ฝนตกต้นไม้โค่น ทำให้รูปปั้นหินทราย หัวพญานาค เมืองนครธม ผุดจากดินขึ้นมาพร้อมรากต้นไม้
วันที่ 6 ตุลาคม 2565 สำนักข่าว ซินหัว รายงานว่า องค์การอัปสราแห่งชาติกัมพูชา (ANA) ค้นพบรูปปั้น หัวพญานาค ทำจากหินทรายอายุหลายร้อยปี บริเวณใกล้กับปราสาทเทพพระนาม (Tep Pranam) ภายในเมืองโบราณนครธม (Angkor Thom) อุทยานโบราณคดีอังกอร์ (พระนคร) หรือหมู่ปราสาทนครวัด อันโด่งดังของกัมพูชา
- ส่องพอร์ตหุ้นไทย “ดร.นิเวศน์-ครอบครัว” 5.6 พันล้าน ปี’66 ได้ปันผลกี่บาท
- เปิดชื่อ ผบ.ตร. 7 คน เด้งเข้าทำเนียบ ด้วยอำนาจนายกรัฐมนตรี
- เปิด 10 อันดับ สายงานราชการที่จะเกษียณอายุมากสุดในระยะสิบปี
มีผู้พบรูปปั้นดังกล่าวเมื่อต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งล้มลงหลังจากฝนตกต่อเนื่อง ทำให้สิ่งของที่ฝังอยู่ในดินเป็นเวลานานหลายปีปรากฏขึ้นจากรากของต้นไม้
โชค โสมาลา หัวหน้าทีมจดทะเบียนงานศิลปะจากสำนักอนุรักษ์อนุสรณ์สถานและโบราณคดีเชิงป้องกันขององค์การอัปสรา กล่าวว่า รูปปั้นหัวพญานาคถูกฝังใต้ดินลึกครึ่งเมตร เมื่อต้นไม้ล้มลงจึงพบรูปปั้นที่รากของต้นไม้ ซึ่งเป็นหัวส่วนบนขนาดกว้าง 1 เมตร ยาว 1.2 เมตร และหนา 0.3 เมตร
โสมาลาเสริมว่ารูปปั้นหัวพญานาคแบบบายนนี้อาจสร้างขึ้นพร้อมกับปราสาทบายน ในช่วงปลายศตวรรษที่ 12 ถึงต้นศตวรรษที่ 13 ระหว่างยุคพระเจ้าชัยวรมันที่ 7
ด้านองค์การอัปสรา ระบุว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่นำรูปปั้นหัวพญานาคที่ค้นพบข้างต้น ไปเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์พระนโรดมสีหนุ-อังกอร์แล้ว
อุทยานโบราณคดีอังกอร์ มีพื้นที่ 401 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ที่จังหวัดเสียมราฐ หรือเสียมเรียบ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกัมพูชา ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโกในปี 1992 และเป็นจุดหมายท่องเที่ยวยอดนิยมที่สุดของกัมพูชา
อังกอร์ เอนเทอร์ไพรซ์ (Angkor Enterprise) ระบุว่า อุทยานรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงถึง 2.2 ล้านคน ในปี 2019 ซึ่งเป็นช่วงก่อนเกิดโรคระบาดใหญ่ และทำรายได้จากการจำหน่ายบัตรเข้าชม 99 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3,680 ล้านบาท
…..