ผุดทางด่วนใต้ดินเส้นแรกในไทย นำร่อง “ถนนนราธิวาส-สำโรง” 9 ก.ม.

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังร่วมงานวันคล้ายวันสถาปนาสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ครบรอบ 16 ปี วันที่ 9 ต.ค. ว่า ได้มอบหมายให้ สนข. เร่งศึกษาวิเคราะห์วางแผนโครงข่ายจราจรให้เชื่อมโยงกันทุกระบบ รวมทั้งเร่งแก้ปัญหารถติดในกรุงเทพฯ และปริมณฑลตามนโยบายของรัฐบาล โดยให้พิจารณาทำถนนทางลอดใต้ดิน หรือถนนอุโมงค์รอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อใช้เป็นเส้นทางบรรเทาการจราจรบนพื้นราบ เพราะปัจจุบันพื้นผิวจราจรมีอย่างจำกัด ร่วมทั้งมีการสร้างถนนลอยฟ้าไปมากแล้วซึ่งอาจจะขยายต่อไปอีกไม่ได้

นายชยธรรม์ พรหมศร รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงคมนาคมไปหามาตรการแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล แบบเร่งด่วน แนวทางหนึ่งคือให้ไปพิจารณาความเป็นไปได้ในการจัดสร้างถนนใต้ดินในลักษณะของอุโมงค์ เนื่องจากปัจจุบันถนนบนพื้นราบและถนนยกระดับในกทม. ได้สร้างขยายเกือบเต็มพื้นที่แล้ว ล่าสุดกระทรวงคมนาคม มอบให้ สนข. ดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาคาดว่าภายใน 2-3 เดือน จะเสนอผลการศึกษาไปให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาได้

“จากการศึกษาเบื้องต้นพบว่ามีความเป็นไปได้ที่จะจัดสร้างทางด่วนใต้ดินเส้นทางแรกในประเทศไทย เส้นทางจะเริ่มจากบริเวณถนนถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ไปจนถึง อ.สำโรง จ.สมุทปราการ เพราะเป็นเส้นทางที่มีลักษณะตัดตรง ในระยะยาว สามารถช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรหนาแน่น บริเวณสาธร สีลม และบริเวณใกล้เคียงได้มาก เบื้องต้นอาจจะสร้างเป็นทางด่วนใต้ดิน มีการเก็บเงินค่าผ่านทางสำหรับคนที่เข้ามาใช้ เพราะถือเป็นถนนทางเลือกสำหรับคนที่ไม่ต้องการไปเสียเวลากับรถติด”

รายงานข่าวจากสนข. ระบุว่า ทางด่วนใต้ดิน นราธิวาสฯ-สำโรง มีระยะทางประมาณ 9 ก.ม. เบื้องต้นอาจจะสร้างเป็นทาง 2 ชั้น โดยชั้นบนจะทำเป็นถนนให้รถโดยสารสาธารณะวิ่ง ส่วนชั้นล่างให้รถยนต์ส่วนบุคคลวิ่ง โดยจะมีการจัดเก็บค่าบริการเหมือนทางด่วนทั่วไป เพราะต้องใช้เงินลงทุนสูงมาก และยังถือเป็นถนนทางเลือกอีกด้วย ส่วนงบประมาณในการก่อสร้างนั้นอยู่ระหว่างการประเมิน ซึ่งจากการสำรวจงานก่อสร้างถนนใต้ดินพบว่ามีต้นทุนก่อสร้างสูง เฉลี่ยระหว่าง ก.ม.ละ 2,000-10,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับราคาที่ดินของแต่ละพื้นที่ ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 2-3 ปี

ทั้งนี้ หากมีการสร้างทางด่วนใต้ดินดังกล่าวจะช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดในกทม. ได้มาก โดยเฉพาะในพื้นที่ สาทร สีลม บางรัก พระราม 4 เป็นต้น เพราะสามารถระบายรถจากกทม. ออกไปยังสมุทรปราการได้เร็ว และยังสามารถเชื่อมต่อการเดินทางไปยังทางด่วนบางนานได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม สนข. ได้ทำการศึกษาถนนใต้ดินต้นแบบจากประเทศที่ประสบความสำเร็จในการก่อสร้างคือ ถนนใต้ดินย่านชินจูกุ ของประเทศญี่ปุ่น, เมืองบอสตัน สหรัฐอเมริกา มาเลเซียและออสเตรเลีย เป็นต้น

 

 

 


ที่มา ข่าวสดออนไลน์