อีกหนึ่งปัญหาผิวบนใบหน้าที่เป็นตัวกระชากวัยให้กับเราได้ง่าย ๆ เลยก็คือปัญหา “ร่องแก้มลึก” หรือภาษาอังกฤษที่เรียกว่า “cheek groove” มีลักษณะเป็นร่องอยู่บริเวณข้างจมูก และมักจะปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัดคือตอนที่เรายิ้มหรือหัวเราะออกมา บางรายเพียงแค่ทำหน้านิ่ง ๆ ก็เห็นร่องอย่างชัดเจน จนทำให้หลายคนสูญเสียความมั่นใจไปไม่น้อยกับปัญหาเหล่านี้ เพราะมันทำให้ใบหน้าดูมีอายุและดูโทรมลง ในบทความนี้เราก็เลยจะชวนมาไขข้อข้องใจให้หมดเปลือกไปเลยว่าแท้จริงแล้วร่องแก้มเกิดจากอะไร สามารถแก้ไขด้วยวิธีการใดจึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มช่วยได้ดีจริงไหม มาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันเลยค่า
ร่องแก้มลึก คืออะไร
ขออธิบายก่อนว่าร่องแก้มสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนเมื่อเราแสดงสีหน้า โดยจะมีลักษณะเป็นเส้นเฉียง ๆ ตั้งแต่บริเวณข้างแก้มลงมาจนถึงเหนือมุมปากเล็กน้อย ซึ่งเมื่อเราแสดงอารมณ์ความรู้สึก เช่น ยิ้ม หัวเราะ ก็จะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าหดเกร็งจนเกิดเป็นร่องแก้มขึ้น มันเป็นกลไกทางธรรมชาติของมนุษย์ แต่ระดับความเด่นชัดหรือความลึกของริ้วรอยส่วนนั้นก็อาจจะแตกต่างกันออกไป สำหรับผู้ที่มีร่องแก้มลึกมักเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุค่ะ
ร่องแก้มกับร่องน้ำหมาก เหมือนกันไหม ?
หลายคนมักเกิดความเข้าใจผิดว่าร่องแก้มก็คือตำแหน่งเดียวกันกับร่องน้ำหมาก แต่แท้จริงแล้วมันอยู่คนละส่วนกันค่ะ ร่องแก้มจะอยู่บริเวณเหนือปาก แต่ร่องน้ำหมากคือริ้วรอยที่ปรากฏอยู่ตรงบริเวณมุมปาก อย่างไรก็ตามทั้งสองปัญหานี้มักจะเกิดขึ้นจากสาเหตุที่คล้ายคลึงกัน
ปัญหาร่องแก้มลึกส่วนมากจะอยู่ในช่วงอายุเท่าไหร่
มันสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกช่วงอายุเลยค่ะ บางคนที่เป็นมาตั้งแต่กำเนิดก็อาจจะเกิดร่องแก้มขึ้นได้แม้ยังอยู่ในวัยเด็ก โดยส่วนใหญ่แล้วปัญหาร่องแก้มลึกจะอยู่ในช่วงอายุ 30-35 ปีขึ้นไป ซึ่งจะเป็นช่วงที่มีการยุบตัวบริเวณใต้ตารวมไปถึงร่องแก้มทำให้เกิดความหย่อนคล้อยได้ค่ะ
ไขข้อสงสัย สาเหตุของการเกิดปัญหาร่องแก้ม เกิดจากอะไร ?
อายุที่มากขึ้น – เมื่ออายุเราเพิ่มมากขึ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ชั้นผิวก็จะเสื่อมประสิทธิภาพลง จากผิวที่เคยเต่งตึง กระชับก็กลับหย่อนคล้อยลงจนทำให้เกิดเป็นร่องแก้มลึกมากอย่างเห็นได้ชัด จากนี้เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นกล้ามเนื้อและไขมันก็จะค่อยๆยุบตัวลง ส่งผลให้ผิวดูหย่อนคล้อยจนเกิดร่องแก้ม
การแสดงสีหน้า – การแสดงอารมณ์บนใบหน้าบ่อย ๆ เช่น การยิ้ม หัวเราะหรือร้องไห้ มีส่วนทำให้กล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าเกิดการเคลื่อนไหวจนนำพาไปสู่ริ้วรอย หลังจากนั้นมันจะค่อย ๆ สะสมจนเกิดเป็นริ้วรอยลึกแบบถาวร
แสงแดดทำร้ายผิว – รังสียูวี รวมไปถึงฝุ่นและมลภาวะภายในอากาศเป็นบ่อเกิดแห่งการทำร้ายผิวชั้นดี เมื่อผิวของเราได้รับสิ่งเหล่านี้อยู่เป็นประจำทุกวัน ไม่มีการดูแลด้วยวิธีที่ถูกต้องส่งผลให้ผิวบางลง เห็นเป็นริ้วรอยหรือผิวหน้าดูเหี่ยวย่นลงได้
ความเครียด พักผ่อนน้อย – ความเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอ นอกจากจะเป็นตัวทำลายสุขภาพแล้วมันยังเป็นตัวทำลายระบบโครงสร้างของผิวเราอีกด้วย ส่งผลให้เกิดปัญหาผิวเสื่อมโทรม มีริ้วรอยและเกิดร่องลึก
การเกิดไขมันสะสม – ปัญหานี้มักเกิดขึ้นกับผู้ที่มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น หรือมีภาวะความอ้วนจนเกิดไขมันสะสมทำให้เนื้อบริเวณแก้มนูนขึ้น ทำให้แก้มดูหย่อนลงจนเกิดเป็นร่องแก้มชัด
ทั้งหมดที่กล่าวไปข้างต้นล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดปัญหาริ้วรอยร่องแก้มที่สร้างความมั่นใจให้กับเราทุกครั้งเวลายิ้มหรือส่องกระจก แต่ปัญหาเหล่านี้จะดีขึ้นได้ถ้าเราเข้าใจและเรียนรู้ที่จะแก้ไขมันด้วยวิธีที่ถูกต้อง ซึ่งจะมีวิธีการใดบ้างไปดูกันเลยค่า
ปัญหาร่องแก้มลึก จัดการด้วยวิธีไหนได้บ้าง ?
- มองหาสกินแคร์ที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย
สกินแคร์สมัยนี้มีให้เราเลือกเยอะแยะมากมาย และถูกผลิตขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์สภาพผิวที่หลากหลาย ดังนั้นการที่เราจะเลือกใช้สกินแคร์ตัวไหนก็ตามแนะนำว่าให้ดูว่าเรามีสภาพผิวแบบไหน มีปัญหาผิวในเรื่องใดก็ให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับเรา ซึ่งส่วนผสมในผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย หรือชะลอการเกิดริ้วรอยก็จะมี วิตามินซี, กรดไฮยาลูรอน, เปปไทด์, เรตินอล ส่วนผสมเหล่านี้มีหน้าที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน เป็นเกราะป้องกันผิว ให้ผิวมีความชุ่มชื้น เรียบเนียน และยังช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยร่องแก้มได้ด้วยค่ะ
ข้อดีของการทาสกินแคร์ : ถึงแม้ว่ามันจะเป็นวิธีที่ต้องใช้ระยะเวลาในการเห็นผลลัพธ์แต่ถ้าหากเรามีการบำรุงอยู่เป็นประจำมันจะไม่ได้ช่วยแค่ลดเลือนริ้วรอยลงได้เท่านั้นแต่ยังช่วยให้ผิวชะลอการเสื่อมสภาพลง ไม่ทำให้เกิดปัญหาผิวอื่น ๆ เข้ามากวนใจ
- ปรับเปลี่ยนการนอนสามารถช่วยได้
ร่องแก้มแก้ได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอน ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบนอนตะแคงหรือนอนหันข้างบ่อย ๆ เพราะการนอนท่านี้ รวมไปถึงการนอนคว่ำจะทำให้ใบหน้าของเราถูกกดทับและเกิดรอยย่นขึ้นได้ หากไม่อยากหน้าแก่ก่อนวัยอันควรแนะว่าควรปรับให้ตัวเองนอนหงายจะดีที่สุดค่ะ
ข้อดีของการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอน : นอนหงายเป็นท่าที่เหมาะสำหรับการนอนมากที่สุด ไม่ทำให้มีริ้วรอยเข้ามากวนใจ และยังช่วยปกป้องผิวหน้าลดการเกิดแรงเสียดสีระหว่างใบหน้ากับหมอน ทำให้ใบหน้าของเราห่างไกลจากปัญหาสิวได้ด้วย
- นวดลดร่องแก้ม
หลัก ๆ แล้วการนวดหน้าจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบริเวณใบหน้า ทำให้ผิวกลับดูกระชับขึ้นกว่าเดิม ริ้วรอยต่าง ๆ ลดเลือนลงอีกทั้งยังช่วยให้ผิวรู้สึกผ่อนคลายมากยิ่งขึ้นด้วย เหมือนเวลาเราออกกำลังกายเพื่อสร้างความกระชับให้กับสัดส่วนนั่นเองค่ะ แนะนำว่าก่อนนวดให้ลงสกินแคร์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวด้วยนะคะ ซึ่งวิธีการนวดหน้าก็สามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่ 2 ขั้นตอนง่าย ๆ
- ใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างค่อย ๆ รีดผิวให้ตึงจากมุมปากไปจนถึงข้างหู
- ใช้นิ้วกลางและนิ้วนางรีดผิวจากบริเวณร่องแก้มไปจนถึงหู
นอกจากจะช่วยให้ผิวเกิดการไหลเวียนได้ดีแล้วก็ยังช่วยให้สกินแคร์ที่เราใช้ซึมเข้าผิวได้ดีขึ้นด้วย โดยทั้งสองขั้นตอนนี้ควรนวดด้วยน้ำหนักที่พอดีไม่ออกแรงนวดมากจนเกินไป สามารถทำได้ทุกวัน วันละ10-15 นาที
ข้อดีของการนวดหน้า : ทำให้เลือดเข้ามาหล่อเลี้ยงผิวหน้าได้ดียิ่งขึ้น แม้มันจะไม่ได้เป็นการแก้ไขที่ตรงจุดกับการลดริ้วรอยร่องแก้มมากนัก แต่มันก็จะเป็นตัวช่วยให้ผิวเกิดความกระชับ ขจัดสารพิษบนผิวหน้าได้ดี
- การรับประทานอาหารเสริม
อาหารเสริมที่แนะนำก็จะเป็นอาหารเสริมประเภทต้านอนุมูลอิสระ, โปรตีนที่สกัดจากปลาทะเล, กรดไขมันจำเป็น ที่ผ่านการวิจัยรองรับว่าสารอาหารเหล่านี้จะเข้ามาช่วยให้ผิวเกิดความแข็งแรง ให้ริ้วรอยลึกดูตื้นขึ้น แต่อย่างไรก็ตามการรับประทานอาหารเสริมควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการเพื่อให้ร่างกายได้รับคุณค่าจากสารอาหารได้อย่างตรงจุด
ข้อดีของการรับประทานอาหารเสริม : สารสกัดที่อยู่ในผลิตภัณฑ์เหล่านั้นไม่ได้เพียงแค่เข้าไปฟื้นฟูริ้วรอยเท่านั้น แต่มันยังช่วยมอบคุณประโยชน์ให้กับร่างกายและสุขภาพผิวโดยรวมให้ดีขึ้นไปด้วย
- กลบร่องลึกด้วยเมคอัพ
บอกเลยว่าพลังเมคอัพไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ ค่ะ เพราะนอกจากจะช่วยให้ใบหน้าของเราดูสดใสขึ้นมาแล้วก็ยังสามารถกลบจุดด่างดำ ริ้วรอยต่าง ๆ ที่ไม่ต้องการให้ปรากฏบนใบหน้าให้ดูลบเลือนไปได้ สำหรับปัญหาริ้วรอยร่องลึก ไอเท็มที่สำคัญเลยก็คือคอนซีลเลอร์ แนะนำให้ใช้คอนซีลเลอร์มาแต้มในจุดที่เกิดริ้วรอย จากนั้นใช้แปรงหรือฟองน้ำค่อย ๆ เกลี่ยให้สม่ำเสมอดูเรียบเนียนไปกับผิวแล้วค่อยลงรองพื้น แต่รองพื้นก็ไม่ควรลงจนหนามากเกินไปจะช่วยเพิ่มความแนบเนียนได้มากยิ่งขึ้นค่ะ
ข้อดีของการแต่งหน้ากลบร่องแก้ม : เราสามารถลบจุดด้อยบนใบหน้าได้ตามความต้องการ อีกทั้งยังช่วยเนรมิตให้ใบหน้าของเราดูสดใสเหมือนย้อนวัยให้กับตัวเอง
- การผ่าตัดลดร่องแก้ม
นวัตกรรมทางการแพทย์เริ่มมีวิวัฒนาการที่ทันสมัยมากขึ้น ทำให้เราสามารถจัดการกับปัญหาร่องแก้มได้ด้วยการรักษาของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สำหรับใครที่ไม่กลัวการผ่าตัดขอแนะนำวิธีนี้เลยค่ะ ซึ่งมันจะเป็นการผ่าตัดเล็กเสริมซิลิโคนเข้าไปในบริเวณใต้ร่องแก้ม แพทย์จะใช้วิธีการเปิดแผลภายในช่องปากทำให้บริเวณภายนอกผิวจะไม่ปรากฏรอยแผลให้ได้เห็นเลยค่ะ จะใช้ระยะเวลาในการทำประมาณ 40 นาทีไปจนถึง 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน
ข้อดีของการผ่าตัด : แม้จะเป็นทางเลือกที่ค่อนข้างเจ็บแต่มันก็เป็นวิธีที่จะทำให้เราสามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างถาวร หลังจากที่แผลได้รับการฟื้นฟูอย่างเต็มที่ก็จะเห็นร่องแก้มที่ดูตื้นขึ้นได้เลยทันที
บอกลาปัญหาหน้าแก่ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ให้ผลลัพธ์สุดปัง !
เป็นทางเลือกยอดฮิตเลยก็ว่าได้ค่ะสำหรับการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เป็นหัตถการด้านความงามที่ใช้สารประเภท Hyaluronic Acid (HA) เข้าไปที่บริเวณใบหน้าในจุดที่มีปัญหาริ้วรอยร่องลึก เพื่อให้ผิวดูอิ่มฟู หนาแน่นและคืนความอ่อนเยาว์ได้ดี มีความปลอดภัยสูงด้วยการถูกคัดแยกชนิดพิเศษ ไม่เป็นอันตรายต่อผิว เมื่อเวลาผ่านไปยังไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ในร่างกาย สามารถกลับมาเติมเต็มได้เรื่อย ๆ ตามความต้องการทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์เร็วแต่กลัวการผ่าตัด ไม่ต้องการพักฟื้น เพราะการฉีดฟิลเลอร์ใช้เวลาทำไม่นาน หลังทำกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ
ทำไมหลายคนถึงนิยมฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม มันดียังไง ?
มีความปลอดภัยสูงเนื่องจากเป็นการใช้สารที่ผลิตขึ้นมาเลียนแบบกับสารที่มีอยู่ในร่างกายของเราตามธรรมชาติอยู่แล้ว ดังนั้นมันจึงสามารถเข้ากันได้กับผิวของเรา เมื่อเวลาผ่านไปมันจะสลายหายไปเองโดยไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ในร่างกาย เห็นผลเร็วตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ* ให้ความเป็นธรรมชาติ สุขภาพผิวหน้าดูอ่อนเยาว์ลง ผิวแน่นกระชับ ร่องแก้มดูตื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยไม่ต้องเสียเวลานวดหน้า แต่งเมคอัพ หรือรอให้แผลหายเหมือนกับการผ่าตัด นับเป็นตัวเลือกที่หลายคนยกให้เป็นทางออกของปัญหาที่ดีที่สุดเลยล่ะค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มอันตรายไหม ?
เมื่อพูดถึง Filler หลายคนก็กลัวว่ามันจะเป็นอันตราย แต่จะบอกว่ามันไม่เป็นอันตรายเลยค่ะ อย่างที่กล่าวไปว่ามันเป็นสารสกัดที่มาจากธรรมชาติอีกทั้งยังย่อยสลายได้ด้วยตัวของมันเองจึงไม่เกิดผลกระทบหรือเป็นอันตรายต่อร่างกายของเราอย่างแน่นอน ซึ่งอันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์ส่วนใหญ่ก็จะมาจากการใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน(ฟิลเลอร์ปลอม) หรือแพทย์ที่ทำการรักษาไม่มีความชำนาญมากพอจึงทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการรักษา แต่ถ้าหากว่าเราเลือกใช้บริการกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นของแท้และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้ฟิลเลอร์มีความปลอดภัยอย่างแน่นอนค่ะ
อยากฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง ?
สำหรับใครที่กำลังสนใจอยากฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม หรือไม่เคยฉีดมาก่อนไม่รู้ว่าต้องเตรียมตัวยังไง เรามีวิธีการเตรียมตัวง่าย ๆ ก่อนฉีดฟิลเลอร์มาฝากค่ะ
- ศึกษาข้อมูลหรือรายละเอียดเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม รวมไปถึงศึกษาข้อมูลของคลินิกที่เราสนใจว่ามีความปลอดภัยมากน้อยแค่ไหน เป็นคลินิกที่ได้มาตรฐานมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือไม่ เพื่อความปลอดภัย
- ก่อนทำ 2-3 วันแนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว งดการสครับผิว ขัดผิวเพราะอาจทำให้ผิวบอบบางลงได้ งดรับประทานอาหารเสริมหรือสมุนไพรที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด
- ก่อนเข้ามาใช้บริการควรนอนหลับให้เพียงพอ ดื่มน้ำเปล่าวันละ 8-10 แก้วเพื่อเตรียมสภาพผิวให้พร้อมกับการฉีดฟิลเลอร์
- หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น การออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมอย่างหนัก การดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่
- สำหรับใครที่มีโรคประจำตัว มีประวัติการแพ้ยา-การรับประทานยา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบอย่างละเอียดก่อนเข้ารับบริการ เพื่อให้แพทย์ได้ประเมินการรักษาได้อย่างถูกต้อง
ซึ่งก่อนทำการรักษาเราจะต้องเข้าไปพูดคุยและประเมินการรักษากับแพทย์ จากนั้นแพทย์จะประเมินอย่างละเอียดว่าใบหน้าของเรากำลังมีปัญหาอะไร ควรแก้ไขยังไง พร้อมอธิบายขั้นตอนการรักษาว่าควรใช้ปริมาณเท่าไหร่ ยี่ห้อไหนให้ตรงกับปัญหาผิวของเราค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเจ็บไหม ?
ถ้าบอกว่ามันไม่รู้สึกเลยก็คงจะไม่ได้เพราะความรู้สึกของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่โดยปกติแล้วก่อนฉีดแพทย์จะมีการแปะยาชาทิ้งไว้ 30-45 นาที ให้ยาชาออกฤทธิ์เพื่อบรรเทาความเจ็บ จากนั้นจะเริ่มทำการฉีดฟิลเลอร์ซึ่งฟิลเลอร์บางยี่ห้อก็จะมีส่วนผสมของยาชารวมอยู่ด้วย ทำให้การรักษามีความเจ็บลดน้อยลงแม้แต่คนที่กลัวเข็มก็สามารถฉีดได้ค่ะ
ฟิลเลอร์จะอยู่ได้ตลอดไปไหม ?
ฟิลเลอร์ไม่ว่าจะฉีดที่บริเวณไหนผลลัพธ์ของมันไม่สามารถอยู่ได้แบบถาวรเหมือนกับการทำศัลยกรรมค่ะ เนื่องจากมันเป็นสารเติมเต็มที่ย่อยสลายไปได้เองตามกาลเวลา เฉลี่ยแล้วมันจะคงอยู่ได้ราว ๆ 6-12 เดือน หรือมากสุดอาจจะอยู่ได้ถึงปีกว่า ๆ เลยค่ะ ส่วนใหญ่แล้วคนที่ฉีดฟิลเลอร์ก็จะเน้นการกลับมาเติมซ้ำเพื่อคงผลลัพธ์ให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ เป็นหัตถการที่กลับมาเติมได้เรื่อย ๆ เลยค่ะ
เลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ยังไงดี ? ทำแล้วดี ปลอดภัยในระยะยาว
การเลือกคลินิกไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลยค่ะ แต่สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงก่อนที่จะตัดสินใจคือมาตรฐานการรักษาและความปลอดภัยของคลินิกนั้น ๆ ไม่แนะนำให้เลือกราคาถูก ๆ เป็นที่ตั้งเพราะมันอาจนำพาเราไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน แต่ถ้าเราไม่มองเรื่องราคาเราควรเลือกจากปัจจัยเหล่านี้ดีที่สุดค่ะ
- เลือกคลินิกที่ให้บริการโดยแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง – เพราะบริเวณใบหน้าของเราเต็มไปด้วยจุดสำคัญ ซึ่งต้องอาศัยทั้งความเชี่ยวชาญทั้งความชำนาญของแพทย์เป็นสิ่งสำคัญ แพทย์จะต้องชำนาญการใช้ฟิลเลอร์ สามารถวินิจฉัยปัญหาของแต่ละคนได้อย่างแม่นยำ มีประสบการณ์สูงปัจจัยนี้จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้ค่ะ
- เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีความสะอาด – อันดับแรกต้องเปิดให้บริการอย่างถูกต้องตามกฎหมายสามารถตรวจสอบได้ ควรเสิร์จชื่อคลินิกว่าตั้งอยู่ที่ไหน ที่สถานที่เป็นหลักเป็นแหล่งที่ชัดเจน ทั้งภายนอกและภายในต้องสะอาด ไม่มีกลิ่นอับ
- เลือกคลินิกที่ซื้อฟิลเลอร์จากบริษัทผู้ผลิตโดยตรง – เพราะมันสามารถเป็นเครื่องยืนยันได้ว่าคลินิกที่เราสนใจใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นของแท้ ได้มาตรฐานที่ส่งตรงจากบริษัทผู้ผลิต ถูกเก็บรักษาอย่างมีคุณภาพ ไม่เสี่ยงโดนของหิ้วหรือของปลอม ซึ่งก่อนฉีดแพทย์จะต้องแกะกล่องใหม่พร้อมสอนวิธีการตรวจสอบของแท้ทุกการรักษา
- เลือกคลินิกที่มีรีวิวในแง่บวก – รีวิวในที่นี้เราต้องเช็กหลาย ๆ แพลตฟอร์มในโซเชียลว่าคนที่เคยไปทำมาแล้วได้ผลลัพธ์เป็นอย่างไร มีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นไหมหรือเกิดผลข้างเคียงอะไรหรือเปล่า แนะนำให้ดูรีวิวทั้งรูปภาพเปรียบเทียบ วิดีโอรวมไปถึงไลฟ์สดที่ไม่ผ่านการตกแต่งรูปจะช่วยให้เรานำไปประกอบการตัดสินใจได้ง่ายขึ้นมากเลยล่ะค่ะ
ซึ่งที่ Doctor Mek Clinic ก็ได้เปิดใช้บริการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มโดยอาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังโดยตรง มีประสบการณ์ด้านการรักษามาแล้วหลายเคส วิเคราะห์ ประเมินการรักษาแบบ case by case เก็บทุกรายละเอียดของปัญหามาออกแบบการรักษาด้วยแนวทางที่เหมาะสม อีกทั้งยังมีเทคนิคเฉพาะของคลินิกTriple Layers Lift ที่มีประสิทธิภาพในการเข้าไปฟื้นฟู เติมเต็มได้อย่างล้ำลึกและตรงจุดมากยิ่งขึ้น มอบผลลัพธ์ที่ดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ คืนความมั่นใจให้กับรอยยิ้มและพร้อมเป็นที่ปรึกษาด้านความงามแบบครบวงจร