IDL จาก “คลินิก” สู่ “โรงพยาบาล”ชูศัลยกรรมแบบครบวงจร

IDL

“หมออ้น-ฉัตรพล คงเฟื่องฟุ้ง” เร่งสร้างการเติบโตธุรกิจให้บริการศัลยกรรม ทุ่มลงทุนครั้งใหญ่ ซื้อที่ดินผืนงามติดถนนสิรินธร สร้างโรงพยาบาลศัลยกรรมแบบครบวงจร มูลค่ารวม 300-400 ล้านบาท เน้นการดูแลสุขภาพ ดูแลผิวพรรณ ศัลยกรรมตกแต่งขนาดเล็กไปถึงขนาดใหญ่ให้กลับมาใกล้เคียงปกติมากที่สุด เผยลูกค้าไทยและต่างประเทศมาใช้บริการต่อเนื่อง และในปี 2567 จะรุกเจาะในพื้นที่กรุงเทพฯ เฟ้นหาโลเคชันดี เปิด ‘คลินิก’ ที่เน้นดูแลสุขภาพความงาม

มีการประเมินว่าหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้คลี่คลายลงอย่างชัดเจน ส่งผลให้ธุรกิจศัลยกรรมและเสริมความงามของไทยกลับมาเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับ 2-3 ปีที่ผ่านมา คาดการณ์มูลค่าตลาดจะกลับมาอยู่ระดับ 71,000-72,000 ล้านบาท แม้จะสูงขึ้น แต่กราฟเส้นมูลค่าของตลาดยังต้องใช้เวลาอีกสักระยะ ที่จะกลับไปติดอันดับก่อนเกิดโควิด-19 และด้วยธุรกิจศัลยกรรมและเสริมความงามของประเทศไทยที่ได้มาตรฐาน มีบริการที่ดี ส่งผลให้ชาวต่างชาตินิยมเดินทางมาประเทศไทยเพื่อใช้บริการด้านการแพทย์ โดยเฉพาะในเรื่องการทำศัลยกรรม ทั้งแบบที่เข้ามาใช้บริการครั้งแรก และบางรายที่เดินทางเข้ามาแก้ไขงานเดิม เป็นต้น ทำให้อุตสาหกรรมศัลยกรรมเป็นหนึ่งในเซกเตอร์ที่ช่วยดึงรายได้เข้าสู่ประเทศไทย

“ก่อนหน้านี้ IDL เป็นบริการในรูปแบบของคลินิกที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีมายาวนานกว่า 10 ปี   ตนเลยคิดที่จะทำให้ทุกอย่างครบวงจรมากขึ้น ด้วยการเปิดในรูปแบบของโรงพยาบาล เป็นการลงทุนครั้งใหญ่ แต่เรามีความตั้งใจที่จะสร้างธุรกิจให้เติบโตไปข้างหน้า แรกๆ ก็มองทำเลในพื้นที่กรุงเทพฯ แต่ราคาที่ดินแพงมาก ใช้เงินทุนที่สูง เลยขยับออกมารอบนอกเมือง และได้ตัดสินซื้อที่ดินเนื้อที่ 2 ไร่ บริเวณติดถนนสิรินธร ฝั่งธนบุรี มีมูลค่าลงทุนรวม 300-400 ล้านบาท ก่อสร้าง IDL HOSPITAL แห่งแรกขึ้นมา เปิดบริการอย่างไม่เป็นทางการในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

“นายฉัตรพล คงเฟื่องฟุ้ง” หรือ “หมออ้น” แพทย์ผู้บริหารโรงพยาบาล ไอดีแอล เปิดเผยหลังเปิดตัว (Grand Opening) ธุรกิจโรงพยาบาลครั้งแรก ภายใต้แบรนด์ IDL ที่เน้นศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะทาง ศูนย์เวชศาสตร์ชะลอวัย รวมถึงศูนย์ LGBTQIA+ ที่พร้อมจะรุกเข้ามาขยายตลาดในทำเลเมือง (กรุงเทพมหานคร) เป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ณ โรงพยาบาล IDL

ทั้งนี้ IDL มาจากคำว่า IDOL (ไอดอล) คือ การทำให้ตัวคุณเป็นไอดอล IDL จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจเกี่ยวกับด้านศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะ ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเคยรักษาคนไข้ที่ประสบอุบัติเหตุ ปากแหว่งเพดานโหว่ รูปลักษณ์ภายนอกผิดเพี้ยนไปจากมะเร็ง เป็นต้น โดยหน้าที่หลักของเรา คือ ต้องรักษาให้กลับมาใกล้เคียงความปกติมากที่สุด เลยมาต่อยอดสู่เป้าหมายการทำธุรกิจในปัจจุบัน คือ การทำคนที่ปกติให้ดูดีขึ้น เป็นไอดอลในแบบฉบับของแต่ละคน ซึ่งจุดเด่น และเป็น DNA ของ IDL ต้องทำให้คนเหล่านั้นได้รับการบริการที่ดีที่สุด ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพ เรามองเรื่องความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อยกระดับมาตรฐานในการบริการที่ดี เนื่องจากในตลาดธุรกิจที่เกี่ยวกับศัลยกรรมและเสริมความงาม การแข่งขันรุนแรง ใช้กลยุทธ์เรื่องของราคา เข้ามาเกี่ยวข้องเป็นหลัก (Red Ocean)

“เราอยู่ในอุตสาหกรรมนี้ เราเห็นว่าการแข่งขันเดือดแน่นอน มีลีดเดอร์ในธุรกิจอยู่ก่อนแล้ว แต่ปรัชญาสำคัญของเราคือต้องมองตัวเองเป็นหลัก วิ่งแข่งกับตัวเอง ทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด ไม่เอาเปรียบลูกค้า ไม่ค้ากำไรเกินควร ซึ่งเราก็จะเห็นว่า ในธุรกิจนี้มาร์จิ้น (Margin) สูง การจะคงจรรยาบรรณเป็นเรื่องที่ยาก แต่ผมเชื่อว่าหมอทุกคนมีจรรยาบรรณ เพียงแต่ว่าอยู่ที่ตัวคุณหมอจะคิดอย่างไร แต่เราคิดว่าเราจะไม่ทำตัวเหมือนการจุดพลุ ที่พอจุดแล้วสว่างแค่แป๊บเดียวก็ดับลง เราจะเน้นเรื่องคุณภาพและบริการที่ดีสม่ำเสมอให้กับลูกค้า มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย มีทีมแพทย์พยาบาลมากประสบการณ์ เน้นเรื่องความสะอาดของสถานพยาบาล มีการแสดงใบอนุญาตในการดำเนินธุรกิจอย่างเป็นทางการให้ชัดเจน รวมถึงมีพื้นที่รองรับผู้เข้ามาใช้บริการได้สะดวกสบาย” แพทย์ผู้บริหารโรงพยาบาล กล่าว สำหรับเป้าหมายทางธุรกิจจากไตรมาส 4 ปี 2566 ต่อเนื่องไปถึงปี 2567 นั้น

นายฉัตรพลได้กล่าวให้เห็นทิศทางการเติบโตอย่างชัดเจนว่า แผนงานได้ถูกเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว โดยในส่วนของธุรกิจใหม่ โรงพยาบาล IDL จะกำหนดเป้าหมายในเรื่องของรายได้ไปสู่ระดับ 200 ล้านบาทภายในปีหน้า จากปัจจุบันที่คาดว่าจะทำได้ประมาณ 80 ล้านบาทต่อเดือน วางเป้าหมายของการทำตลาดเจาะกลุ่มอายุ 35-50 ปี มีกำลังในการจับจ่าย รองลงมาอายุ 20-35 ปี เป็นต้น

ซึ่งกลุ่มลูกค้าของเรา มีทั้งที่เป็นคนไทย ชาวต่างชาติ เช่น จากประเทศเนเธอร์แลนด์ เยอรมนี จีน และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวและใช้บริการกับทางโรงพยาบาล IDL โดยจากการสำรวจพบว่า IDL เป็นแบรนด์ที่ติดอันดับ TOP3 ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า (Top of Mind) ในธุรกิจศัลยกรรมตกแต่ง “สเต็ปถัดไปเรามองเรื่องการขยายตลาดสุขภาพ หรือ Wellness เข้าไปขยายฐานในเมืองกรุงเทพฯมากขึ้น ในรูปแบบที่เป็นคลินิก 4 คูหา ให้บริการในเรื่องสุขภาพ และอาจจะมีผ่าตัดขนาดเล็ก ขณะนี้อยู่ระหว่างตัดสินใจเลือกโลเคชันที่มีพื้นที่ใหญ่และกว้างเพียงพอในการให้บริการ”