เปิดประเทศด้วย “เสียงเพลง” และ “ความสุข”
ทันที่รัฐบาลประกาศเปิดประเทศแบบไม่มีเงื่อนไข ไม่กักตัว ไม่ตรวจหาเชื้อโควิดทั้งก่อนเดินทางและเมื่อเดินทางมาถึง หรือยกเลิก Test & Go เมื่อ 1 พฤษภาคม 2565 ส่งผลให้บรรยากาศโดยรวมภายในประเทศมีแนวโน้มผ่อนคลายทันทีผ่านการจัดอีเวนต์ระดับโลก (world class event)
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- “ทอง” รับข่าวร้ายดันราคาขาขึ้น บาทอ่อนค่าจ่อทะลุ 37 บาท
- หุ้นไทยดิ่งหนัก ตลาดหลักทรัพย์ออก Statement ชี้แจง
ด้วยการจัดงานเทศกาลดนตรีแจ๊ซ & บลูส์ “International Jazz & Blues Festival 2022 : Wonderful Night Kenny G” ดึงศิลปินแจ๊ซระดับโลกอย่าง “KENNY G” เข้ามาปลุกกระแสการท่องเที่ยวไทย เมื่อ 7 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยการสนับสนุนของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นหลัก
“ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการ ททท. ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ว่า นโยบายการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยใช้ “event marketing” เป็นกลยุทธ์ส่งเสริมให้เกิดการเดินทาง ตามแนวคิด Amazing New Chapters 2022
“International Jazz & Blues Festival 2022 : Wonderful Night Kenny G” เป็นอีเวนต์แรกที่ ททท.ใช้คอนเสิร์ตของศิลปินระดับโลกซึ่งมีผลงานทางดนตรีที่ประสบความสำเร็จในยอดขายสูงที่สุดในโลก ด้วยยอดขายทั่วโลกมากกว่า 75 ล้านก๊อบปี้ มาเป็นเครื่องมือในการส่งเสริมให้เกิดการเดินทางทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศหลังผ่อนคลายมาตรการเปิดประเทศ
ซึ่งพบว่าอีเวนต์ดังกล่าวทำให้เกิดรายได้หมุนเวียนสู่ระบบเศรษฐกิจฐานราก ช่วยเหลือผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่อยู่ในภาวะซบเซามา 2 ปีเต็มกลับมาคึกคัก ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร รถขนส่ง ฯลฯ
เช่นเดียวกับกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวในพื้นที่หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ที่ระบุว่า นอกจากอีเวนต์นี้จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยวให้กับประเทศไทยแล้วยังส่งผลถึงความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่หัวหิน และพื้นที่ใกล้เคียงอีกด้วย
ที่สำคัญกว่านั้นคือ การที่ศิลปินระดับโลกเชื่อมั่นและกล้าเดินทางเข้ามาเปิดคอนเสิร์ตครั้งนี้ยังสะท้อนว่า “ประเทศไทย” มีความพร้อมในด้านระบบสาธารณสุขที่เป็นมาตรฐานโลก และพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในทุกกลุ่มแล้วเช่นกัน
ขณะเดียวกันในส่วนของคนไทยในประเทศนั้นยังพบว่าอีเวนต์ดังกล่าวแม้ว่าสภาพฟ้าฝนไม่ค่อยเป็นใจนัก ฝนตกตลอดในช่วงการแสดง แต่ก็ทำให้คนไทยมีความสุข รู้สึกถึงความผ่อนคลายอย่างมาก หลังจากที่อยู่ในวังวนของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดครั้งแล้วครั้งเล่าในช่วงกว่า 2 ปีที่ผ่านมา
เรียกว่า เป็นการเปิดประเทศที่ใช้เสียงเพลง ใช้ศิลปิน ซึ่งเป็น soft power แขนงหนึ่งในการเชื่อมโยงและตอกย้ำในเรื่อง “การผ่อนคลาย” และมาตรฐานของระบบสาธารณสุขที่มีความ “ปลอดภัย” สูง
แหล่งข่าวระดับสูงจากสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า ในระยะเริ่มต้นของการเปิดประเทศนั้นการฟื้นฟูเศรษฐกิจด้วยการกระตุ้นภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะเห็นผลได้เร็วที่สุด เพราะการท่องเที่ยวเป็นเรื่องของ “ความปลอดภัย” หากประเทศมีความปลอดภัย นักท่องเที่ยวจะเกิดความเชื่อมั่น และกลับเข้ามาท่องเที่ยวในระยะเวลาอันสั้น
นอกจากนี้ “การท่องเที่ยว” ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการช่วยเหลือเศรษฐกิจให้ลงถึงระดับรากหญ้าได้อย่างรวดเร็ว ต่างจากอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่ต้องอาศัยทั้ง “ความเชื่อมั่น” และ “ระยะเวลา” ในการดำเนินการไม่ต่ำกว่า 4-5 ปีกว่า “นักลงทุน” จะกลับมา
การใช้กลยุทธ์ “event marketing” ในรูปแบบการจัด “คอนเสิร์ต” ของศิลปินระดับโลกมาเป็นกลยุทธ์ส่งเสริมให้เกิดการเดินทางนั้นจึงเป็นแนวทางที่ถูกต้อง และสามารถ “ตอบโจทย์” เรื่องของการฟื้นฟูเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศได้ในเวลาอันรวดเร็วที่สุด
“ตอนนี้หลายประเทศทั่วโลกต่างเร่งผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศให้มีความสะดวก มีต้นทุนการเดินทางที่ถูกที่สุด เพื่อให้มีศักยภาพในการแข่งขันและแย่งชิงนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะทุกประเทศได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจเหมือนกันหมด และการฟื้นเศรษฐกิจก็เป็นโจทย์ใหญ่ของผู้นำประเทศและหน่วยงานด้านเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ เช่นกัน”
สำหรับประเทศไทยนั้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่เคยสร้างรายได้รวมถึง 3 ล้านล้านบาทในปี 2562 จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 39.8 ล้านคน และนักท่องเที่ยวคนไทยเที่ยวในประเทศจำนวน 160 ล้านคน-ครั้ง
ดังนั้น ปรากฏการณ์ของ “คอนเสิร์ต” เปิดประเทศ สำหรับประเทศไทยครั้งนี้ ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยจึงให้เครดิตกับรัฐบาล กระทรวงการท่องเที่ยวฯ รวมถึง ททท.ที่มีวิสัยทัศน์เลือกใช้กลยุทธ์ดังกล่าวมาเป็นโครงการ “นำร่อง”
โดย ททท.ยังมีนโยบายนำกิจกรรมระดับชาติเข้ามาช่วยฟื้นฟูและส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้งภายในประเทศและต่างประเทศให้มีความคึกคักอย่างต่อเนื่องในปีนี้
จึงเชื่อมั่นว่า ด้วยวิสัยทัศน์ของรัฐบาล “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี และ “ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการ ททท.ที่เห็นความสำคัญของ “การท่องเที่ยว” และใช้การท่องเที่ยวในการสนับสนุน “การเปิดประเทศ” รวมถึงศักยภาพของ “หนีกรุง คอนเน็ค” ผู้จัดงานครั้งนี้จะช่วยให้ประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ของโลกต่อไป
และทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวกลับมาเป็น “เครื่องมือ” ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศเหมือนในอดีตที่ผ่านมา
