นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กำลังหารือร่วมกับกรมท่าอากาศยาน (ทย.) เพื่อวางแผนโครงการก่อสร้างโรงเก็บและซ่อมบำรุงเครื่องบินขนาดใหญ่ (แฮงการ์) โดยสถานที่ที่เหมาะสมคือ สนามบินจ.ตาก พื้นที่ประมาณ 3,000 ไร่ ซึ่งมีการลงทุนในสนามบินนี้ไปประมาณ 1,000 ล้านบาท
แต่ไม่ได้มีการใช้ประโยชน์อะไรเท่าที่ควร อีกทั้งในตัวจังหวัดเองก็มีสนามบินที่อ.แม่สอด เป็นสนามบินหลักอยู่แล้ว จึงเห็นว่าควรปรับสนามบินจ.ตากเป็นแฮงการ์จะดีกว่า โดยจะต้องต่อรันเวย์ของสนามบินให้ยาวถึงอีก 300 เมตร จาก 1,800 เมตรเป็น 2,100 เมตร
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
สาเหตุที่คิดจะดำเนินการโครงการนี้ เนื่องจากเห็นว่า โครงการศูนย์ซ่อมเครื่องบิน (MRO) ที่สนามบินอู่ตะเภา ซึ่งเป็นโครงการลงทุนในแผนของบมจ.การบินไทย แต่ที่ผ่านมาสำนักงานคณะ กรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ในฐานะเจ้าของโครงการยังไม่สามารถหาผู้ร่วมทุนในโครงการดังกล่าวได้สักที โดยกลุ่มแอร์บัสก็ได้ถอนตัวออกไปจากโครงการนี้แล้วไปลงทุน MRO ที่ประเทศมาเลเซียแทน ดังนั้น ก็เป็นการยากแล้วที่แอร์บัสจะหวนกลับมาลงทุนที่ไทยอีก
“อีกประการหนึ่งคือ ในช่วงตอนบนของภูมิภาคอาเซียนนับรวมทั้งเมียนมาร์ ลาว กัมพูชา เวียดนาม รวมถึงประเทศจีนตอนใต้ มีเครื่องบินบินผ่านจำนวนหลายพันลำ/วัน และยังไม่มีแฮงการ์ขนาดใหญ่ที่รองรับบริการในช่วงนี้ จึงเป็นช่องทางที่จะผุดแฮงการ์ดังกล่าวขึ้น เพื่อหารายได้เข้าประเทศได้ ซึ่งกรมท่ากาอาศยานสามารถดำเนินการลงทุนแบบ PPPได้ไม่ติดขัดอะไร”
ขณะที่ผู้ร่วมลงทุน เบื้องต้นมีพูดคุยกับหลายบริษัททั้งในไทยและต่างประเทศ แต่เนื่องจากโครงการนี้ยังไม่เปิดตัวเป็นทางการ จึงเป็นการพูดคุยกันในเชิงเชิญชวนไว้ก่อน ซึ่งผลตอบรับก็มีหลายบริษัทให้ความสนใจที่จะเข้าร่วมลงทุนหลายประเทศ