เอกสารลับเผย เคยมีโครงการใช้นิวเคลียร์ ขุดเจาะดวงจันทร์ ชงเสนอรัฐบาลสหรัฐ

ขุดเจาะดวงจันทร์

การขุดเจาะเข้าไปยังใจกลางของดวงจันทร์เพื่อค้นหาโลหะชนิดพิเศษ เป็นโครงการหนึ่งที่ปรากฏในเอกสารลับของกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ที่ถูกนำมาเปิดเผยต่อสาธารณชนอีกครั้ง

วันที่ 23 เมษายน 2565 บีบีซีไทย รายงานว่า เอกสารลับของกระทรวงกลาโหม ที่มีรายละเอียดโครงการค้นหาภัยคุกคามในอวกาศขั้นสูง (AATIP) เป็นโครงการที่ล้มเลิกไปแล้วเพิ่งนำมาเผยแพร่อีกครั้งขณะนี้ ต่อเนื่องจากที่เปิดเผยครั้งแรกเมื่อปี 2017 

เว็บไซต์ Vice.com ได้ใช้เวลา 4 ปี ดำเนินการยื่นคำร้องต่อรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อให้เปิดเผยต่อสาธารณชนตามกฎหมายเสรีภาพในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร (FOIA) และได้เอกสารลับชุดนี้

nasa

เอกสารลับมีจำนวน 51 รายการ ความยาว 1,600 หน้า ประกอบด้วยรายงาน, บันทึกการประชุม, เอกสารสัญญาและข้อเสนอในโครงการต่าง ๆ ระหว่างที่โครงการ AATIP ยังดำเนินงานอยู่ในปี 2007-2012

เนื้อหาที่น่าสนใจที่สุดตอนหนึ่งของเอกสารดังกล่าว ได้แก่ เอกสารอ้างอิงว่าด้วยข่าวกรองด้านการป้องกันประเทศ (DIRD) ซึ่งกล่าวถึงความเป็นไปได้ในการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงไว้เป็นหมวดหมู่

ข้อมูลที่ปรากฏออกมาแสดงให้เห็นว่ามีข้อเสนอเพื่อดำเนินโครงการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่แปลกประหลาด หรือดูเหมือนไม่น่าจะเป็นไปได้อยู่จำนวนมาก รวมถึงข้อเสนอที่ให้ขุดเจาะดวงจันทร์นั้น อยู่ในหมวดที่ว่าด้วย “เครื่องยนต์ขับดันมวลลบ” (negative mass propulsion) ซึ่งเป็นแนวคิดในการสร้างเครื่องยนต์ล้ำยุคสำหรับยานอวกาศที่มีความเร็วเหนือแสง

ขุดเจาะดวงจันทร์

ผู้เขียนรายงานระบุว่า มีความจำเป็นต้องจัดหาโลหะชนิดพิเศษที่แข็งแกร่งเหมือนเหล็กกล้า แต่มีน้ำหนักเบากว่าอย่างน้อย 100,000 เท่า เพื่อใช้ในการสร้างเครื่องยนต์ขับดันมวลลบนี้ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าโลหะมหัศจรรย์ดังกล่าวอาจมีอยู่ที่ใจกลางของดวงจันทร์

วิธีค้นหาแร่ธาตุสำคัญที่รายงานดังกล่าวเสนอ คือการใช้อาวุธนิวเคลียร์ความร้อนหรือระเบิดไฮโดรเจนที่มีอานุภาพรุนแรงมหาศาล เจาะอุโมงค์ลึกลงไปผ่านพื้นผิวและชั้นดินหินของดวงจันทร์จนถึงแก่นกลาง

แต่ดูเหมือนว่าวิธีค้นหาทรัพยากรแบบนี้จะไม่ได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งยังคงเดินหน้าโครงการ อาร์ทิมิส (Artemis) ที่เน้นการตั้งอาณานิคมเพื่ออยู่อาศัยระยะยาวบนดวงจันทร์มากกว่า

สำหรับโครงการประหลาดอื่นๆ ได้แก่ โครงการประดิษฐ์ผ้าคลุมล่องหน ระบุว่าหากต้องการให้ผู้สวมใส่ล่องหนได้อย่างสมบูรณ์แบบ เนื่องจากต้องใช้วัสดุที่ทำให้ความเร็วแสงเข้าใกล้ค่าอนันต์ (infinity) แต่ผ้าคลุมล่องหนที่สามารถหลบการตรวจจับของอุปกรณ์คลื่นไมโครเวฟนั้น สามารถจะพัฒนาขึ้นได้อย่างแน่นอนด้วยเทคโนโลยีที่มีในปัจจุบัน

ภาพจำลองวอร์ปไดรฟ์ตามแนวคิดของ มิเกล อัลคูเบียร์ นักฟิสิกส์ชาวเม็กซิกัน

นอกจากนี้ยังมีโครงการ อุปกรณ์ต้านแรงโน้มถ่วง,  “รูหนอนที่ใช้เดินทางไปกลับในห้วงอวกาศได้ ประตูสู่ดวงดาวสตาร์เกต และพลังงานลบ”“การสื่อสารผ่านคลื่นความโน้มถ่วงความถี่สูง” “วอร์ปไดรฟ์ พลังงานมืด และการใช้ประโยชน์จากมิติพิเศษ” 

ไม่มีใครทราบว่าข้อเสนอพิสดารในโครงการ AATIP เหล่านี้ มีการนำไปลงทุนเพื่อพัฒนาอย่างจริงจังในระยะยาวบ้างหรือไม่ แต่เว็บไซต์ Vice.com ระบุว่า ข้อเสนอในรายงานดังกล่าวส่วนใหญ่มาจากโครงการวิจัยที่รัฐบาลสหรัฐฯ ได้เคยทำสัญญามอบหมายให้บริษัท BAASS ของนายโรเบิร์ต บิเกโลว์ มหาเศรษฐีเจ้าของกิจการด้านอวกาศ เพื่อนสนิทของวุฒิสมาชิกผู้ก่อตั้งโครงการ AATIP เป็นผู้รับไปดำเนินการนั่นเอง