คิกออฟ SAMUI+ Model เปิด “สมุย-พะงัน-เกาะเต่า”

samui เกาะสมุย
FILE PHOTO: Tatiana S. จาก Pixabay

ต้องย้ำก่อนว่าการเปิดรับนักท่องเที่ยวภายใต้โมเดล “สมุย พลัส” นั้นมีเงื่อนไขและข้อปฏิบัติแตกต่างจากภูเก็ตแซนด์บอกซ์

เพราะสมุยพลัสโมเดลนั้นกำหนดให้ 3 วันแรก นักท่องเที่ยวต้องอยู่ในพื้นที่บริเวณโรงแรม ASQ ซึ่งที่สมุยเรียกว่า “สมุย เอ็กซ์ตร้า พลัส” วันที่ 4-7 สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ภายในเกาะสมุย ตามเส้นทางและโปรแกรมท่องเที่ยวที่กำหนดไว้ (sealed route) จากนั้นวันที่ 8 เป็นต้นไป สามารถเดินทางต่อไปยังพื้นที่เกาะสมุย และเกาะเต่า

อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวที่เข้ามาต้องตรวจ RT-PCR จำนวน 3 ครั้ง เช่นเดียวกับ “ภูเก็ตแซนด์บอกซ์” คือ ครั้งที่ 1 ตรวจในวันแรกที่มาถึงสนามบิน ครั้งที่ 2 วันที่ 6-7 และครั้งที่ 3 วันที่ 12-13 ของการเข้าพัก และนักท่องเที่ยวต้องพำนักในพื้นที่สมุย พะงัน และเกาะเต่า อย่างน้อย 14 คืน ก่อนออกเดินทางไปเที่ยวพื้นที่อื่น ๆ ในประเทศไทยต่อไป

“รัชชพร พูลสวัสดิ์” นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย บอกว่า ในช่วงเริ่มต้นที่เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในพื้นที่เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า มีโรงแรมที่เป็น “สมุย เอ็กซ์ตร้า พลัส” ประมาณ 20 แห่ง รวมประมาณ 400 ห้องพัก

ส่วนโรงแรม สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร ฯลฯ ที่ได้รับมาตรฐาน SHA+ มีทั้งหมด 320 แห่ง เรียกว่าเพียงพอสำหรับรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแน่นอน

โดยสมุยตั้งเป้าจำนวนนักท่องเที่ยวเดือนแรกไว้ที่ประมาณ 1,000 คน มีรายได้ราว 100 ล้านบาท และในช่วง 3 เดือนแรก (15 กรกฎาคม-15 ตุลาคม 2564) ที่ประมาณ 25,000 คน หรือสร้างรายได้ที่ราว 2.500 ล้านบาท

“วันแรกที่เปิดสมุย มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามากว่า 20 คน และขณะนี้มียอดบุ๊กกิ้งเข้ามาแล้วกว่า 100 คน ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ เนื่องจากระบบการขอใบรับรองเข้าประเทศ หรือซีโออี ของกระทรวงการต่างประเทศ เพิ่งเปิดระบบให้ลงทะเบียนได้เมื่อ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา ขณะที่ ททท.เองก็พยายามเร่งกระตุ้นตลาดอย่างต่อเนื่อง”

พร้อมให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เชื่อว่านักท่องเที่ยวจะค่อย ๆ เพิ่มจำนวนมากขึ้นในเดือนสิงหาคม เนื่องจากสายการบินบางกอกแอร์เวย์สมีแผนเปิดเส้นทางบินจากสนามบินชางฮี สิงคโปร์ เข้าภูเก็ต เพื่อเสริมศักยภาพเส้นทางสุวรรณภูมิ-สมุย อีก 1 เส้นทางด้วย

ขณะที่ “ฉันทนา ลิ้มสุวรรณ” นายกสมาคมโรงแรมและการท่องเที่ยวเกาะพะงัน บอกกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สำหรับในพื้นที่เกาะพะงันนั้นต้องรอรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาอยู่สมุยแล้ว 7 วันก่อนถึงจะเดินทางต่อเข้าเกาะพะงันได้ ขณะนี้มีโรงแรมที่ได้ SHA+ กว่า 10 แห่ง หรือประมาณ 500-600 ห้องพัก

“ที่ผ่านมากลุ่มลูกค้าของเกาะพะงัน 95% เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ เมื่อไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ โรงแรมส่วนใหญ่จึงยังเลือกที่จะปิดชั่วคราว ตอนนี้มีโรงแรมที่เปิดให้บริการอยู่ประมาณ 20% ของจำนวนทั้งหมดเท่านั้น แต่เชื่อว่าหลังจากนี้ทุกคนจะค่อย ๆ กลับมาเปิดอีกครั้ง”

พร้อมย้ำว่า ในเบื้องต้นนี้คนในพื้นที่ไม่ได้คาดหวังในเรื่องจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติและรายได้มากนัก แต่จะเน้นในเรื่องของการทดสอบระบบมากกว่า

แต่หากได้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาสัก 20% ของช่วงปกติ ทุกฝ่ายก็พอใจแล้ว


คงต้องมาลุ้นให้พื้นที่สมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า ได้รับการตอบรับในทิศทางเดียวกับ “ภูเก็ตแซนด์บอกซ์” และเป็นไปตามเป้าหมาย และเป็นอีกหนึ่งความหวังของคนท่องเที่ยว