แผนรุก เอสซีจี เซรามิกส์ ขยายฐาน COTTO นั่งในใจคนรุ่นใหม่

คอตโต้

เอสซีจี เซรามิกส์ โล่งใจไปเปลาะหนึ่ง ผลประกอบการปี 2565 รายได้โต 17% เม็ดเงิน 13,157 ล้านบาท

โดย “นำพล มลิชัย” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายกระเบื้องภายใต้ 3 แบรนด์หลัก ประกอบด้วย แบรนด์ “คอตโต้-COTTO”, แบรนด์ “โสสุโก้-SOSUCO” และแบรนด์ “คัมพานา-CAMPANA” ระบุปัจจัยท้าทายของปี 2565 อยู่ที่ต้นทุนวัตถุดิบและพลังงาน โดยเฉพาะราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

รายละเอียดผลประกอบการปี 2565 บริษัทมีรายได้จากการขายรวม 13,157 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ 17 เป็นผลจากการปรับราคาขายขึ้นและยอดขายภายในประเทศที่เติบโตขึ้น

อย่างไรก็ตาม บริษัทขาดทุนเท่ากับ 228 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 139 จากช่วงเดียวกันของปี 2564 หากไม่รวมรายการสำคัญ (key items) กำไรจากการดำเนินงานปกติจะเท่ากับ 469 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 13 เนื่องจากราคาพลังงานพุ่งสูง จนส่งผลกระทบต่อกำไรในไตรมาส 4/65

นำพล มลิชัย
นำพล มลิชัย

และคาดว่าจะยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ และสถานการณ์ตลาดกระเบื้องเซรามิกในปีนี้ต่อไปอีกระยะหนึ่ง

ตัวแปรต้นทุนวัตถุดิบ-พลังงาน

ทั้งนี้ บริษัทประเมินความต้องการใช้สินค้ากระเบื้องเซรามิกโดยรวมในปี 2566 มีแนวโน้มขยายตัวตามการฟื้นตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ และเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่น่าจะขยายตัวและมีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยมีแรงหนุนจากภาคการท่องเที่ยว

ช่วงเวลาเดียวกัน ในด้านต้นทุนการผลิตยังมีปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตามอง โดยเฉพาะราคาพลังงาน อัตราเงินเฟ้อ ทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และหนี้ครัวเรือน ที่มีผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค

“ปีนี้ เอสซีจี เซรามิกส์ เตรียมรับมือกับต้นทุนวัตถุดิบและต้นทุนพลังงานที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ด้วยการลดต้นทุนการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ และเร่งโครงการ energy saving ให้เกิดผลเร็วขึ้น”

กลยุทธ์การแข่งขันในส่วนรายได้และกำไร คาดการณ์ว่าจะได้ส่วนเพิ่มจากสินค้าและบริการใหม่ ๆ ทั้ง LT By COTTO, Pool&Decorative Tiles, C’TIS บริการติดตั้งวัสดุกรุผิวครบวงจร, ผลิตภัณฑ์ติดตั้งและซ่อมแซมพื้นผิว, susunn smart solution ธุรกิจด้านการจัดการพลังงานและด้านวิศวกรรม

ควบคู่กับเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน พร้อมกับรักษาส่วนแบ่งการตลาดและสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ ด้วยการมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ด้านการพัฒนาช่องทางจัดจำหน่าย เพื่อยกระดับความพึงพอใจของลูกค้าและคู่ค้า

คอตโต้

ขยายฐานลูกค้า Young Gen

เรื่องใหม่ในปีนี้จึงประกอบด้วย การร่วมกับร้านค้าโมเดิร์นเทรด ผู้แทนจำหน่าย ช่องทางออนไลน์ เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าได้ง่ายและทั่วถึง บริหารพอร์ตสินค้า โดยจะเน้นขายสินค้าที่มีกำไรสูง ตลอดจนปรับราคาสินค้าเพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนการผลิต

ควบคู่ไปกับการยกระดับมาตรฐาน ทั้งในด้านดีไซน์ ความสวยงาม คุณภาพสินค้า และการบริการที่เหนือกว่า เมื่อเทียบกับสินค้าทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะสินค้าที่มุ่งแข่งขันเรื่องราคาเป็นหลัก และมุ่งที่จะขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เริ่มเป็นกำลังซื้อที่สำคัญ

“ในปีนี้ COTTO มุ่งเน้นสื่อสารกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ โฟกัสกลุ่มเจ้าของบ้าน สถาปนิก ดีไซเนอร์ ให้มากขึ้น เนื่องจากกลุ่มคนรุ่นใหม่กำลังจะก้าวเข้าสู่ตลาดแรงงานมากขึ้นเรื่อย ๆ และเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อมากขึ้นในอนาคตด้วย เราจึงมีแนวทางพัฒนาสินค้าภายใต้ดีไซน์คอนเซ็ปต์ให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายที่อายุน้อยลง และมีสินค้าที่หลากหลายมากขึ้น”

ตัวชี้วัดแผนธุรกิจอยู่ที่ ทำให้ลูกค้านึกถึงแบรนด์ COTTO อยู่เสมอ เป็นการตอกย้ำว่าเราเป็นผู้นำเทรนด์ สามารถตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มได้ ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าในอดีต ปัจจุบัน หรือในอนาคต