เปิดประมูลสนามบินอู่ตะเภาก.พ.62 มั่นใจมี.ค.62ได้ผู้ชนะ

พลเรือตรีเกริกไชย วจนาภรณ์ รองปลัดบัญชีทหารเรือ ในฐานะผู้ดำเนินโครงการท่าอากาศยานอู่ตะเภา เปิดเผย ว่า ความคืบหน้าโครงการท่าอากาศยานอู่ตะเภาบนเนื้องที่ 6.5 พันไร่ ขณะนี้ได้มีเอกชนเข้ามาซื้อซองเพื่อเข้าร่วมประมูลโครงการนี้ 42 ราย แบ่งเป็นเอกชนชาวไทย 24 ราย และต่างชาติ 18 ราย โดยในวันที่ 28 กุมพาพันธ์ 2562 จะเปิดให้เอกชนยื่นข้อเสนอ และจะได้ตัวผู้ลงทุนในโครงการนี้ภายในเดือนมีนาคม 2562 และจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2566 จะเปิดดำเนินการได้ในช่วงต้นปี 2567 โดยโครงการนี้ในปัจจุบันมีผู้โดยสารมาใช้งานประมาณปีละ 3 ล้านคน แต่ในช่วงปีแรกที่เปิดดำเนินการในปี 2567 จะมีผู้โดยสารมาใช้บริการประมาณ 12 ล้านคน และจะเพิ่มเป็น 12 ล้านคนในปี 2566 จากนั้นภายใน ปี 2578 จะมีผู้โดยสารไม่ต่ำกว่า 30 ล้านคน

โดยโครงการนี้มีมูลค่าลงทุนประมาณ 2.7 แสนล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนภาครัฐ 17,768 ล้านบาท ในจำนวนนี้แบ่งเป็นการลงทุนสร้างทางวิ่งที่ 2 ทางขับ ระบบที่เกี่ยวข้อง และสาธารณูปโภคต่างๆ เช่น โรงไฟฟ้า โรงผลิตน้ำประปา โรงบำบัดน้ำเสีย นอกจากนี้เป็นการลงทุนระหว่างการบินไทยและแอร์บัส สร้างศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน ระยะแรก 500 ไร่ ประมาณ 6 พันล้านบาท การสร้างหอบังคับการบิน ระบบควบคุมการจราจรทางอากาศ ของบริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด รวมทั้งศูนย์ฝึกอบรมบุคลากรด้านการบินและอวกาศ 3 พันล้านบาท

ในส่วนของภาคเอกชนจะเป็นผู้ลงทุนอีกประมาณ 2 แสนล้านบาท จะลงทุนในส่วนของศูนย์การขนส่งภาคพื้น อาคารผู้โดยสารหลังที่ 3 ศูนย์ธุรกิจการค้า เขตประกอบการเสรี และธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ศูนย์ธุรกิจขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ และศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน ที่ภาคเอกชนลงทุน หรือศูนย์ซ่อมอากาศยานเฟส 2 ทั้งนี้ ในส่วนของศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน เฟส 2 คาดว่าในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2562 จะเห็นความชัดเจนในเรื่องของข้อเสนอคุณสมบัติของผู้ประมูล และการออกทีโออาร์ และได้ตัวนักลงทุนภายในปี 2562

“ศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน เฟส 2 จะเป็นการลงทุนของภาคเอกชนทั้งหมด โดยกองทัพเรือได้เตรียมพื้นที่ไว้ให้เช่าประมาณ 300 ไร่ คาดว่าจะรองรับภาคเอกชนได้ 3-4 ราย โดยภาครัฐจะมีรายได้จากค่าเช่าพื้นที่ตามเกณฑ์ของกรมธนารักษ์ บวกกับค่าตอบแทนอื่นๆที่เอกชนจะยื่นข้อเสนอมาประมูล ขณะนี้มีเอกชนหลายรายเข้ามาพูดคุย เช่น แอร์เอเชีย และบางกอกแอร์เวย์ เป็นต้น”พลเรือตรีเกริกไชยกล่าว

นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) กล่าวว่า โครงการท่าอากาศยานอู่ตะเภา จะต่อยอดขยายไปสู่มหานครการบินภาคตะวันออก โดยมีแผนที่จะพัฒนาพื้นที่โดยรอบสนามบินให้เป็นเมืองการบิน เพื่อรองรับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการบิน และ10 อุตสาหกรรมเป้าหมายของรัฐบาล รวมทั้งการท่องเที่ยวใหม่ๆที่จะเกิดขึ้น โดยแนวทางการขยายตัวจะแบ่งออกเป็น 2 แนว ได้แก่ แนวที่ 1 ขยายการท่องเที่ยวและเมืองทันสมัยน่าอยู่ ในเส้นทาง สนามบินอู่ตะเภา – สัตหีบ บางสะเหร่ จอมเทียน พัทยา ศรีราชา และเส้นทางสนามบินอู่ตะเภา บ้านฉาง มาบตาพุด ระยอง และเกาะเสม็ด แนวที่ 2 ขยายธุรกิจอุตสาหกรรมเป้าหมาย และบริการ ในเส้นทาง สนามบินอู่ตะเภา ตามถนน 331 ระยะทาง 60 กิโลเมตร ถึงศรีราชา บ้านบึง และเส้นทางสนามบิน – นิคมอุตสากรรมมาบตาพุด ถนน 3191 และถนน 36

โดยระยะเวลาการพัฒนาเมือง ภายใน 5 ปีแรก จะพัฒนาเมืองในเขต 10 กิโลเมตร รอบสนามบินอู่ตะเภา ครอบคลุมพื้นที่สัตหีบ บ้านฉาง บางสะเหร่ และจอมเทียน ภายใน 5-10 ปี จะพัฒนาเมืองในเขต 30 กอโลเมตรโดยรอบสนามบินอู่ตะเภา ครอบคลุมพื้นที่เมืองพัทยา ถึงเมืองระยอง ซึ่งจะรวมเป็นเขตพัฒนาเดียวกัน และภายใน 10-15 ปี จะพัฒนาเมืองรอบสนามบินอู่ตะเภา 60 กิโลเมตร

 

ที่มา  มติชนออนไลน์