พฤกษาชู “ลิฟวิ่งเทค” บุกตลาด ฟื้นแบรนด์บ้าน 10 ล้านแข่งครึ่งปีหลัง

ที่หนึ่งในใจผู้บริโภค - ค่ายอสังหาริมทรัพย์เบอร์ 1 ในมุมของการเปิดตัวโครงการใหม่มูลค่าสูงสุด ดีเดย์วันสิ่งแวดล้อมโลก5 มิถุนายน ลอนช์แคมเปญ "พฤกษา ลิฟวิ่งเทค" ต่อจิ๊กซอว์กลยุทธ์ก้าวสู่การเป็นแบรนด์ที่หนึ่งในใจผู้บริโภค

พฤกษาฯดีเดย์วันสิ่งแวดล้อมโลก 5 มิถุนายน ลอนช์แคมเปญ “ลิฟวิ่งเทค” ชู 4 แกนหลัก “Healthy-Green-Smart-Safety” ขับเคลื่อนความพึงพอใจลูกบ้าน เล็งฟื้นแบรนด์บ้านระดับบน “เดอะปาล์ม” เซ็กเมนต์เริ่มต้น 10 ล้านบาท กลับมาบุกตลาดอีกรอบช่วงครึ่งปีหลัง ต่อจิ๊กซอว์ปั้นยอดขายบ้านเดี่ยวแตะหมื่นล้าน

นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มพฤกษา เรียลเอสเตทแวลู บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า บริษัทเตรียมลอนช์แคมเปญใหม่ล่าสุด “พฤกษา ลิฟวิ่งเทค-เทคโนโลยีการอยู่อาศัยที่ทำให้ชีวิตคนไทยดีขึ้น” ในวันที่ 5 มิถุนายน 2562 นี้ ซึ่งเป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก เพื่อต่อยอดแผนธุรกิจเพื่อนำไปสู่เป้าหมายรายได้ปี 2562 จำนวน 47,000 ล้านบาท

ปักธง 3 แบรนด์บ้านเดี่ยว

หนึ่งในไฮไลต์ปีนี้ บริษัทต้องการผลักดันยอดขายและยอดรับรู้รายได้กลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยวมากขึ้น เป็นกลยุทธ์เพื่อรองรับเทรนด์ยอดขายสินค้าคอนโดมิเนียมที่มีแนวโน้มลดลง จากผลกระทบเศรษฐกิจชะลอตัว มาตรการ LTV-loan to value ของแบงก์ชาติ และภาวะกำลังซื้อลูกค้าจีนอ่อนตัวลง

โดยมีบ้านเดี่ยว 3 แบรนด์หลัก ได้แก่ “เดอะแพลนท์” ราคา 3-5 ล้านบาท ถือเป็นแบรนด์ธง พื้นที่ใช้สอย 100-165-168 ตารางเมตร เจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายซื้อเป็นบ้านหลังแรก คนทำงานวัย 30 ปีขึ้นไป

“บ้านหลังแรกจุดเน้นฟังก์ชั่นต้องครบ จอดรถ 2 คัน ชั้นล่างมีห้องเพิ่ม 1 ห้องสามารถดัดแปลงการใช้งานตามไลฟ์สไตล์เจ้าของบ้าน อาทิ ห้องทำงาน ห้องผู้สูงอายุ จุดเด่นคือสามารถคอมไบน์โซน หรือรวมพื้นที่ให้เป็นฟังก์ชั่นขนาดใหญ่ได้”

ส่วนชั้นบน ห้องมาสเตอร์เบดรูมต้องมีขนาดใหญ่ ห้องนอนอีก 2 ห้อง ไม่จำเป็นต้องมีห้องน้ำในตัว ดีไซน์เป็นห้องน้ำร่วม เหตุผลการออกแบบเพื่อต้องการให้ห้องนอนขยายใหญ่ขึ้น และยังคงคอนเซ็ปต์พื้นที่ชั้นบนสามารถคอมไบน์ฟังก์ชั่นได้เช่นเดียวกับชั้นล่าง

“เดอะแพลนท์ฟังก์ชั่นจะเยอะมาก สเป็กเราอิงกับโมเดล economy of scale”

บ้านเดี่ยวอีก 2 แบรนด์ คือ “ภัสสร” ราคา 5-10 ล้านบาท แบบบ้านสไตล์โมเดิร์นคอนเทมโพรารี เน้นพื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกขนาดใหญ่ รวมทั้งต้องมีโคเวิร์กกิ้งสเปซ ฟิตเนส สระว่ายน้ำครบครัน เจาะกลุ่มลูกค้าอายุ 40 ปีขึ้นไป

แบรนด์ระดับบนของบ้านเดี่ยว คือ “เดอะปาล์ม” ราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป บริษัทพักการพัฒนาโครงการ 4 ปีในช่วงที่ผ่านมา ปีนี้เตรียมนำกลับมาบุกตลาดใหม่อีกรอบในช่วงครึ่งปีหลัง

4 แนวคิดบุกสินค้าแนวราบ

ไฮไลต์โมเดลธุรกิจ “พฤกษา ลิฟวิ่งเทค” มี 4 แกนหลัก คือ Healthy, Green, Smart, Safety เป็นต้นทางในการต่อยอดนวัตกรรมเพื่อการพักอาศัยของลูกบ้านพฤกษาฯ ทุกโครงการ

เริ่มจากโมเดล “Healthy หรือเทคโนโลยีการอยู่อาศัยเพื่อสุขภาพ” แนวคิดสื่อถึงแบรนด์พฤกษาฯ ฟังก์ชั่นพื้นฐานมีเทียบเท่าคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็นพฤกษา เฟรช แอร์ และ ventilation house design แนวคิดการหมุนเวียนอากาศเพื่อให้ได้อากาศบริสุทธิ์ในตัวบ้าน

เรื่องใหม่ที่บริษัทนำเสนอเป็นรายแรกของวงการ คือ 02 Lounge-โอทูเลานจ์ ระบบฟอกอากาศบริสุทธิ์หรือระบบเติมออกซิเจน ติดตั้งบริเวณคลับเฮาส์ ลูกบ้านไปใช้บริการแล้วจะรู้สึกสดชื่นเหมือนอยู่ในเขาใหญ่

ผนึกการไฟฟ้าฯทำโซลาร์

ถัดมา โมเดล “Green-เทคโนโลยีการอยู่อาศัยเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม” จุดเน้นอยู่ที่ระบบน้ำและไฟฟ้าส่วนกลาง โดยบำบัดน้ำเสียมีเพนพอยต์หลักอยู่ที่ค่าไฟฟ้าแพงมาก มีการติดตั้งโซลาร์เซลล์เพื่อผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นพลังงานสะอาด

“ผมมีโครงการร่วมกับการไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค รวมทั้งเจรจาร่วมมือกับกลุ่ม Gunkul เป็นพันธมิตรทำงานร่วมกัน”

ผลประโยชน์ร่วมคือค่าไฟฟ้าสำหรับเดินเครื่องบ่อบำบัดน้ำเสียถูกลง จากเดิมบางโครงการเกือบ 1 แสนบาทก็สามารถลดค่าใช้จ่าย

“จุดประสงค์โมเดลนี้ พื้นที่ส่วนกลางต้องบริหารจัดการและทำให้สิ่งแวดล้อมมีมาตรฐานที่ดี เราทดลองทำ 2 ปีแล้ว หมู่บ้านไซซ์เล็กสุดเราก็ติดตั้งให้ขนาด 100 ยูนิตขึ้นไป อย่างน้อยที่สุดพิสูจน์แล้วว่าสามารถประหยัดค่าไฟนิติฯ และส่วนกลางได้ 60-70%”

ปั้นยอดขาย 9.8 พันล้าน

ถัดมา พฤกษา ลิฟวิ่งเทค “Smart-เทคโนโลยีการอยู่อาศัยเพื่อความสะดวกสบาย/เชื่อมต่อเทคโนโลยี” ซึ่งแน่นอนว่าระบบสมาร์ทโฮม ออโตเมชั่น หรือระบบบ้านอัจฉริยะ ได้กลายเป็นฟังก์ชั่นพื้นฐานในการแข่งขันไปแล้ว โดยสามารถสั่งการผ่านมือถือหรือสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทคาเมร่า, สมาร์ทล็อกเกอร์, เซ็นเซอร์ไลติ้ง, ยูเอสบีปลั๊ก, สมาร์ทสวิตช์ และระบบไวไฟในพื้นที่ส่วนกลาง

“ระบบบ้าน-คอนโดฯอัจฉริยะ ผมมองว่าบริษัทอสังหาฯทุกแบรนด์ทำเหมือนกันหมด เพียงแต่ใครจะเน้นหนักอะไร เซ็กเมนต์ไหนมากกว่ากัน”

โดยพฤกษา ลิฟวิ่งเทค ในส่วนสินค้าคอนโดฯ ทำเข้มข้นถึงระดับคอนเซ็ปต์สมาร์ทตั้งแต่ทางเข้า-ออกโครงการ มีระบบสมาร์ทปาร์กกิ้ง รู้ได้เลยว่ามีช่องจอดว่างตรงไหนบ้าง, สมาร์ทสปอร์ต ยุคนี้ต้องมีเลนวิ่งออกกำลังกายในพื้นที่ส่วนกลาง ฯลฯ

สุดท้าย “Safety-เทคโนโลยีการอยู่อาศัยเพื่อความปลอดภัย/อุ่นใจ” ไฮไลต์อยู่ที่ระบบรักษาความปลอดภัยสามชั้น หรือทริเปิลซีเคียวริตี้

“พฤกษา ลิฟวิ่งเทค ใช้ออโตเมชั่นช่วยเยอะ main gate ที่ประตูหน้าเราทำระบบประตูกั้นรถ-กั้นคน เราอยากให้คนเดินเข้าไม่ได้ มีอีกประตูต่างหากสำหรับคนเดินเท้า บางทีก็เรียกว่า night gate ถ้าเป็นทางรถผ่านมีไม้กระดก และทำประตูกั้นบริเวณคนเดิน เรื่องความปลอดภัยในตัวบ้านมีกล้อง ตัวล็อกสัญญาณ alarm ในซอยถนนโครงการมีกล้องซีซีทีวีทดแทนพนักงาน รปภ. เรียกว่าใช้กล้องมากขึ้น ใช้ รปภ.น้อยลง”

ทั้งนี้ สินค้าบ้านเดี่ยวตั้งเป้ายอดขาย 9,800 ล้านบาท คิดเป็น 18% ของเป้ายอดขายรวม 54,000 ล้านบาท ตั้งเป้ารายได้ 8,000 ล้านบาท คิดเป็น 17% จากเป้ารายได้ 47,000 ล้านบาท และวางแผนเปิดตัว 12 โครงการ มูลค่า 12,100 ล้านบาท จากเป้าทั้งปี 55 โครงการ มูลค่ารวม 68,100 ล้านบาท

นายปิยะกล่าวตอนท้ายว่า การลอนช์พฤกษา ลิฟวิ่งเทค เป้าหมายต้องการตอบโจทย์เรื่องการสร้างแบรนด์พฤกษา ให้เป็นแบรนด์ที่หนึ่งในใจผู้บริโภค มากกว่ามองเรื่องผลักดันยอดขาย ในแง่ผู้บริโภคต้องการให้ลดต้นทุนการพักอาศัยในโครงการ โดยภาพใหญ่ลิฟวิ่งเทคเป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย SD-Sustainable Development การพัฒนาโครงการที่มีความยั่งยืนทั้งผู้ประกอบการและลูกค้า