จ่อเพิ่ม “วีซ่าฟรี” เที่ยวไทย ดันรายได้ต่างชาติสู่เป้า 3 ล้านล้าน

ยังคงเดินหน้านโยบายขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเพื่อให้เกิดผลทันที หรือนโยบาย Quick Win อย่างต่อเนื่องสำหรับรัฐบาลนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน 
โดยเน้นอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศได้ง่ายขึ้น (Ease of Travelling)

ทั้งมาตรการ “วีซ่าฟรี” เป็นการชั่วคราว การยกเลิกใบ ตม.6 รวมถึงการขยายวันพำนักสำหรับนักท่องเที่ยวที่นิยมเข้ามาพักระยะยาว โดยมีการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) หน่วยงานการตลาดเป็นผู้ขับเคลื่อนหลัก พร้อมเป้าหมายเพิ่มรายได้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ 3 ล้านล้านบาทให้เร็วที่สุด

จ่อเพิ่มประเทศ “วีซ่าฟรี”

“ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) บอกว่า ขณะนี้รัฐบาลอยู่ระหว่างศึกษาว่าจะมีการเปิด VISA Exemption (วีซ่าฟรี) หรือขยายวันพำนักแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มเติมอีก

ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์
ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์

โดยคาดว่าจะได้รับข้อสรุปเร็ว ๆ นี้ หลังจากรัฐบาลยกเว้นวีซ่าฟรี ไปแล้ว 4 ประเทศ/เขตปกครอง ได้แก่ จีน คาซัคสถาน ตั้งแต่ 25 กันยายน 2566-29 กุมภาพันธ์ 2567 นักท่องเที่ยวอินเดีย ไต้หวัน ตั้งแต่ 10 พฤศจิกายน 2566-10 พฤษภาคม 2567

ตามด้วยมาตรการขยายวันพำนักแก่นักท่องเที่ยวรัสเซียจาก 30 เป็น 90 วัน เป็นกรณีพิเศษ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2567

 

10 อันดับนักท่องเที่ยว

กราฟจำนวนนักท่องเที่ยว

และล่าสุด ครม. มีมติยกเลิกใบ ตม.6 ณ ด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา จังหวัดสงขลา เป็นการชั่วคราว ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566-30 เมษายน 2567 พร้อมสั่งให้ศึกษาเพิ่มเติมสำหรับด่านเบตง จ.ยะลา ด่านสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส และด่านวังประจัน จ.สตูล

วีซ่าฟรีดันนักท่องเที่ยวเพิ่ม

ทั้งนี้ คาดว่ามาตรการวีซ่าฟรีจะส่งผลให้ตลอดทั้งปี 2566 มีนักท่องเที่ยวจีนราว 4.0-4.4 ล้านคน สร้างรายได้ 2.6 แสนล้านบาท และนักท่องเที่ยวคาซัคสถานราว 1.5 แสนคน เช่นเดียวกับตลาดไต้หวันที่คาดว่าจะมีจำนวนราว 7.5 แสนคน จากเดิมที่คาดว่าจะมีจำนวน 6.5-6.8 แสนคน

“ฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา” รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ททท. ให้ข้อมูลเพิ่มเติมในส่วนของตลาดอินเดียว่า ปัจจุบันอัตราการบรรทุกผู้โดยสารของนักท่องเที่ยวอินเดียอยู่ที่ประมาณ 65-70% และคาดว่าหลังมีมาตรการวีซ่าฟรีจะทำให้มีนักท่องเที่ยวอินเดียเข้ามาเพิ่มขึ้นประมาณ 1.1 แสนคน ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2566 ทำให้มีนักท่องเที่ยวอินเดียรวมทั้งปีที่ราว 1.67 ล้านคน สร้างรายได้ประมาณ 6.88 หมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ตาม “ฐาปนีย์” บอกว่า ในปี 2566 นี้ ททท.ยังคงกำหนดเป้ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ย;ไทย 25-28 ล้านคน และมีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 200 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 8 แสนล้านบาท

รวมรายได้ทั้งจากนักท่องเที่ยวชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมที่ 2.38 ล้านล้านบาท ตามเป้าหมายเดิม

10 เดือนรายได้ 1.67 ล้านล้าน

สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสะสมในช่วง 10 เดือนแรก (1 ม.ค.-31 ต.ค. 2566) มีจำนวนรวม 21,882,227 คน สร้างรายได้ 963,142.94 ล้านบาท (ดูตารางประกอบ)

ในจำนวนนี้แบ่งเป็น นักท่องเที่ยวจากตลาดระยะใกล้ 15,823,591 คน โดย 5 อันดับสูงสุดรายสัญชาติ ได้แก่ มาเลเซีย 3,342,819 คน, จีน 2,778,595 คน, เกาหลีใต้ 1,313,781 คน, อินเดีย 1,283,340 คน และลาว 903,268 คน

ส่วนตลาดระยะไกลมีจำนวน 6,058,636 คน โดย 5 อันดับสูงสุดรายสัญชาติ ได้แก่ รัสเซีย 1,097,361 คน สหรัฐอเมริกา 697,613 คน สหราชอาณาจักร 617,017 คน เยอรมนี 525,322 คน และฝรั่งเศส 424,474 คน

ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวไทย ซึ่งรวมนักทัศนาจรและนักท่องเที่ยว มีจำนวน 194,025,315 คน-ครั้ง สร้างรายได้ 710,866.08 ล้านบาท

รวม 10 เดือนแรกของปี 2566 ประเทศไทยมีรายได้จากภาคการท่องเที่ยวทั้งต่างประเทศและในประเทศแล้วไม่น้อยกว่า 1.67 ล้านล้านบาท

อัด 3 พันอีเวนต์ปลุกโค้งท้าย

“ฐาปนีย์” บอกด้วยว่า นอกเหนือจากการปลดล็อกมาตรการเข้าออกพรมแดน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวแล้ว ภาครัฐยังให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อน “ซอฟต์พาวเวอร์” ผ่านการจัดกิจกรรม หรือเทศกาลต่าง ๆ เพื่อช่วยกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวออกเดินทางมากขึ้น

โดยในวันที่ 10 พฤศจิกายนนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เตรียมแถลงข่าวผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ ด้านงานเทศกาล กิจกรรม (festival) ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมนี้ รวม 3,000 อีเวนต์ทั่วประเทศ

โดยทั้ง 3,000 อีเวนต์เป็นการรวมกิจกรรมที่จัดขึ้นโดยภาครัฐและภาคเอกชน เช่น หน่วยงานแต่ละจังหวัด ซึ่งรวมตั้งแต่กิจกรรมระดับท้องถิ่น ระดับประเทศ และระดับนานาชาติ

ชู Colorful Bangkok บูม กทม.

สำหรับพื้นที่กรุงเทพฯ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ททท. และกรุงเทพมหานคร ได้ริเริ่มโครงการ “Colorful Bangkok Winter Festival” ไปแล้ว โดยจะจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2566 นี้ ประกอบด้วย 1.กิจกรรม “สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง ปี 2566” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-28 พฤศจิกายน 2566 ณ คลองผดุงกรุงเกษม กรุงเทพฯ 2.กิจกรรม “Vijit Chao Phraya 2023” จัดขึ้นตลอดทั้งเดือนธันวาคม 2566 บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา

3.กิจกรรม “Amazing Thailand Passport Privileges” จะจัดขึ้นตลอดเดือนธันวาคม 2566 4.กิจกรรม “Amazing Thailand Marathon Bangkok ครั้งที่ 6” ประจำปี 2566 จะจัดขึ้นในวันที่ 3 ธันวาคม 2566 และ 5.กิจกรรม “Amazing Thailand Countdown 2024” เทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ณ วัดอรุณฯ

โหมแคมเปญห่วงใยนักท่องเที่ยว

นอกจากนี้ ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ททท.เตรียมเปิดตัวแคมเปญการสื่อสาร ผ่านสโลแกนใหม่ ภายใต้แนวคิด “Meaningful Relationship” ที่งานเวิลด์ แทรเวล มาร์เก็ต (WTM) ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร

และในเดือนธันวาคมนี้ ททท.เตรียมเปิดตัวแคมเปญ “Thailand Always Cares” เพื่อสื่อสารว่าประเทศไทยมีความห่วงใยต่อนักท่องเที่ยวในทุกตลาด

สู่เป้ารายได้ ตปท. 3 ล้านล้าน

สำหรับปี 2567 นั้น “ฐาปนีย์” ย้ำว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ขอปรับเพิ่มรายได้รวมการท่องเที่ยวเป็น 3.5 ล้านล้านบาท จากเป้าหมายปัจจุบัน 3 ล้านล้านบาท ซึ่งคิดเป็นการฟื้นตัว 100% เมื่อเทียบกับปี 2562 ก่อนโควิด-19 โดยเน้นให้ทำการเพิ่มรายได้จากตลาดต่างประเทศเป็น 2.5 ล้านล้านบาท เพิ่มจากเป้าหมายปัจจุบันที่ 2 ล้านล้านบาท เพื่อปูทางสู่เป้าหมายรายได้ตลาดต่างประเทศ 3 ล้านล้านบาทในอนาคต ตามนโยบายของ “สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

ส่วนรายได้ตลาดในประเทศ ยังคงเป้าเท่าเดิมที่ 1 ล้านล้านบาทเหมือนเดิม