เริ่มกลับมามีสีสันขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับภาคธุรกิจท่องเที่ยวของไทย โดยนอกจากโรงแรม ร้านอาหาร ร้านค้าต่าง ๆ แล้ว บริการด้านการท่องเที่ยวก็เริ่มทยอยกลับมาเปิดให้บริการกันแล้ว
Thai Bus Food Tour หรือรถบัสอาหารนำเที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์ โปรดักต์ที่ออกมาตอบโจทย์ในเรื่องของการเปิดประสบการณ์ใหม่ให้นักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างประเทศ พร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยก็ได้กลับมาโหมทำการตลาดอีกครั้งแล้วเช่นกัน
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
“ประชาชาติธุรกิจ” ได้สัมภาษณ์ “ดร.วสุเชษฐ์ โสภณเสถียร” กรรมการผู้จัดการบริษัท ไทยบัสฟู้ดทัวร์ จำกัด (Thai Bus Food Tour) ผู้ให้บริการรถบัสอาหารนำเที่ยวถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย ไว้ดังนี้
“ดร.วสุเชษฐ์” บอกว่า รถบัสอาหารนำเที่ยว Thai Bus Food Tour เป็นทัวร์รถบัสพาเที่ยวชมวิวเมืองกรุงเทพฯ พร้อมรับประทานอาหารคันแรกของเมืองไทย เป็นรถบัสเหมือนกับที่ทั่วโลกเขามีกัน แต่เพิ่มในส่วนของการรับประทานอาหารบนรถ และไม่ได้หยุดจอดให้นักท่องเที่ยวขึ้น-ลงตามจุดต่าง ๆ เหมือนรถเที่ยวชมเมืองทั่วไป เปิดตัวออกสู่ตลาดไปตั้งแต่ปี 2562 ก่อนวิกฤตโควิด
ตอบโจทย์ “ทานอาหาร-ชมวิว”
พร้อมย้อนความให้ฟังว่า Thai Bus Food Tour นี้เกิดขึ้นจากที่ตนเป็นกลุ่มธุรกิจที่ดำเนินการเกี่ยวกับรถบัสโดยสารและบริษัทนำเที่ยวอยู่แล้ว จึงหันมาพัฒนาโปรดักต์ท่องเที่ยวใหม่แต่ยังคงอิงกับฐานธุรกิจเดิม ด้วยการลงทุนต่อรถบัส 2 ชั้น จำนวน 24 ที่นั่ง มารองรับการนำเที่ยวรูปแบบใหม่ในกรุงเทพฯ
โดยทุกฟังก์ชั่นของรถจึงถูกออกแบบมาเป็นรถนำเที่ยวชมวิวเมืองและรับประทานอาหารบนรถโดยเฉพาะ เช่น ขนาดของเบาะที่นั่ง ความสูงของโต๊ะ ที่ออกแบบมาให้เหมาะกับการนั่งประทานอาหาร ใช้งานได้จริง กระจกด้านข้างของรถที่มีความกว้างพิเศษ เหมาะสำหรับ การนั้งชมวิวเมือง จอมอนิเตอร์และที่ชาร์จ USB สำหรับรองรับการพรีเซนต์งาน หรือการจัดประชุม ฯลฯ
รวมถึงมีมัคคุเทศก์บรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของสถานที่ท่องเที่ยวตลอดเส้นทาง และนอกจากจะให้บริการกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไปแล้ว ยังสามารถรองรับกรุ๊ปเหมา รวมถึงกลุ่มจัดประชุม สัมมนาขนาดเล็กได้ด้วย
“เราคิดพัฒนาโปรดักต์ภายใต้โจทย์ที่ว่า กรุงเทพฯ เป็นเมืองหลวงที่มีความสวยงาม ทำอย่างไรที่จะทำให้นักท่องเที่ยวที่มากรุงเทพฯ ใช้เวลาคุ้มค่าที่สุด ได้รับประทานอาหารอร่อย และได้สัมผัสความสวยงามของเมืองในเวลาเดียวกัน”
ชูจุดขายกรุงเทพฯ ใน 1.30 ชม.
Thai Bus Food Tour จึงเป็นความสะดวกสบาย และรวมบริการที่เป็นจุดขายของกรุงเทพฯ ซึ่งนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการจะได้รับทั้งความสุข ความอร่อย ความประทับใจ ฯลฯ กลับไป ในเวลาเพียงแค่ 1 ชั่วโมง 30 นาทีเท่านั้น
“ดร.วสุเชษฐ์” บอกด้วยว่า ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัส โควิดนั้นสาหัสมาก ต้องหยุดให้บริการไป 6 เดือน จากนั้นได้ประคับประคองและกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง โดยปรับเป้าหมายจากเดิมที่โฟกัสนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคนไทย
ปัจจุบันมีรถบัสจำนวน 3 คันให้บริการทุกวัน วันละ 4 รอบ ได้แก่ lunch เวลา 11.30-13.00 น. afternoon tea เวลา 14.00-15.30 น. dinner เวลา 17.30-19.00 น. และ night life เวลา 19.30-21.00 น. ครอบคลุมสถานที่ท่องเที่ยวหลัก ๆ ในพื้นที่รอบเกาะรัตนโกสินทร์ ที่สำคัญแต่ละรอบจะมีความพิเศษแตกต่างกันทั้งบรรยากาศและอาหารที่ให้บริการ
เช่น รอบ Dinner ให้บริการเมนูก๋วยจั๊บ นายอ้วน โภชนา เยาวราช, ผัดไทยเส้นจันท์มันกุ้ง กุ้งสด ห่อไข่, เซ้งซิมอี้ ลือลั่นสะท้านโลกันตร์, ชาจีนอู่หลงร้อน เป็นต้น รอบ Night Life ให้บริการเมนูหมูสะเต๊ะ เจ๊เอง เยาวราช, ก๋วยจั๊บ นายอ้วน โภชนา เยาวราช, ผัดไทยเส้นจันท์มันกุ้ง กุ้งสด ห่อไข่มนต์นมสด เป็นต้น
สำหรับเส้นทางจะเริ่มต้นจากศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้ แบงค็อก สี่พระยา (สำนักงาน) ผ่านหัวลำโพง วัดไตรมิตร ซุ้มประตูเยาวราช ถนนเยาวราช ภูเขาทอง โลหะปราสาท อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย วัดบวรนิเวศวิหาร ป้อมพระสุเมรุ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ วัดพระแก้ว พระบรมมหาราชวัง วัดโพธิ์ กระทรวงกลาโหม วัดสุทัศน์ เสาชิงช้า วัดมังกร แล้วกลับสู่ศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้
“คอนเซ็ปต์เราตอนนี้คืออยากให้ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติมาใช้บริการ และทำให้เวลา 1 ชั่วโมงเกิดความคุ้มค่ามากที่สุด และทำให้เมื่อลงจากรถไปแล้วรู้สึกรักกรุงเทพฯ มากกว่าเดิม”
กระแสตอบรับเริ่มดี
“ดร.วสุเชษฐ์” บอกอีกว่า หลังจากกลับมาให้บริการครั้งนี้ กระแสของ Thai Bus Food Tour ได้รับการตอบรับที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มคนไทย อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาบริษัทก็เร่งสร้างการรับรู้และทำการตลาดกับตลาดต่างประเทศไปแล้ว ทั้งผ่านเอเย่นต์ทัวร์ การสื่อสารทางตรง ฯลฯ
ทั้งนี้ คาดหวังว่าหลังจากทุกประเทศปลดล็อกการเดินทางระหว่างประเทศแล้ว กระแสการตอบรับจะขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มของนักท่องเที่ยวต่างชาติ
“เดิมเมื่อครั้งเราเปิดตัวใหม่ๆ เราตั้งเป้าว่านอกจากตลาดกรุงเทพฯ แล้ว เรามีแผนที่จะลงทุนต่อรถบัสเพิ่ม เพื่อนำไปให้บริการในเมืองท่องเที่ยวหลัก เช่น พระนครศรีอยุธยา, ชลบุรี (พัทยา) และภูเก็ต ซึ่งในอนาคตหากนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาเราก็จะฟื้นแผนธุรกิจเดิมมาสานต่ออีกครั้งแน่นอน”
ร่วมหนุนท่องเที่ยวของประเทศ
พร้อมทิ้งท้ายว่า อยากให้คนกรุงเทพฯ และคนไทยทุกคนได้มาใช้บริการและสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ ด้านการท่องเที่ยงของกรุงเทพฯ หลังโควิด พร้อมทั้งถ่ายรูปและคลิปสวย ๆ กันเยอะ ๆ เพื่อให้ทั่วโลกเห็นว่าเที่ยวเมืองไทยได้อย่างมีความสุข
และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศ ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวกลับมารักเมืองไทย เที่ยวเมืองไทย และทำให้เมืองไทยเป็นเดสติเนชั่นที่ทั่วโลกอยากกลับมาสัมผัสอีกครั้ง
