บันเทิง

ไวรัลและเรื่องราวกับเต๋อ นวพล และ “ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ”

คำว่า “viral” (ไวรัล) เป็นคำวิเศษณ์ มีความหมายตามพจนานุกรม ว่า “เกี่ยวกับไวรัส” ซึ่งสามารถแพร่กระจาย ลุกลาม หรือติดต่อกันได้ไม่รู้จบ ในปัจจุบันคำว่าไวรัลนี้มักจะถูกใช้ในความหมายถึง รูปภาพ วิดีโอ หรือข้อมูล ฯลฯ ที่ได้รับการแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วระหว่างผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตด้วยกัน


ช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา กระแสของภาพยนตร์เรื่องใหม่ ภายใต้งานกำกับและเขียนบทโดย “เต๋อ-นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์” เรื่อง “ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ” เป็นอีกหนึ่งไวรัลส่งท้ายปี ภายใต้แฮชแท็กฮาวทูทิ้ง (#ฮาวทูทิ้ง) ที่ได้รับการตอบรับจากทั้งผู้คนทั่วไปบนอินเทอร์เน็ต หรือแม้กระทั่งบรรดาแบรนด์น้อยใหญ่ที่ผลัดกันพลิกแพลงคอนเซ็ปต์ “ฮาวทู..” ลงไปในสินค้าหรือบริการของตัวเองได้อย่างน่าสนใจ

นอกจากกระแสแฮชแท็กฮาวทูทิ้งในโซเชียลมีเดียแล้ว ตัวอย่างภาพยนตร์ที่นวพลปล่อยออกมามียอดวิวถึงเกือบสองล้านภายในสองวันแรก และแม้ว่าตัวเลขสองล้านอาจจะดูธรรมดาเมื่อเทียบกับตัวอย่างภาพยนตร์เรื่องอื่น ๆ แต่ด้วยความที่ภาพยนตร์ของนวพลแต่ละเรื่องค่อนข้างมีความเฉพาะทาง ตัวเลขจำนวนดังกล่าวจึงแสดงให้เห็นถึงความสนใจของผู้ชมในกระแสที่มีต่อภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างมีนัยสำคัญ

“ดีไลฟ์-ประชาชาติธุรกิจ” ได้มีโอกาสนั่งคุยกับผู้กำกับคนนี้ ณ บริษัท GDH 559 ซึ่งเป็น production house ของภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว ผู้กำกับหนุ่มแสดงความประหลาดใจที่ได้เห็นผลตอบรับที่ดีขนาดนี้

“ถึงแม้จะเทียบไม่ได้กับภาพยนตร์เรื่อง “ตุ๊ดซี่ส์ แอนด์ เดอะเฟค” ที่มีความแมสกว่ามาก แต่ในข่ายของหนังรักปนดราม่าที่เป็นสไตล์ของเราแบบนี้ ยอดวิวเกือบสองล้านในสองวันถือว่าเยอะมาก มันไปไกลกว่าภาพยนตร์เรื่อง “ฟรีแลนซ์ ห้ามป่วย..ห้ามพัก..ห้ามรักหมอ” เสียอีก ตอนนั้นผมปล่อยแบบภาพ (template) ให้ผู้ติดตามในโซเชียล มีเดียได้เล่นสนุกกัน ที่ให้เล่นประยุกต์กับชื่อหนัง ก็มีคนมาเล่นกันเยอะมาก แต่เรื่องฮาวทูฯนี้นอกจากคนทั่วไปแล้ว แบรนด์เล็กแบรนด์น้อยก็มาเล่นกับกระแสนี้เป็นจำนวนมาก”

“หลายคนมักจะคิดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นกลยุทธ์ที่ผมวางแผนมาหมดแล้ว แต่ไม่ใช่เลย ส่วนใหญ่กระแสพวกนี้จะเกิดขึ้นเอง อย่างโปสเตอร์หนังเรื่องฮาวทูฯนี้ ผมแค่แพลนว่าจะโพสต์หัวเรื่องภาพยนตร์แล้วให้คนมาร่วมเล่นสนุกกัน ซึ่งในวันที่เราโพสต์เราก็คาดเดาไม่ได้อยู่แล้วว่าคนจะเล่นหรือไม่เล่น แต่พอมีคนเล่น ซึ่งคนที่เล่นก็เป็นคนที่มีไอเดียดี ๆ เยอะมาก หลาย ๆ ไอเดียเป็นไอเดียที่เราคิดไม่ถึงด้วยซ้ำ ทำให้เกิดเป็นกระแสที่มีคนเล่นและแชร์ต่อ ๆ กันไปโดยที่เราไม่จำเป็นต้องคาดหวังอะไร เพราะเอาเข้าจริงเมื่อไรก็ตามที่เราคาดหวัง เราก็จะเริ่มคิดเยอะขึ้น พอเราคิดเยอะขึ้น เราก็จะกลับไปยังหลักการที่มันมีอยู่แล้ว พอเรากลับไปหลักการที่มีอยู่แล้ว ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นไอเดียที่ซ้ำ พอซ้ำมันก็ไม่เกิด หรือเกิดได้ยาก” เขาอธิบาย

ภาพยนตร์เรื่อง “ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ” เป็นเรื่องราวของจีน(รับบทโดยออกแบบ-ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง) ที่ต้องการจะเคลียร์บ้านเพื่อการรีโนเวต แต่เมื่อเธอได้มาเจอของที่เป็นของเอ็ม (รับบทโดยซันนี่ สุวรรณเมธานนท์) แฟนเก่า ความทรงจำในวันเก่าเริ่มหวนมา และแน่นอนว่าความรู้สึกบางอย่างไม่สามารถทิ้งลงถุงดำเหมือนสิ่งของได้ แล้วเธอจะก้าวข้ามห้วงอารมณ์ความรู้สึกนี้ไปได้อย่างไร

นวพลเล่าถึงไอเดียของภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า “ปกติผมจะเก็บบ้านช่วงปีใหม่ แล้วก็มักจะเจอของเก่าซึ่งจะทำให้เราคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมาในชีวิตที่มีความสัมพันธ์กับของชิ้นที่เจอ ของบางชิ้นเป็นแค่ของเก่าที่ซื้อมาเก็บไว้ ของบางชิ้นผมยังนึกไม่ออกเลยว่าตอนนี้คนที่ให้ของเรามาไปอยู่ที่ไหนแล้ว หรือของบางชิ้นเป็นของเพื่อนคนที่เราเคยทะเลาะกัน ซึ่งอาจจะผ่านไป 5 ปี 10 ปีแล้ว ตอนนี้เราก็โตขึ้นจากตอนนั้น เราก็ได้ทบทวนว่า ตอนนั้นเราทำถูกหรือเปล่านะ ซึ่งความน่าสนใจมันอยู่ตรงที่เวลาเราจัดบ้านครั้งหนึ่ง เหมือนกับเราได้เดินทางข้ามเวลา ได้กลับไปทบทวนอดีตที่มีทั้งดีบ้าง ไม่ดีบ้าง”

“หนังเรื่องนี้จะเกี่ยวกับขั้นตอนของการก้าวผ่านความทรงจำที่มีต่อสิ่งของต่าง ๆ ที่เราอาจจะลืมไปแล้ว แต่เราจะผ่านมันไปด้วยวิธีไหน เราทำได้หลายวิธี เราอาจจะเก็บไว้ จดจำมัน เราอาจจะทิ้งไปเลย หรือเราอาจจะเอาของไปคืนเขา เป็นการพูดถึงการเก็บ ทิ้ง คืน ในแง่มุมต่าง ๆ อยู่ที่ว่าเราจะเลือกมองจากมุมของตัวละครตัวไหน” ผู้กำกับอธิบายเพิ่มเติม

ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ เป็นผลงานภาพยนตร์ลำดับที่ 7 ในเวลา 7 ปีของนวพลในฐานะผู้กำกับ ซึ่งทั้งเขาและสองนักแสดงนำ (ออกแบบ และซันนี่) เคยร่วมงานกันมาแล้วในภาพยนตร์เรื่อง Die Tomorrow ในปี 2560 ในปีนี้มาลุ้นกันว่า “จีน” จะก้าวผ่านเรื่องราวความทรงจำและความรู้สึกนี้ไปได้อย่างไรในภาพยนตร์เรื่อง ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ ซึ่งมีกำหนดเข้าฉายส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในวันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม 2562 ทุกโรงภาพยนตร์