ดราม่าธงชาติไทยไม่ถูกเชิญขึ้นยอดเสาการแข่งขันชิงแชมป์โลก

เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพส์ 2021

กรณีธงชาติไทยไม่ถูกเชิญขึ้นสู่ยอดเสาการแข่งขันชิงแชมป์โลก ได้กลายเป็นดราม่าที่ถูกตั้งคำถามเพื่อนำไปสู่การแก้ไข

วันที่ 20 ธันวาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเป็นกระแสดราม่าตามมาติด ๆ หลังนักกีฬาแบดมินตันคู่ผสมคู่แรกของไทย อย่าง นายเดชาพล พัววรานุเคราะห์ หรือบาส และนางสาวทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย หรือปอป้อ ได้คว้าแชมป์ในการแข่งขัน “เวิลด์ แชมเปียนชิพส์ 2021” และยังครองมือ 1 ของโลก เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา

ช่วงหนึ่งของพิธีรับมอบเหรียญหลังจบการแข่งขัน ปรากฏว่า 2 ประเทศที่ได้เหรียญเงินและเหรียญทองแดง ได้เชิญธงขึ้นสู่เสา แต่ประเทศไทยที่คว้าเหรียญทองกลับไม่ได้เชิญธงขึ้นเสา มีเพียงการเชิญธงแสดงชื่อของสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (Badminton Association of Thailand : BAT) เท่านั้น

สาเหตุธงชาติไทย ไม่ถูกเชิญขึ้นยอดเสา

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ชี้แจงว่า ตามประกาศขององค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (World Anti-Doping Agency : WADA) ไม่ให้การรับรองประเทศไทย เนื่องจากยังไม่ได้ปฏิบัติตามธรรมนูญขององค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก ในด้านของการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งเป็นที่ทราบกันแล้วว่า อยู่ระหว่างการพิจารณาปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา พ.ศ. 2555 เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล โดยสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. ไม่ได้นิ่งนอนใจ และเร่งประสานงานไปทาง WADA เพื่อให้เกิดความชัดเจน และไม่กระทบต่อการเป็นตัวแทนทีมชาติไทย

ผู้ว่า กกท. กล่าวว่า มาตรการและข้อกำจัดที่ WADA มีต่อประเทศไทยนั้น อยู่ในระดับที่เบาและได้รับการลดหย่อนอย่างมากแล้ว ประเทศไทย ปฏิบัติตามธรรมนูญของ WADA อย่างเคร่งครัด ต่อเนื่องและผ่านการตรวจประเมินเป็นที่น่าพอใจมาโดยตลอด มีเพียงข้อกฎหมายเท่านั้น ที่ต้องปรับให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ WADA ให้การรับรองได้

ก้าวไกล ถาม ประวิตร ไม่รู้สึกอะไร ?

ขณะเดียวกัน เฟซบุ๊กเพจ พรรคก้าวไกล ก็ได้แสดงความเห็นกรณีดังกล่าว พร้อมตั้งคำถามถึงพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ระบุช่วงหนึ่งของโพสต์ระบุว่า แม้ว่าจะมีคำเตือนมาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งครั้งสุดท้าย ในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตรที่รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง และมีอำนาจมากพอที่จะแก้ไขเรื่องนี้ได้โดยเร็ว หากมีความใส่ใจที่มากพอให้เร่งจัดการเรื่องนี้ให้สำเร็จ

“เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ของวงการกีฬาระดับโลก เมื่อมีข้อสรุปออกมาว่าประเทศไทยต้องแก้กฎหมายหรือต้องปฏิบัติตามกฎเกี่ยวกับสารต้องห้ามอย่างเข้มงวด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะต้องทำงานอย่างเร่งด่วนในการขับเคลื่อนเรื่องนี้เพื่อรักษาเกียรติภูมิของประเทศและความภาคภูมิใจให้กับนักกีฬา”

“และคงต้องถามว่าชายชาติทหารที่ปากบอกว่ารักชาตินักหนา จะไม่รู้สึกอะไรเลยหรือ หากนักกีฬาของเรา ซึ่งฝึกฝนฝ่าฟันอุปสรรคนานัปการจนได้ไปแข่งและต่อสู้กับคู่แข่งที่มาจากทั่วโลกจนได้รับรางวัล แต่เขากลับไม่สามารถนำธงของประเทศขึ้นสู่ยอดเสาและร้องเพลงชาติของเราอย่างภาคภูมิใจได้ ความภูมิใจนี้คือสิ่งที่นักกีฬาสมควรได้รับเกียรติอย่างที่ควรเป็นในฐานะตัวแทนของชาติและดีใจไปด้วยกันไม่ใช่หรือ”

“WADA ได้ออกหนังสือส่งเตือนประเทศไทยมาตั้งแต่ปลายปี 2563 แต่ท่านกลับนิ่งนอนใจ หากเป็นเรื่องติดขัดในข้อกฎหมายก็ยิ่งต้องเร่งรีบ เชื่อว่าสภาพร้อมผ่านให้แน่นอน คงจะมาอ้างว่าต้องใช้เวลาไม่ได้ เพราะการตัดสิทธิหรือการแบนไม่ใช่การทำแบบปุบปับข้ามวัน ในโอลิมปิกที่ผ่านมา เราก็ได้เห็นบทเรียนความเข้มงวดในเรื่องนี้จนบางประเทศใช้ธงชาติของตัวเองไม่ได้มาแล้ว จึงยิ่งไม่ควรนิ่งนอนใจหรือละเลยคำเตือน ซึ่งมีแต่จะทำให้การแก้ปัญหายากขึ้น”

คาดแก้ไขกฎหมายตามกฎ WADA เสร็จ ก.พ. 2565

ก่อนหน้านี้ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวไว้ว่า ประเทศไทยมีแนวทางการแก้ไขปัญหาสำหรับเรื่องดังกล่าว และคาดว่าจะเสร็จสิ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2565 และเมื่อแก้ไขเสร็จก็จะรีบแจ้งไปยัง WADA ทันที และหากไม่มีปัญหาก็จะสามารถปลดไทยจากการถูกแบนได้ไม่เกินเดือนพฤษภาคม 2565

บาส ปอป้อ
Photo by JOSE JORDAN / AFP

“ประยุทธ์-ประวิตร” ยินดี บาส-ปอป้อ คว้าแชมป์

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกว่าการกระทรวงกลาโหม ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha แสดงความยินดีกับบาส และปอป้อ ที่สามารถสร้างผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ชัด ก้าวหน้ามาทัดเทียมกับประเทศต่าง ๆ

ด้านพลเอกประวิตรก็ได้แสดงความยินดีกับชัยชนะของบาส และปอป้อ ด้วยเช่นกัน ผ่านวิดีโอคอล ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม อารมณ์ดี พร้อมขอให้ทีมงานและสมาคมแบดมินตันฯ ให้การสนับสนุน

โดยถือเป็นของขวัญปีใหม่ ที่สร้างความเป็นหนึ่งเดียวันและความสร้างความสุขให้กับคนไทย รวมทั้งเป็นตัวอย่างที่ดีของเด็กและเยาวชน ที่จะร่วมสร้างแรงจูงใจให้หันมาออกกำลังกายและเล่นกีฬากันมากขึ้นต่อไป