ขายเครื่องมือจักรกล เครื่องไฟฟ้า บริการห้องพักรายเดือน อพาร์ตเมนต์ บริษัทรับเหมาติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้า อาคาร-โรงงาน รวมถึงบริษัทให้บริการรักษาความปลอดภัย บริษัทให้บริการรับขนส่งสินค้า

บริษัทนายหน้าเฮบุกเมืองชล

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า นอกจากธุรกิจดังกล่าวแล้ว อีกด้านหนึ่งก็ยังพบว่า ในพื้นที่ จ.ชลบุรี มีบริษัทที่จดทะเบียนบริษัทเป็นนายหน้าซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ นายหน้าซื้อ ขาย และให้เช่าคอนโดฯ อพาร์ตเมนต์เกิดขึ้นเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะช่วงปี 2560

ที่ผ่านมา จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าในแต่ละเดือนจะมีบริษัทนายหน้าอสังหาฯ เกิดขึ้นเฉลี่ยประมาณ 60-70 บริษัท ขณะที่ จ.ระยอง และฉะเชิงเทรา มีตัวเลขของบริษัทนายหน้าอสังหาฯจดทะเบียนใหม่เพิ่มโดยเฉลี่ยเพียงประมาณเดือนละ 5-10 บริษัทเท่านั้น

สอดคล้องกับข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้าที่จัดอันดับประเภทธุรกิจที่มีผู้ประกอบการสูงสุดในพื้นที่ EEC 5 อันดับแรก ดังนี้ 1.อสังหาฯ 10,851 ราย ทุนจดทะเบียน 7.26 หมื่นล้านบาท 2.ก่อสร้างอาคารทั่วไป 4,336 ราย ทุนจดทะเบียน 5.27 แสนล้านบาท 3.การขนส่งและขนถ่ายสินค้า-คนโดยสาร 1,773 ราย ทุนจดทะเบียน 4.85 พันล้านบาท 4.ภัตตาคาร ร้านอาหาร 1,577 ราย ทุนจดทะเบียน 6.33 พันล้านบาท และ 5.ขายส่งเครื่องจักรและอุปกรณ์อื่น 1,394 ราย ทุนจดทะเบียน 557 ล้านล้านบาท

ทุนญี่ปุ่น-จีน พรึ่บ !

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พิจารณาในส่วนของนักลงทุนต่างชาติ ที่เข้าไปลงทุนในอีอีซีพบว่าหลัก ๆ เป็นนักลงทุนจากญี่ปุ่น รองลงไปเป็นนักลงทุนจากจีน ไต้หวัน ฮ่องกง เป็นต้น และในจำนวนนี้มีทั้งที่เป็นการลงทุนเพิ่มของเป็นนักลงทุนเดิมที่ลงทุนอยู่ในเมืองไทยอยู่แล้ว ด้วย

การตั้งบริษัทใหม่ และมีทั้งการมาลงทุนเองเต็ม 100% ของนักลงทุนต่างชาติ และการเข้ามาร่วมลงทุนกับพันธมิตรนักธุกิจในประเทศไทย และการลงทุนของนักลงทุนรายใหม่ทั้งที่เป็นการลงทุนของบริษัทและลงทุนในนามส่วนบุคคล โดยจังหวัดที่นักลงทุนต่างประเทศให้ความสำคัญและมีการลงทุนเพิ่มอย่างต่อเนื่องยังคงเป็นชลบุรี และรองลงมา คือ ระยอง ส่วน ฉะเชิงเทรา เบื้องต้นการจดทะเบียนตั้งบริษัทส่วนใหญ่จะเป็นในลักษณะของผู้ประกอบการรายเล็ก และที่มีการจดทะเบียนเป็นจำนวนมากเป็นการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ รับเหมาก่อสร้าง ขายวัสดุ-อุปกรณ์การก่อสร้าง ธุรกิจการซื้อขายสินค้าเกษตรและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง

ชิ้นส่วนอากาศยานบุกลงทุน

สำหรับใน จ.ชลบุรี นอกจากนักลงทุนไทยแล้ว ยังมีนักลงทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มทุนรายใหญ่จากญี่ปุ่นและจีน ทยอยเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลงทุนในอุตสาหกรรม

เป้าหมายใหม่ 5 สาขา หรือ S-curve อาทิ บริษัท เซนโค โลจิสติกส์ ผู้ให้บริการโลจิสติกส์จากญี่ปุ่นที่มีเครือข่ายอยู่ทั่วโลก (ศรีราชา), บริษัท โอเจซิสเต็ม บริษัทในเครือโตโย คอร์ปอเรชั่น จากญี่ปุ่น ผู้ผลิตเครื่องจักรและหุ่นยนต์อุตสาหกรรม (นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร อ.พานทอง) บริษัท มัตซึมุระ เซเค ผู้ผลิตและจำหน่ายแม่พิมพ์ และชิ้นส่วนรถยนต์ จากญี่ปุ่น (อ.พานทอง), บริษัท แด็กซ์เวลล์ กรุ๊ป ผู้ให้บริการให้คำปรึกษาด้านการเงินและการลงทุน รวมถึงอิมพอร์ต เอ็กซ์ปอร์ต จากประเทศจีน (อ.พานทอง), บริษัท อีสท์ เอเชีย คอมโพสิตส์ ผู้ผลิตและประกอบชิ้นส่วนอุปกรณ์ยานพาหนะและอากาศยาน จากฮ่องกง (อ.เมืองชลบุรี) เป็นต้น

ส่วน จ.ระยอง การลงทุนจากต่างประเทศที่น่าสนใจ อาทิ บริษัท เกทส์ ยูนิทตะ (ประเทศไทย) ผู้ผลิตสายพานสำหรับยานพาหนะ บริษัทรวมทุนระหว่างสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น ขยายการลงทุนตั้งบริษัทใหม่ในชื่อ บริษัทเกทส์ (ประเทศไทย) เพื่อผลิตชิ้นส่วนเครื่องจักร (อ.ปลวกแดง), บริษัท แอเดียนท์ แอนด์ ซัมมิท คอร์ปอเรชั่น ผู้ผลิตที่นั่งในรถยนต์ จากอังกฤษที่เข้ามาร่วมทุนกับกลุ่มซัมมิท โอโตชีท ของกลุ่มจุฬางกรู (อ.ปลวกแดง)บริษัท โอมาดะ อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้ให้บริการประกอบ บำรุงรักษา ซ่อมแซมอากาศยาน เครื่องบิน จากสหรัฐอเมริกา (อ.ปลวกแดง), บริษัท มารุเอสุ แฟคโทรี่ ผู้ผลิตขนมขบเคี้ยว จากประเทศญี่ปุ่น (อ.เมืองระยอง), บริษัท เช่วเฉิน ซิลิก้า ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากซิลิก้า จากจีน, บริษัท เฉินทง อินเตอร์เนชั่นแนล พลาสติก ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์จากโพลิเมอร์-พลาสติก จากฮ่องกง, บริษัท ฉาง โฮริ่ง รับเบอร์ บริษัทผลิตวัตถุดิบส่วนผสมจากยางและพลาสติก จากไต้หวัน (อ.ปลวกแดง) เป็นต้น

ทุนส่วนกลางรุกหนัก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีบริษัทอสังหาฯจากส่วนกลางเข้าไปพัฒนาโครงการจำนวนมากเช่นเดียวกัน อาทิ บมจ. ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ลงทุนกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท ใน อ.ศรีราชา และใน จ.ระยอง อีก 2,300 ล้านบาท, บมจ. พฤกษา เรียลเอสเตท แผนปี 2561 จะเปิดโครงการใหม่ 8 โครงการ มูลค่า 5,529 ล้านบาท ประกอบด้วย ที่ จ.ชลบุรี 3 โครงการ ระยอง 3 โครงการ ฉะเชิงเทรา 2 โครงการ บมจ.ศุภาลัย เข้าไปพัฒนาเปิดโครงการใน จ.ชลบุรี และระยองมากที่สุด รวม 7 โครงการ มูลค่า 3,000 ล้านบาท

BTS จับ กนอ.ผุดขนส่งมวลชน

นอกจากนี้วันที่ 7 ก.พ. 2561 การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ร่วมกับ 6 หน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ สำนักงานเพื่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (สกรศ.) บมจ.บีซีพีจี, บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ BTSC, บจ.พีพีที โพลีเมอร์ โลจิสติกส์, บจ.บางกอก อินดัสเทรียล แก๊ส, บจ.โกลบอล ยูทิลิตี้ เซอร์วิส จะร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ EEC ในโครงการนิคมอุตสาหกรรม “สมาร์ทพาร์ค” พื้นที่ 1,500 ไร่ ในเขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง รองรับอุตสาหกรรมใหม่แห่งอนาคต ใช้เงินลงทุน 2,097 ล้านบาท

โดยนายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บีทีเอสซี กล่าวว่า ทาง กนอ.ให้บริษัทศึกษาโครงการระบบขนส่งมวลชน ระยะทางประมาณ 4 กม. เพื่อรองรับการเดินทางภายในนิคมอุตฯ ที่จะพัฒนาขึ้นมาใหม่

ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะเป็นรูปแบบไหน เช่น โมโนเรล รถแทรม หรือรถบัส อีก 2-3 เดือนจะได้ข้อสรุป และ กนอ.จะใช้โครงการระบบโครงสร้างพื้นฐานทั้งระบบขนส่ง ไฟฟ้า และประปาเป็นจุดขาย

อสังหาฯจีนซุ่มซื้อที่ดิน

ขณะที่นายมีศักดิ์ ชุนหรักษ์โชติ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า จากข้อมูลที่ระบุว่าในปี 2560 มีการจดทะเบียนบริษัทอสังหาฯ ในชลบุรีเพิ่มมากขึ้นนั้น ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะปลายปี 2560 ที่ผ่านมา รัฐบาลให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีในการโอนทรัพย์สิน ซึ่งรวมถึงที่ดินให้แก่บริษัทที่จัดตั้งขึ้นใหม่ ผู้ที่มีที่ดินที่ซื้อเก็บไว้อยู่จึงจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทอสังหาริมทรัพย์

ขณะเดียวกันเขต EEC ในอนาคตมีศักยภาพ และมีโอกาสเติบโตสูงโดยเฉพาะการลงทุนอสังหาฯ ซึ่งในระยะเวลาไม่กี่เดือนที่ผ่านมาทราบว่ามีกระแสหนาหูว่ามีนักลงทุนจีนมาหาซื้อที่ดินเพื่อลงทุนอสังหาฯ ใน EEC โดยต้องการซื้อที่ดินในเมืองชลบุรี บางแสน ศรีราชา และเมืองพัทยา

ส่วน น.ส.ณัฏฐนันท์ คุณาจิระกุล นายกสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์จังหวัดระยอง กล่าวว่า ในส่วนของระยอง ขณะนี้การลงทุนยังไม่คึกคักมากนัก ยอดขายอสังหาฯยังไม่หวือหวาแต่ไปได้เรื่อยๆ เนื่องจากสถาบันการเงินเริ่มผ่อนปรนการปล่อยสินเชื่อ ส่วนบริษัทที่จดทะเบียนมองว่าน่าจะเป็นบริษัทรายย่อยที่มองเห็นศักยภาพในการเติบโตโดยเฉพาะโซนปลวกแดงปัจจุบันมีโครงการขึ้นจำนวนมาก