วันนี้ (18 มี.ค.2562 ) นายบรรยง พงษ์พานิช โพสต์เฟสบุ๊ก Banyong Pongpanich กล่าวถึงกรณี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ตัดสินใจโอนทรัพย์สินหลายพันล้านบาท บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร เป็นผู้ดูแลจัดการ โดยไม่มีอำนาจสั่งการ หรือยุ่งเกี่ยว จนกว่าจะพ้นจากการเมือง 3 ปี โดย ระบุว่า
ในนามของประธานกรรมการบริษัทหลักทรัพย์ ภัทร ผมขอขอบคุณความไว้วางใจที่มอบให้ครับ….
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- เปิดไทม์ไลน์ลูกค้าซิตี้แบงก์ต้องรู้! ก่อนโอนย้ายบัญชีมาเป็น “ยูโอบี” 21 เม.ย.นี้
- ออมสิน เปิดให้กู้สินเชื่อรีไฟแนนซ์ ลดดอกเบี้ย 4 กลุ่ม เช็กเลย !
เราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดภายใต้เงื่อนไขที่ตกลงกันทุกประการ เพื่อให้แยกผลประโยชน์ส่วนตัวออกจากการทำงานด้านการเมือง ซึ่งสำหรับเราเป็นการทำหน้าที่ตามวิชาชีพการจัดการการลงทุนตามปกติ ไม่ได้เป็นการเลือกข้าง เลือกพรรค เราสนับสนุนการสร้างบรรทัดฐานที่ดีเช่นนี้ในการเมืองไทย และยินดีที่จะทำหน้าที่ดังกล่าวให้กับทุกคน ทุกพรรค ที่มีเจตนาและความตั้งใจจะดำเนินการในลักษณะเดียวกันนะครับ
นายบรรยงยังระบุอีกว่า เหตุผลของคุณธนาธรที่เลือกบลจ.ภัทรครับ
“….ส่วนสาเหตุที่เลือกบลจ.ภัทร เป็นผู้บริหารจัดการกองทุน เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีธุรกิจร่วมกัน มีความเป็นมืออาชีพ ได้รับการยอมรับว่าเป็นแถวหน้าของวงการการเงินในประเทศไทย และเชื่อมั่นว่า บลจ.ภัทร จะไม่ยอมจำนนต่อคำสั่งใดๆ เมื่อตนมีอำนาจ”
ทั้งนี้นายบรรยงยังระบุเพิ่มเติมอีกว่า กองทรัพย์สินของคุณธนาธร ที่บลจ.ภัทร บริหารอยู่ จะไม่ลงทุนในหุ้นไทยด้วย
นอกจากนี้มีผู้ใช้เฟสบุ๊กรายหนึ่ง ตั้งคำถามว่า “อยากจะรบกวนให้อธิบายให้คนอีกประมาณ 99% ของประเทศที่เจริญที่สุดในโลกนี้เค้าเข้าใจกันด้วยครับว่าอะไร คือ Blind Trust แล้วมันมีผลอย่างไรกับเจ้าของทรัพย์สิน เพราะนี่แค่มีข่าวออกมา เพื่อนผมผู้มีการศึกษาดีๆจากสถาบันเท่ห์ๆ ทั้งในทั้งนอกประเทศ ก็ออกมาก่นด่ากันแล้วว่า “เนี่ย ยังไม่ทันไรมันก็เตรียมตัวโกงแล้ว” ผมอ่านแล้วก็ได้แต่ปลงครับ จะด่าเองก็เกรงจะออกลูกดูถูกเหยียดหยามว่า พวกเองอ่ะ ชีวิตนี้คงไม่ได้ใช้หรอก Blind Trust มันเรื่องของคนรวยจริงๆเค้า ไม่ใช่รวยขายฆ้องไปวันๆ ต้องขอโทษด้วยครับที่รบกวน”
ทำให้นายบรรยง ตอบกลับว่า “ถ้าพวกเขาเสียสละเวลาอ่านสักนิดก็น่าจะเข้าใจนะครับ”
ขณะที่ ผู้ใช้เฟสบุ๊กอีกรายหนึ่ง ตั้งคำถามว่า “เห็นด้วยกับธนาธร แต่คราวนี้ต้องระวังแล้วว่าคุณบรรยงมีผลประโยชน์ทับซ้อนไหม”
ทำให้นายบรรยง ชี้แจงว่า “ผมไม่คิดเช่นนั้นเลย เป็นการใช้บริการวิชาชีพอย่างบริสุทธิ์ อย่างนี้ถ้าพลอ.ประยุทธฝากเงินธนาคารกรุงเทพ กสิกร ก็ทับซ้อนสิครับ เขาเลือกใช้เราโดยไม่มีเงื่อนไขการเมืองใดๆครับ ที่บริษัทผมทุกคนมีอิสสระจะเลือกใครชอบใครก็เลือกได้ครับ ผมเลือกปชป. ขณะที่กว่า80%เลือกพรรคอื่น”
ทำให้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคนดังกล่าวถามต่อว่า “ผมไม่ได้หมายความเช่นนั้นครับ ผมยินดีที่นักการเมืองมาใช้บริการทรัสต์แบบนี้ แต่ผมหมายความว่า ต้องคอยดูต่อไปว่าความเห็นทางการเมืองของคุณบรรยงในอนาคต จะมีการเกรงใจ “ลูกค้ารายใหญ่” หรือไม่”
นายบรรยงจึงกล่าวทิ้งท้ายว่า “ผมมีลูกค้ารายใหญ่มากมายหลากหลายนะครับ แยกย้ายอยู่หลายพรรค สนับสนุนพรรคต่างๆกัน ไม่มีใครเคยบังคับหรือเรียกร้องเรื่องจุดยืนทางการเมืองเลยครับ”
คลิกอ่าน.. เลือกประชาธิปัตย์ “บรรยง” ประกาศจุดยืน ไม่เคยคิดเลือกพลังประชารัฐ ชอบนโยบาย “อนค”
คลิกอ่าน.. นักวิชาการดังอธิบาย ธนาธร”โอนทรัพย์สินเข้า Blind Trust” คืออะไร สำคัญอย่างไร ?