“น้อยแต่มาก” – เหล่านี้คือคำศัพท์และแนวคิดบางส่วนที่นึกถึงทันทีเมื่อนึกถึงความเรียบง่าย เป็นไปไม่ได้ที่จะปฏิเสธความงามที่เรียบง่ายเมื่อเผชิญกับการตกแต่งภายในแบบมินิมัล ยากกว่าการเลือกเฟอร์นิเจอร์ไม่กี่ชิ้นสำหรับฉากหลังสีขาว ซึ่งอาจทำให้พื้นที่รู้สึกเย็น การออกแบบการตกแต่งภายในที่เรียบง่ายและเรียบง่ายที่สวยงาม เรียนรู้แนวคิดของความเรียบง่ายสำหรับบ้านคุณและวิธีที่พวกเขาประสบความสำเร็จในการตกแต่งภายในที่เน้นรูปแบบสำหรับสถาปนิก
สไตล์มินิมอลเป็นเทรนด์การออกแบบบ้านในปัจจุบัน ดังนั้นลิฟท์บ้านที่ออกแบบในสไตล์มินิมอล จึงเป็นที่นิยมและใช้งานกันอย่างแพร่หลายจากผู้คนจำนวนมาก มาดูกันว่าลิฟท์บ้านสไตล์มินิมอล ลิฟท์ไม่มีห้องเครื่อง จากคาเลีย ลิฟท์มีความพิเศษอย่างไรผ่านบทความด้านล่างนี้!
- พระราชประวัติ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ วันคล้ายวันประสูติ 29 เมษายน
- “มะพร้าว” ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ ลูกเดียว 65-80 บาท เกิดอะไรขึ้น?
- ด่วน! โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม.เศรษฐา 1/1 รัฐมนตรีใหม่ 13 ตำแหน่ง
1. เทรนด์การเลือกลิฟท์ดีไซน์มินิมอลสำหรับอพาร์ทเม้นท์หรือบ้านยุคใหม่
สไตล์มินิมอลเป็นที่รู้จักจากเนื้อหาและการจัดวางตามหลักการ “Less is more” ลดทุกสิ่งในบ้านตั้งแต่สีไปจนถึงจำนวนเฟอร์นิเจอร์ … เรียบง่ายแต่ยังคงให้ความรู้สึกหรูหรา
ลิฟท์ไม่มีห้องเครื่องสไตล์มินิมอลได้รับการออกแบบให้มีพื้นที่โปร่งโล่งและเต็มไปด้วยแสงสว่าง สร้างเอฟเฟกต์ความงามผ่านภาพ การตกแต่งภายในลิฟท์มีเส้นสายเรียบง่าย ไม่เยอะ ทำให้ห้องโดยสารลิฟท์รู้สึกกลมกลืนและระบายอากาศได้ดี
จุดเด่นในการออกแบบลิฟท์บ้านแบบ มินิมอล
1.1. หลักการ “น้อยแต่มาก”
ลิฟท์แบบมินิมัลได้รับการออกแบบตามหลักการลักษณะเฉพาะของ “Less is more – Less is more” ดังนั้น ทุกรายละเอียดการออกแบบจึงรับประกันความเรียบง่ายอย่างแท้จริง ขจัดรายละเอียดที่ไม่จำเป็น จัดลำดับความสำคัญของส่วนประกอบที่รวมฟังก์ชันต่างๆ เพื่อทำให้การตกแต่งภายในห้องโดยสารลิฟท์โดยรวมง่ายขึ้น การออกแบบลิฟท์แบบมินิมอลในพื้นที่ใช้สอยโดยรวม
1.2. สีจำกัดใน 1 ลิฟท์
ใช้สีหลักไม่เกิน 3 โทนสี: สีหลัก สีพื้นหลัง และสีเฉพาะจุด อย่าใช้สีมากกว่า 4 สีในการออกแบบเดียวกันเพื่อให้แน่ใจว่ามีความเรียบง่าย ขอบเขตสีที่ใช้มากที่สุดในการออกแบบสไตล์มินิมอลคือสีกลางๆ นุ่มนวล เช่น สีเทา สีขาว เป็นต้น ใช้สีน้อยลงทำให้ลิฟท์หรูหราและซับซ้อน เหมาะกับบ้านหลากสไตล์
1.3. การออกแบบผนังกระจก – การใช้แสงเป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบ
ผนังกระจกลิฟท์แบบมินิมัลมักทำจากกระจกนิรภัย ช่วยให้แสงส่องผ่านเข้าไปในห้องโดยสารลิฟท์ได้ ทำให้เกิดภาพที่ชัดเจน นอกจากนี้ การใช้เอฟเฟ็กต์เงายังช่วยขับเน้นรูปทรงภายใน ทำให้เกิดความลึกให้กับสถาปัตยกรรมโดยรวม ลิฟท์แก้วหรือลิฟท์บ้านไม่มีห้องเครื่องนั้น ทำให้ห้องโดยสารดูกว้างขวางและโปร่งสบายขึ้น ทำให้พื้นที่ลิฟท์โดยรวมเต็มไปด้วยแสงสว่าง
1.4. การตกแต่งภายในและการออกแบบที่เรียบง่าย
การออกแบบภายในแบบมินิมอล ถูกย่อส่วนรวมฟังก์ชั่นต่างๆ ไว้ในส่วนเดียวกันเพื่อประหยัดพื้นที่และพื้นที่ใช้สอยภายในอย่างมาก เรียกได้ว่าการออกแบบลิฟท์บ้านแบบ มินิมอล นั้นนำความมินิมอลมาแต่ยังคงความหรูหราสวยงามในแต่ละดีไซน์ ลิฟท์แบบมินิมอลนั้นเหมาะกับสไตล์การออกแบบบ้านส่วนใหญ่ ตั้งแต่แบบเรียบง่าย แบบวาบิ-ซาบิ เกิดจากแนวคิดที่มุ่งเน้นให้มองหาความสุขในความไม่สมบูรณ์แบบ สิ่งเหล่านี้ยังงดงามน่าหลงใหลแม้จะเป็นสิ่งของที่มีตำหนิแล้วก็ตาม ไปจนถึงสไตล์นอร์ดิก กำลังเป็นที่น่าจับตามองในวงการออกแบบสถาปัตยกรรมสีเขียว เช่น สแกนดิเนเวียน สไตล์หรูหรา คลาสสิค
2. ลิฟท์บ้านดีไซน์ มินิมอล ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของเรา
2.1. X80 – ดีไซน์เรียบง่ายน่าดึงดูด
ลิฟท์ของของ Kalea ได้รับการออกแบบในสไตล์ มินิมอล เรียบง่ายทันสมัย ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดและการออกแบบพัดลมพิเศษ ได้รับการออกแบบให้มีรุ่นใหม่ เพื่อประสบการณ์การเดินทางที่ปลอดภัยและสะดวกสบายที่สุด ระบบไฟพร้อมไฟส่องสว่าง 5 ดวง ผสานกับระบบพัดลมทันสมัยที่มีเฉพาะในและระบบขับเคลื่อน EcoSilent ช่วยให้ลิฟท์เคลื่อนที่ได้อย่างราบรื่น ประหยัดพลังงานสูงสุด
2.2. X50 – เรียบง่ายและครบครัน
ลิฟท์ซีรีส์แบบแพลตฟอร์ม มีการออกแบบที่เรียบง่ายตามแบบฉบับของสไตล์ มินิมอล ซึ่งช่วยเพิ่มสุนทรียภาพให้กับลิฟท์สายนี้ ได้รับการติดตั้งด้วยไฟสัญญาณแผงควบคุมพิเศษเฉพาะในซีรีส์ X ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในลิฟท์ที่ทันสมัยที่สุดในตลาดปัจจุบัน ช่วยเติมเต็มพื้นที่ห้องโดยสารด้วยแสงที่สวยงาม แผงควบคุมได้รับการออกแบบในสไตล์มินิมัล โดยผสมผสานเทคโนโลยีขั้นสูงและเซ็นเซอร์ความปลอดภัยเข้าด้วยกันเพื่อช่วยให้คุณรู้สึกปลอดภัยเมื่อต้องเดินทาง
3. ข้อสังเกตในการติดตั้งลิฟท์ที่มีดีไซน์แบบ มินิมอล
เพื่อให้สามารถเลือกลิฟท์สไตล์ มินิมอล ที่เหมาะกับพื้นที่ใช้สอยของคุณได้มากที่สุด คุณควรคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้:
1 – เลือกสีลิฟท์ให้เหมาะสมกับการออกแบบโดยรวม: ควรเลือกลิฟท์ที่มีโทนสีเดียวกับผนังและภายในบ้าน สร้างความกลมกลืนให้กับพื้นที่
2 – น้ำหนัก ความจุ ของลิฟท์: ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ใช้ คุณเลือกน้ำหนักที่เหมาะสมของลิฟท์ คุณสามารถดูคู่มือการเลือกโหลดต่อไปนี้:
ครอบครัว 3-4 คน รับน้ำหนักได้ 300 – 350 กก
ครอบครัว 5-6 คน: รับน้ำหนักได้ 400 กก. – 450 กก
ครอบครัว 7 – 8 คน: ลิฟท์ที่มีความจุมากกว่า 500 กก
3 – เลือกคุณสมบัติที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้: ลิฟท์แบบ มินิมอล มักจะรวมเข้ากับคุณสมบัติที่ทันสมัยมากมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพประสบการณ์การเดินทางให้กับผู้ใช้ สำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็กและผู้สูงอายุ คุณควรให้ความสำคัญกับการเลือกลิฟท์ที่มีคุณสมบัติด้านความปลอดภัย เช่น ล็อคนิรภัยสำหรับเด็ก ไฟ ระบบเตือนภัย เป็นต้น
4 – ให้ความสำคัญกับการเลือกลิฟท์ไม่ต้องขุดบ่อ: ลิฟท์ไม่มีห้องเครื่อง ทำให้การติดตั้งง่ายขึ้น ลดระยะเวลาการติดตั้ง และหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อโครงสร้างบ้าน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งาน เหมาะสำหรับอพาร์ตเมนท์ปรับปรุงใหม่
5 – จัดลำดับความสำคัญของการออกแบบลิฟท์แก้ว: การออกแบบผนังกระจกให้แสงส่องผ่านลิฟท์ ทำให้รู้สึกโปร่งโล่งและกว้างขวางมากขึ้น นอกจากนี้ ลิฟท์แก้วยังช่วยให้ผู้คนในลิฟท์มองเห็นผู้คนภายนอกและในทางกลับกัน ช่วยสร้างความรู้สึกปลอดภัยเมื่อเคลื่อนไหวในลิฟท์
6 – เลือกผู้ติดตั้งมืออาชีพ: คุณควรเลือกบริษัทที่มีชื่อเสียง มีความเชี่ยวชาญและเทคนิคระดับสูง เพื่อรับประกันผลิตภัณฑ์และคุณภาพการก่อสร้างที่ดี ช่วยให้ลิฟท์ทำงานได้อย่างเสถียร ลดการเกิดขึ้นระหว่างการใช้งาน
หวังว่าบทความเกี่ยวกับการออกแบบลิฟท์แบบ มินิมอล จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่คุณมากมาย หากคุณมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับลิฟท์สไตล์มินิมอลหรือสายผลิตภัณฑ์ของ Kalea โปรดติดต่อเราเพื่อรับคำแนะนำโดยเฉพาะ!
สามารถเข้าทดลองลิฟท์ของเราที่โชว์รูมได้ทุกวัน เวลา10.00-19.00น : Kalea Lift 891/62 ถนนพระราม 3 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพฯ
โทรเพื่อโทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดเข้าทดลองลิฟท์ : 02-114 6100
