นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนและบริหารโครงการเมืองอัจฉริยะ เปิดเผยว่า การประชุมเมื่อวันที่ 26 กันยายน เป็นการกำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาการเป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ซึ่งที่ประชุมได้เห็นชอบการกำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาทั้ง 7 ข้อ หรือ 7 Smarts ได้แก่ 1.Smart Living 2.Smart People 3.Smart Energy 4.Smart Environment 5.Smart Mobility 6.Smart Economy และ 7.Smart Government
โดยที่ประชุมได้กำหนดให้เมืองที่เข้ามาขอเป็น Smart City จะต้องผ่านอย่างน้อย 2 หลักเกณฑ์ (2 Smart) มี Smart Environment เป็นหลักเกณฑ์บังคับที่จะต้องผ่านในขั้นต้น ซึ่งคณะกรรมการที่จะพิจารณาตามหลักเกณฑ์ข้างต้น วิธีทำงานจะคล้ายกับคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติที่พิจารณารายงาน EIA แต่เราไม่ได้จับผิด เพียงแต่คัดเลือกให้เข้าเกณฑ์เท่านั้น
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- ตรวจหวย ใบตรวจหวย ผลรางวัล สลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน 2567
- ไทยสมัครสมาชิก OECD อย่างเป็นทางการแล้ว หวังยกระดับประเทศ-ช่วยเศรษฐกิจโต 1.6%
“ผู้ที่ยื่นจะเป็นรัฐหรือเอกชนก็ได้ แต่ต้องมาในนามนิติบุคคล หลังจากที่คณะกรรมการพิจารณาเสร็จแล้ว ก็จะส่งต่อให้คณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (สมาร์ทซิตี้) พิจารณา เมื่อผ่านแล้วก็จะเสนอสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เพื่อพิจารณาสิทธิประโยชน์ต่อไป”
นายไพรินทร์กล่าวอีกว่า หลังจากสรุปผลการประชุมแล้ว ก็จะเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ที่มี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ให้รับทราบและอนุมัติในวันที่ 27ก.ย.61
สำหรับเกณฑ์ 7 Smarts นั้นมีรายละเอียดดังนี้ 1.Smart Living ประชาชนต้องมีสุขภาพดี, เมืองปลอดภัย, มีสิ่งอำนวยความสะดวกรอบตัว) 2.Smart People ประชาชนมีความรู้และประยุกต์ใช้เทคโนโลยีได้, สภาพแวดล้อมต้องส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และเอื้อต่อการเรียนรู้, อยู่กันด้วยความหลากหลายทางสังคม 3.Smart Energy มีประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน, พลังงานทางเลือก)
4.Smart Environment ดูแลทรัพยากร, มีการจัดหารมลพิษ, รักษาสมดุลจากการพัฒนา, มีประสิทธิผภาพในการบริหารจัดการและติดตามสภาวะแวดล้อม 5.Smart Mobility สามารถเข้าถึงระบบขนส่งมวลชนสะดวกและปลอดภัย, มีประสิทธิภาพในการจัดการด้านโลจิสติกส์, มีการแบ่งปันและการใช้ยานพาหนะประหยัดพลังงาน 6.Smart Economy มีความคล่องตัวในการทำธุรกิจ, เชื่อมโยงและเกิดความร่วมมือทางธุรกิจ, ประยุกต์ใช้นวัตกรรมในการพัฒนาด้านธุรกิจ) และ7.Smart Government เข้าถึงบริการของรัฐ, พลเมืองมีส่วนร่วม, โปร่งใส ตรวจสอบได้
