ปิดมหากาพย์เวนคืนมอเตอร์เวย์บางใหญ่ “ศักดิ์สยาม” แจกของขวัญปีใหม่3พันราย1.2หมื่นล.

กรมทางหลวงผ่าทางตันค่าเวนคืนมอเตอร์เวย์บางใหญ่-กาญจนบุรี หลังติดหล่ม 2 ปี กฤษฎีกาไม่ชี้ขาด ถอยหนึ่งก้าวคิดตามหลักเกณฑ์ มาตรา 21 ตาม พ.ร.บ.เวนคืนอสังหาริมทรัพย์ปี’30 ตัดราคาประกาศขายออก เผยประหยัดงบประมาณไปได้แต่ไม่มากจาก 12,345 ล้านบาท ชง “ศักดิ์สยาม” และ ครม.ไฟเขียว พ.ย.นี้ คาดจ่ายชดเชยชาวบ้านบางส่วนได้ไม่เกินปีใหม่

ปี’63 ลุยก่อสร้างเต็มสูบ

หลังจากโครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ระยะทาง 96 กม. ซึ่งกรมทางหลวง (ทล.) ลงทุน 49,120 ล้านบาท สร้างคืบหน้า 22% ล่าช้ากว่าแผน 2 ปี ทำให้การเบิกจ่ายงบประมาณ 2562 ล่าช้าเนื่องจากติดปัญหาเวนคืนที่ดินที่สูงขึ้น รอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติขยายกรอบวงเงินเวนคืนที่เพิ่ม 12,534 ล้านบาท จ่ายให้ผู้ถูกเวนคืนยังเหลือกว่า 3,000 ราย

โดยสำนักงบประมาณขอให้กระทรวงคมนาคมนำเรื่องการกำหนดค่าเวนคืนที่ดินให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาให้ความเห็นก่อนที่จะเสนอเรื่องไปยัง ครม.พิจารณาต่อไป โดยให้พิจารณาถึงการที่กรมทางหลวงดำเนินการตามคู่มือกระทรวงคมนาคมปี 2556 โดยนำราคาที่เสนอขายหรือประกาศขายที่ดินมาใช้อ้างอิงในการกำหนดค่าชดเชยด้วยนั้นมีความสอดคล้องมาตรา 21 ตาม พ.ร.บ.ว่าด่วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ 2530 หรือไม่

กฤษฎีกาไม่ชี้ขาดถูกหรือผิด

นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เมื่อวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ทำหนังสือตอบกลับมายังกรมแล้วว่ากรณีนี้เป็นเรื่องการปฏิบัติงานภายในของส่วนราชการ และมิใช่ปัญหาข้อกฎหมายที่คณะกรรมการกฤษฎีกาจะพิจารณาให้ความเห็นได้ จึงไม่มีประเด็นด้านข้อกฎหมายที่จะต้องพิจารณาให้ความเห็น

ทั้งนี้ กรมได้ประชุมหารือร่วมกับสำนักงบประมาณเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มีข้อยุติร่วมกันว่ากรมจะดำเนินการตามมาตรา 21 จะยกเลิกการนำราคาที่ประกาศขายมาเป็นส่วนประกอบในการคิดค่าชดเชยการเวนคืนด้วย จะพิจารณาตามหลักเกณฑ์ทั่วไป อ้างอิงจากราคาประเมินกรมธนารักษ์ ราคาซื้อขายที่มีการจดทะเบียนโอนกับกรมที่ดิน และทำเลที่ตั้งมาพิจารณาเป็นหลักเกณฑ์เดิมที่กรมเคยนำมาปฏิบัติอยู่แล้วก่อนหน้านี้

แต่กรณีของมอเตอร์เวย์สายบางใหญ่-กาญจนบุรี กรมนำคู่มือของกระทรวงมาดำเนินการที่ทำไว้เพื่อรับการอุทธรณ์จากผู้ถูกเวนคืนที่ดิน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมด้วยการนำ “ราคาประกาศขาย” มาคิดด้วย ขณะที่สำนักงบประมาณมองว่าตามมาตรา 21 ไม่มีเรื่องนี้จึงขอให้กฤษฎีกาตีความ

“กรมจะเร่งเดินหน้าต่อให้จบโดยเร็วตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้สั่งการเพื่อเร่งจ่ายค่าเวนคืนให้กับชาวบ้านตามที่ได้เจรจาไปเมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา หลังมีชาวบ้านชุมนุมที่รัฐสภาขอให้เร่งดำเนินการ”

ทางหลวงตัดราคาประกาศขาย

นายสราวุธกล่าวอีกว่า โดยกรมกลับไปใช้หลักเกณฑ์ตามมาตรา 21 จะทำให้ลดงบประมาณไปได้บางส่วนจากที่เพิ่มขึ้น 12,534 ล้านบาท แต่คงไม่มากเนื่องจากเมื่อมาพิจารณารายละเอียดยังมีผู้ที่ยังไม่ได้รับการเวนคืนกว่า 3,000 ราย ประกอบด้วย 3 ส่วน เป็นที่ดินประมาณ 2,500 แปลง สิ่งปลูกสร้าง 900 ราย ต้นไม้ 900 ราย

“ที่ดินที่จะต้องจ่ายค่าเวนคืน 2,500 แปลง จะต้องจ่ายค่าเวนคืนประมาณ 8,000-9,000 ล้านบาท ในนี้มี 500 แปลงที่ไม่ใช้ราคาประกาศขายมาเป็นฐานคำนวณ มีประมาณ 1,100 แปลงที่นำมาใช้ มีหลายพื้นที่ทั้งนนทบุรี นครปฐม ราชบุรี กาญจนบุรี และไม่มีผลกับราคาที่คณะกรรมการกำหนดออกมามากนัก โดยลดค่าเวนคืนไปได้ไม่ถึง 10%”

จ่ายชดเชยได้ก่อนปีใหม่

ในเร็ว ๆ นี้จะเสนอกรอบราคาทั้งหมดให้กระทรวงคมนาคม เพื่อเสนอไปยัง ครม.ภายในต้นเดือน พ.ย.นี้ หลังได้รับการอนุมัติแล้วคาดว่าจะจ่ายเงินชดเชยให้ประชาชนได้บางส่วนก่อนปีใหม่หรือไม่เกิน ธ.ค. 2562 นี้ ซึ่งงบประมาณทางสำนักงบประมาณและกรมบัญชีกลางได้จัดเตรียมไว้แล้ว รอ ครม.อนุมัติกรอบวงเงินที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น

นายสราวุธกล่าวอีกว่า เมื่อกรมสามารถแก้ปัญหาเรื่องการเวนคืนที่ดินได้ จะทำให้มอเตอร์เวย์สายบางใหญ่-กาญจนบุรีได้รับการเดินหน้าอย่างเต็มที่หลังจากล่าช้ามากว่า 2 ปี ซึ่งผลที่ตามมาจากการจ่ายค่าเวนคืนที่ดินได้ คือ ชาวบ้านที่เดือดร้อนจากการถูกเวนคืนได้รับค่าชดเชยเพื่อไปหาที่อยู่ใหม่ ผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการทั้ง 25 สัญญาได้ก่อสร้างโครงการให้เสร็จและทำให้นำเงินจากการเบิกจ่ายงบประมาณที่ค้างท่อในปี 2561-2562 และขอจัดสรรในปี 2563 วงเงินกว่า 15,000 ล้านบาทหมุนเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศได้

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า คาดว่าในเร็วๆ นี้ จะเสนอ ครม. พิจารณาเห็นชอบกรอบวงเงินเวนคืนมอเตอร์เวย์บางใหญ่-กาญจนบุรี ที่ปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งกฤษฎีกาได้ทำความคิดเห็นตอบกลับมาที่กรมทางหลวงแล้ว การดำเนินการดังกล่าวเป็นการบริหารภายในองค์กรของกรมทางหลวงไม่ใช่ปัญหาเรื่องข้อกฎหมาย เมื่อไม่มีปัญหา จึงได้นัดหมายกับสำนักงบประมาณ พิจารณาราคาเวนคืนที่เหมาะสมตามมาตรา 21 แห่ง พ.ร.บ.เวนคืนอสังหาริมทรัพย์ โดยได้ปรับกรอบวงเงินจากเดิม 14,217 ล้านบาท ลดลง 500 ล้านบาท เหลือประมาณ 13,000 ล้านบาท โดยสำนักงบประมาณได้เตรียมกรอบวงเงินงบประมาณไว้พร้อมแล้ว หากเสนอ ครม. และได้รับความเห็นชอบในสัปดาห์นี้ ก็จะสามารถนำเงินดังกล่าวไปจ่ายเวนคืนได้ครบก่อนช่วงปีใหม่นี้