คณะแพทย์ศิริราช ม.มหิดล ผนึกกำลังพันธมิตร ‘ทรู’ ‘เซ็นทรัล รีเทล’ เปิดตัวแคมเปญ ‘มือ…แห่งการให้’

คณะแพทย์ศิริราช ม.มหิดล ผนึกกำลังพันธมิตร ‘ทรู’ ‘เซ็นทรัล รีเทล’ เปิดตัวแคมเปญ ‘มือ…แห่งการให้’ ชวนคนไทยระดมทุนสร้างศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุระดับชาติ ต้นแบบการดูแลผู้สูงอายุแบบครบวงจรแห่งแรกของประเทศไทย

วันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 เวลา 14.00 น. คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล นำโดย ศ.ดร.นพ. ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล แถลงข่าวเปิดตัวแคมเปญ “มือ…แห่งการให้” เชิญชวนคนไทยสานพลังใจ ระดมทุนสร้างศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุระดับชาติ ให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเข้มแข็งในอนาคต พร้อมด้วย นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ศ.นพ.ประเสริฐ อัสสันตชัย รองคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล นางสุจิตา เพ็งอุ่น Chief Operating Officer Large Format บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือ เซ็นทรัล รีเทล และนายฐานพล มานะวุฒิเวช ผู้จัดการทั่วไป ด้านการประสานสิทธิประโยชน์ลูกค้า บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด และผู้ที่เกี่ยวข้อง ณ ลานบีคอน 2 ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลเฝ้าติดตามโครงสร้างการเปลี่ยนแปลงของอายุของประชากรในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง พบว่า มีแนวโน้มที่ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์แบบในปี 2565 ตัวเลขของประชากรที่กำลังจะเข้าสู่ช่วงสูงวัยหรืออายุ 60 ปี ประมาณ 13 ล้านคน หรือ 20 เปอร์เซ็นต์ของประชากรในประเทศ ซึ่งมีอัตราที่เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ สืบเนื่องจากระบบสาธารณสุขของประเทศไทยมีประสิทธิภาพดีมาก จึงทำให้อายุเฉลี่ยของระชากรในประเทศสูงขึ้น แต่ขณะเดียวกับที่ระบบสาธารณสุขได้ผลมากนั้นส่งผลให้โครงสร้างประชากรเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาล ฉะนั้นการดูแลผู้สูงอายุต้องมีกระบวนการที่เป็นรูปธรรมชัดเจน

ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า “คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาลได้ตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ จึงได้ริเริ่มแนวทางการดูแลผู้สูงอายุที่เรียกว่า ‘เวชศาสตร์ผู้สูงอายุ’ เป็นศาสตร์อีกประเภทหนึ่งที่ไม่คุ้นเคยมาก่อน เพราะประเทศไทยยังไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการบริหารจัดการผู้สูงอายุอย่างเป็นรูปธรรม ศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุระดับชาติ เป็นศูนย์บริการด้านวิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ มีเป้าหมายเพื่อวางระบบการดูแลผู้สูงอายุให้แก่ประเทศ เปรียบเสมือนโซ่ข้อกลางเชื่อมระหว่างที่ผู้ป่วยรักษาตัวโรงพยาบาลและกลับมารักษาตัวต่อที่บ้าน โดยมีวัตถุประสงค์หลัก 3 ประการ 1) เพื่อสร้าง ‘กองทัพ’ ผู้ดูแลผู้สูงอายุขึ้นมาเพื่อดูแลผู้สูงอายุอย่างถูกวิธีแบบครบวงจร ในอนาคตหวังว่าการดูแลผู้สูงอายุอาจจะกลายเป็นการสร้างอาชีพอีกหนึ่งอาชีพเพราะแนวโน้มของผู้สูงอายุจะมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเพื่อก่อให้เกิดการจ้างงานในอนาคต 2) เป็นศูนย์พัฒนาและวิจัยด้านเวชศาสตร์ผู้สูงอายุร่วมกับ National Center for Geriatrics and Gerontology หรือ NCGG เป็นองค์กรที่มีเป้าหมายเพื่อวางระบบการดูแลผู้สูงอายุในประเทศญี่ปุ่นกว่า 1 ศตวรรษ นำองค์ความรู้ที่ได้รับจาก NCGG มาประยุกต์ ต่อยอดการพัฒนาและวิจัยเพื่อพัฒนาแนวทางของเวชศาสตร์ผู้สูงอายุให้เหมาะสมกับคนไทย 3) เป็นโซ่ข้อกลางเชื่อมการดูแลผู้สูงอายุในสถานพยาบาลระยะกลาง (Intermediate Care) ทำหน้าที่เป็นตัวกลางการดูแลผู้สูงอายุระหว่างโรงพยาบาลและบ้าน เพื่อเตรียมความพร้อมของญาติที่ทำหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุและตัวของผู้สูงอายุเอง”

ศ.นพ.ประเสริฐ อัสสันตชัย รองคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า “กระบวนการดูแลผู้สูงอายุนั้นซับซ้อนกว่าการดูแลผู้ป่วยโรคปกติ คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาลจึงสร้างระบบการดูแลผู้สูงอายุที่เป็นต้นแบบของประเทศ โดยเฉพาะการดูแลระยะกลาง (intermediate care) เพื่อให้ผู้ป่วยสูงอายุหลังพ้นการเจ็บป่วยในระยะเฉียบพลันแล้ว ได้เตรียมตัวกลับไปใช้ชีวิตต่อที่บ้านได้ ลดระยะเวลาการต้องอยู่ในโรงพยาบาลนานเกินไป และสามารถป้องกันการกลับมาเจ็บป่วยซ้ำ หรือต้องมารับการรักษาในโรงพยาบาลซ้ำซ้อนอีก ขณะที่กำลังวางแผนโครงการฯ มีผู้มีจิตศรัทธามอบพื้นที่บริเวณถนนเลียบคลองสี่วาพาสวัสดิ์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร จำนวน 25 ไร่ จึงเป็นที่ตั้งของศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุระดับชาติในปัจจุบัน ซึ่งความคืบหน้าของการก่อสร้างแล้วเสร็จกว่า 25 เปอร์เซ็นต์ เป็นต้นแบบการดูแลผู้สูงอายุแบบครบวงจรเป็นแห่งแรกของประเทศไทย”

บรรยากาศภายในงาน มีกิจกรรมตรวจสุขภาพเบื้องต้นให้แก่ผุ้สูงวัยพร้อมให้คำแนะนำเรื่องการดูแลสุขภาพของผู้สูงวัยด้านต่างๆ ฟรี

กิจกรรมเสวนา ‘Guest Talk แชร์ประสบการณ์ มุมมองการอยู่ร่วมกันของคนต่างวัย’ จากคุณประสาน อิงคนันท์ เจ้าของเพจ ‘มนุษย์ต่างวัย’ คุณโย ทัศน์วรรณ เสนีย์วง ณ อยุธยา, คุณพิมพ์อัปสร เทียมเสวต เจ้าของเพจ ‘Mom & Me Story’ และคุณไบรท์ พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ ที่บอกเล่าถึงประสบการณ์การดูแลผู้สูงวัยในครอบครัวที่แตกต่างกันไป พร้อมบอกถึงวิธีการดูแลผู้สูงวัยที่ถูกต้องตามแบบฉบับของแต่ละคน

หลังจากนั้นมีกิจกรรมเสวนา ‘Siriraj Care’ แคร์ความเข้าใจเพื่อผู้สูงวัย โดย ศ.นพ.วีรศักดิ์ เมืองไพศาล, อ.พญ.ฐิติมา ว่องวิริยะวงศ์ และ อ.พญ.ปทุมพร สุรอรุณสัมฤทธิ์ โดยมีคุณตั๊ก มยุรา เศวตศิลา เป็นพิธีกรดำเนินรายการเสวนา สาระสำคัญของการเสวนากล่าวถึงการดูแลผู้สูงอายุทุกอย่างถูกต้องในหลายสถานการณ์ที่แตกต่างกัน เนื่องจากผู้สูงอายุแต่ละคนมีอาการที่แสดงออกในช่วงวัยที่ไม่เหมือนกัน พร้อมร่วมถาม-ตอบปัญหาของผู้สูงวัยแก่ผู้ที่มาร่วมฟังเสวนา ปิดท้ายด้วยมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินสองรุ่นสองวัยที่จะส่งความสุขให้ นำโดย คุณวินัย-คุณวิตดิวัต พันธุรักษ์ คุณวิชัย ปุญญะยันต์ และคุณยะหยา-นฤทัย เรืองไพศาล

โอกาสนี้ อยากเชิญชวนคนไทยที่มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุระดับชาติ “ต้นแบบการดูแลผู้สูงอายุ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน” ได้ที่ ศิริราชมูลนิธิ ตึกมหิดลบำเพ็ญ ชั้น 1 รพ.ศิริราช หรือบริจาคผ่านธนาคาร ชื่อบัญชี “ศิริราชมูลนิธิ (ศิริราชเพื่อผู้สูงวัย)” เลขที่บัญชี ธนาคารกรุงเทพ 901-7-06044-4 ธนาคารไทยพาณิชย์ 016-4-57906-4 ธนาคารกสิกรไทย 063-3-16546-7 และบริจาคผ่าน I – Banking ของธนาคารที่ท่านมีบัญชีเงินฝากด้วยการสแกน QR Code ด่านล่างนี้
นอกจากนี้ ยังสามารถบริจาคผ่านกล่องบริจาคได้ที่ท็อปส์ มาร์เก็ต,ท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์,เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์,ท็อปส์ เดลี่,แฟมิลี่มาร์ท ทุกสาขา ได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 มีนาคม 2564 และสามรถใช้คะแนนในแอปพลิเคชัน True ID เพื่อแลกเป็นเงินบริจาคให้กับมูลนิธิได้อีกช่องทางหนึ่ง

สุดท้ายนี้ ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวทิ้งท้ายถึงแคมเปญ ‘มือ…แห่งการให้’ ว่า “เชื่อมั่นว่าหากผู้สูงวัยในปัจจุบันได้รับการดูแลดีจะมีคุณภาพชีวิตที่ดี และมุ่งหวังที่อยากให้ศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุระดับชาติเป็นศูนย์กลางที่รวบรวมน้ำใจของคนไทยทั้งประเทศ เป็นศูนย์ที่เสริมสร้างความเข้มแข็งของคนในครอบครัว เพื่อผู้สูงอายุในปัจจุบัน และที่สำคัญเพื่อตัวเราเองในตอนนี้ที่จะกลายเป็นผู้สูงอายุในอนาคตข้างหน้าต่อไป”