“กะตะกรุ๊ป” ปรับตัวรับเทรนด์ใหม่-มั่นใจภูเก็ตฟื้นตัวเร็ว

“กะตะกรุ๊ป” ทำใจวิกฤตโควิด-19 กระทบยาว เผยปิดชั่วคราวพร้อมดูแล-จ่ายเงินเดือนให้พนักงานทั้งหมด ยันพนักงานคือทรัพย์สินที่มีค่าที่สุด เชื่อหลังไวรัสยุติ ท่องเที่ยวภูเก็ตฟื้นตัวเร็ว แต่อาจไม่ทะลัก 15 ล้านคนต่อปีเหมือนที่ผ่านมา

นายประมุขพิสิฐ อัจฉริยะฉาย ประธานกรรมการบริหารโรงแรมในเครือกะตะกรุ๊ป เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยประสบกับวิกฤตที่ส่งผลกระทบถึงการท่องเที่ยวหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นสึนามิ หรือเรือล่มที่ภูเก็ต แต่ทุกครั้งจะฟื้นตัวเร็ว เพราะเป็นวิกฤตที่อยู่ในประเทศ สำหรับวิกฤตโควิด-19 ปีนี้ส่งผลกระทบไปทั่วโลกทำให้ใช้เวลาในการฟื้นตัว

• ด่วน ! วอยซ์ ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
• ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
• NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต

สำหรับกะตะกรุ๊ปนั้นได้ปิดกิจการชั่วคราว พร้อมออกนโยบายให้พนักงานระดับกลางและระดับล่างทั้งหมดหยุดงาน เหลือเพียงพนักงานระดับสูงผลัดเวรกันดูแลสถานที่ โดยยังจ่ายเงินเดือนตามปกติให้กับพนักงานระดับล่าง และปรับลงเล็กน้อยสำหรับพนักงานระดับสูง

“ในช่วงเวลาที่การท่องเที่ยวฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติ พนักงานจะเป็นทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดของโรงแรม เพราะนอกจากเขาจะมีทั้งประสบการณ์และความรู้ในการทำงานที่เชี่ยวชาญแล้ว ถ้าเราสามารถดูแลเขาในเวลาที่ยากลำบากได้ เขาก็จะกลับมาทำงานด้วยความกระตือรือร้น ซื่อสัตย์ มุ่งมั่น และทุ่มเท”

ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าการท่องเที่ยวมีโอกาสที่จะฟื้นตัวสูง และกลับมาเป็นปกติในระยะเวลาอันใกล้ โดยเฉพาะพื้นที่ภูเก็ตยิ่งไม่สามารถปล่อยให้ล่มสลายลงได้ เพราะเป็นเสมือนเส้นเลือดใหญ่ที่ทำรายได้มหาศาลให้กับประเทศ

ด้านนายสมบัติ อติเศรษฐ์ ประธานกรรมการบริหารโรงแรมในเครือกะตะธานี กล่าวเสริมว่า เชื่อมั่นว่าในที่สุด กะตะธานีจะฝ่าฟันวิกฤตนี้ไปได้ แม้อาจจะกินเวลายาวนานคงราว 18 เดือน ทั้งนี้ ได้กำหนดมาตรการหลังโควิด-19 ให้โรงแรมมีพื้นที่สำหรับเว้นระยะห่างทางสังคม (social distancing) อาทิ เว้นระยะเก้าอี้ เก้าอี้ชายหาด หรืองดเสิร์ฟแบบบุฟเฟต์ เนื่องจากเชื่อว่าหลังจากนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางกลับเข้ามาในภูเก็ตอาจจะไม่ได้มีจำนวนสูงถึง 15 ล้านคน เหมือนที่ผ่านมา ซึ่งน่าจะทำให้สามารถกำหนดมาตรการการเว้นระยะห่างภายในภูเก็ตได้ดียิ่งขึ้น

“ปีหน้าทุกธุรกิจอาจจะไม่สามารถคิดถึงผลกำไรได้มากเท่ากับทำอย่างไรให้ขาดทุนน้อยที่สุด โดยในขณะนี้หลังวางแผนการรับมือและช่วยเหลือตัวเองไปล่วงหน้าแล้วก็คือ รอการสนับสนุนจากรัฐบาลที่จะเข้ามาช่วยเหลือดูแล แต่ยินดีและผ่อนคลายลงมาก เมื่อธนาคารกสิกรไทยเสนอความช่วยเหลือผ่านโครงการลดดอกเบี้ย เพิ่มเงินทุนเข้ามาเพื่ออุ้มพนักงานในภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19” นายสมบัติกล่าว