กฟผ. ตอบรับสังคมยานยนต์ไฟฟ้า เปิดตัว “Supernova” ตู้ชาร์จเร็วอัจฉริยะ เจาะธุรกิจร้านอาหาร-สนามกอล์ฟ-เมืองท่องเที่ยว

เพราะพลังงานสะอาดและยานยนต์ไฟฟ้าคือทิศทางแห่งโลกอนาคต การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) หรือ EGAT จึงวางแผนรับมือเต็มที่ ล่าสุดเปิดตัว “Supernova” เครื่องอัดประจุไฟฟ้าแบบชาร์จเร็วรุ่นใหม่สุดอัจฉริยะ เทคโนโลยีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ล้ำสมัยด้วยพลังงานสะอาดครั้งแรกในไทย ภายใต้แบรนด์ EGAT+ Wallbox ในงาน Motor Expo 2021 มหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 38 ที่อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1–3 เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 1–12 ธันวาคม 2564 ก่อนเปิดจำหน่ายในไตรมาส 1/2565 และวางแผนให้อัปเกรดได้ในไตรมาส 4/2565

Supernova ว่าที่สินค้าเรือธง ตอบโจทย์ EV

เรียกได้ว่า Supernova คือทัพเสริมของ กฟผ. ที่จะช่วยหนุนเป้าหมายของรัฐบาลในการเร่งให้เกิดการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในไทยให้ได้อย่างน้อย 30% ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมดในปี 2030 พร้อมก้าวสู่การเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนที่สำคัญของโลก ทั้งยังเป็นสินค้านวัตกรรมที่ผู้ประกอบการต่างๆ ควรจับตามอง เพราะโดดเด่นตั้งแต่โซลูชันพื้นฐาน ไปจนถึงการเพิ่มความสามารถในการจ่ายไฟตามความต้องการที่มากขึ้น 

 Supernova ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับความสามารถในการรับกำลังไฟฟ้าสูงสุดของรถ EV ในท้องตลาด โดยจ่ายไฟได้สูงสุด 60 กิโลวัตต์ ใช้เวลาชาร์จเพียง 15 นาที วิ่งได้ 100 กิโลเมตร ที่สำคัญยังรองรับหัวชาร์จทุกค่ายรถยนต์ ทั้งแบบ CCS และ CHAdeMo ในอนาคตหากผู้ประกอบการต้องการเพิ่มกำลังไฟฟ้าเป็น 100 กิโลวัตต์ ก็สามารถปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมได้โดยไม่ต้องซื้อเครื่องอัดประจุไฟฟ้าใหม่ และหากนำ Supernova ขนาด 60 กิโลวัตต์ 2 เครื่องมาติดตั้งคู่กัน ยังเชื่อมต่อกันได้ด้วย DC Link สามารถจ่ายไฟให้รถยนต์ไฟฟ้า 1 คัน ได้ถึง 100 กิโลวัตต์ 

นายสาธิต ครองสัตย์ ผู้ช่วยผู้ว่าการวิจัย นวัตกรรม และพัฒนาธุรกิจ กฟผ. กล่าวว่า ตลอดปีนี้ กฟผ. เร่งเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสนับสนุนระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศ ภายใต้ธุรกิจ EGAT EV Business Solutions โดยเฉพาะการขยายสถานีอัดประจุไฟฟ้า EleX by EGAT บนถนนสายหลักและสายรอง สถานที่ราชการ โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า คาดว่าภายในต้นปี 2565 จะสามารถขยายสถานีเพิ่มเป็น 40–50 สถานี 

รวมทั้งเดินหน้ารุกธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้าด้วย Supernova เครื่องอัดประจุไฟฟ้าแบบชาร์จเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง (DC Fast Charger) มีจุดเด่นที่ระบบบริหารจัดการพลังงานอัจฉริยะ ช่วยประหยัดพลังงานสูง ทำให้จ่ายพลังงานไฟฟ้าได้มากขึ้นแต่ใช้ทรัพยากรน้อยลง ทั้งยังมีราคาถูกกว่าเครื่องชาร์จแบบเดียวกันเกือบ 50% ค่าบำรุงรักษาต่ำทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กที่สนใจลงทุนในสถานีอัดประจุไฟฟ้าใช้เงินลงทุนน้อยลง

“ในฐานะที่ กฟผ. เป็นหนึ่งในผู้ดูแลความมั่นคงด้านระบบไฟฟ้าของประเทศและส่งเสริมนโยบายรัฐเรื่อง EV เราจึงทำเรื่องจุดชาร์จรถไฟฟ้าด้วย ตั้งแต่ปีที่ผ่านมาเรามี Wallbox ให้บริการติดตั้งจุดชาร์จในบ้าน สั่งการได้สะดวกผ่านแอปพลิเคชัน นอกจากนี้ กฟผ. ยังเพิ่มสถานีชาร์จที่เป็น Fast Charge ตามที่ต่างๆ สามารถจอง ชาร์จ จ่าย จบได้ในแอปพลิเคชัน EleXA ส่วนปีนี้เราจะเปิดตัวเครื่องชาร์จไฟฟ้ารุ่นใหม่ โดยร่วมมือกับบริษัทสตาร์ทอัพของสเปน เพื่อทำให้มีอุปกรณ์ที่เป็นเครื่องชาร์จแบบ Fast Charge”

ผู้บริหาร กฟผ. กล่าวอีกว่า ตามแผนงานที่วางไว้ จะช่วยให้จำนวนสถานีอัดประจุไฟฟ้ามีมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้ใช้รถ EV จะสามารถจอดชาร์จได้ในระยะ 150–200 กิโลเมตร ขณะที่ผู้ประกอบการที่สนใจนำเครื่อง Supernova ไปใช้ หากไม่อยากลงทุนหัวชาร์จเพราะราคาสูง สามารถพูดคุยกับ กฟผ. ได้ เพราะมีระบบให้เช่าทำธุรกิจร่วมกัน

“กฟผ. ต้องการขับเคลื่อนให้ไทยก้าวสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ สร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้รถ EV โดยภายในสิ้นปี 2565 มีโครงการที่จะติดตั้งถึง 100 แห่ง เป็นจุดชาร์จตามสถานที่ต่างๆ ที่ผู้เดินทางจะได้แวะ อาจเป็นปั๊มชาร์จ ห้างสรรพสินค้า จุดพักรถ ร้านอาหาร เป็นต้น”

ราคาถูก! กิโลเมตรละ 1 บาท 

นายวฤต รัตนชื่น ผู้ช่วยผู้ว่าการ Project Management Office กฟผ. เผยว่า ราคาค่าชาร์จจะอยู่ที่ 7.5–9 บาท/หน่วย โดยคิดต้นทุนประมาณกิโลเมตรละ 1 บาท ซึ่งถูกกว่าน้ำมันแน่นอน 

“Supernova จะลุยตลาดปีหน้า รอบริษัทสตาร์ทอัพของสเปนให้สัญญาณ ขณะเดียวกันเราก็ร่วมมือกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ปรับปรุงห้องเทสต์หัวชาร์จ DC ให้ใหญ่ขึ้น ปัจจุบันเทสต์ได้ 60 กิโลวัตต์ ซึ่งจะขยายขึ้นอีกราว 120–150 กิโลวัตต์ คาดว่าหลังกุมภาพันธ์ 2565 จะเทสต์ได้สำเร็จ เพราะเราอยากให้โรงงานไทยหรือผู้ผลิตไทยได้เติบโตไปด้วยกัน” 

ส่งเสริมผู้ประกอบการลงทุนตู้ชาร์จ Supernova

ลงทุนตู้ชาร์จ Supernova จะคุ้มค่าหรือไม่ นายเศรษฐศิษฎ์ ชาติการุณ หัวหน้าแผนกธุรกิจระบบโครงข่ายไฟฟ้าดิจิทัลและพลังงานใหม่ กฟผ. แนะนำว่า หากเริ่มสังเกตว่าทำเลร้านกาแฟ ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยว หรือสนามกอล์ฟ เริ่มมีรถ EV เข้ามาใช้บริการบ่อยๆ Supernova ก็น่าลงทุน 

เพราะ Supernova ขนาด 60 กิโลวัตต์ 1 เครื่อง ราคา 700,000 กว่าบาท หากตั้งราคาค่าไฟจำหน่ายที่ 10 บาท ต้นทุนค่าไฟอาจอยู่ที่ 4 บาท กำไร 6 บาท ชาร์จ 60 นาที คำนวณแล้วจะได้กำไร 360 บาทต่อชั่วโมง หากมีรถ EV เข้ามาชาร์จในแต่ละวัน 10 ชั่วโมง ก็จะได้กำไรวันละ 3,600 บาท หรือเดือนละราว 100,000 บาท ใช้เวลา 7 เดือนก็สามารถคืนทุนได้แล้ว 

“เราพยายามส่งเสริมให้ผู้ประกอบการตัดสินใจได้เร็วขึ้น ส่งเสริมให้ผู้ลงทุนได้ช่วยกันลงทุน และส่งเสริมรายได้ให้ผู้ประกอบการ โดยตลาดหลักที่มองไว้คือ ตามหัวเมืองหลักและหัวเมืองรอง อย่าง เขาใหญ่ หัวหิน ราชบุรี สวนผึ้ง พัทยา ระยะทาง 200–300 กิโลเมตร หรือระยะไกลกว่านั้น เช่น เขาค้อ ก็ยังได้” 

แง่ผู้ใช้บริการก็สะดวกเช่นกัน เพราะ Supernova มีเทคโนโลยี Plug and Charge ที่สามารถเชื่อมกับบัตรเครดิต เมื่อผู้ใช้ไปถึงจุดชาร์จและเสียบเครื่องชาร์จ เครื่องจะตรวจสอบได้ทันทีว่า รถคันนี้มีวงเงินบัตรเครดิตหรือไม่ จากนั้นจะทำการชาร์จให้ และเมื่อผู้ใช้ดึงหัวจ่ายออกจากเครื่อง ก็จะตัดบัตรเครดิตของผู้ใช้ทันที ทำให้สะดวกรวดเร็วมากขึ้น

เมื่อผู้ประกอบการใช้ Supernova ได้คุ้มค่ากับการลงทุนมากสุด ก็จะเป็นการผลักดันให้มีสถานที่อัดประจุรถ EV มากขึ้น เรียกได้ว่าเป็นการส่งเสริมให้เกิดการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าได้เร็วขึ้นในอนาคต

 จับมือ Wallbox บริษัทแห่งนวัตกรรม มาตรฐานระดับโลก 

นอกจากจะเป็นเทคโนโลยีอัจฉริยะ Supernova ยังมีที่มาน่าสนใจ ซึ่งหัวหน้าแผนกธุรกิจระบบโครงข่ายไฟฟ้าดิจิทัลและพลังงานใหม่ กฟผ. เผยว่า กฟผ. เลือกร่วมมือกับ Wallbox เพราะเป็นบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) และมีนวัตกรรมจากความคิดใหม่ๆ ตลอดเวลา ทั้งยังเตรียมขยายโรงงานอีกหลายประเทศ ซึ่งไทยอาจเป็นหนึ่งในนั้น โดยร่วมลงทุนกับ กฟผ. เพื่อเป็นฮับผลิตและส่งออกในเอเชีย

“Supernova ภายใต้แบรนด์ EGAT+ Wallbox ตอบโจทย์การลงทุนของผู้ประกอบการ อย่างที่เรารู้กันว่า DC Fast Charge ทั่วไปในท้องตลาด จะเป็นเครื่องชาร์จที่ไม่สามารถอัปเกรดได้ ต้องซื้อเครื่องใหม่อย่างเดียว แต่เครื่องนี้ออกแบบให้อัปเกรดได้ สามารถรองรับการเติบโตของผู้ประกอบการในอนาคต เพิ่มกำลังการจ่ายไฟให้มากขึ้นได้” นายเศรษฐศิษฎ์ ย้ำ

ผู้สนใจสามารถเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์และบริการด้าน EV ของ กฟผ. ได้ที่บูธ H05–1 อาคารชาเลนเจอร์ 3 อิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 1–12 ธันวาคม 2564 หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.egatevchargers.com และ Line ID : @egatwallbox