อีกครั้งกับ 0.75% เฟดขึ้นดอกเบี้ย สูงสุดรอบ15 ปี ปธ.พาวเวลล์พูดให้ลุ้น

Federal Reserve Chairman Jerome Powell speaks at a news conference following a Federal Open Market Committee meeting, Wednesday, Nov. 2, 2022, in Washington. (AP Photo/Patrick Semansky)

ไม่เหนือความคาดหมายในครั้งนี้ เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75 แต่ที่ต้องลุ้นต่อคือวาทะของประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ว่าครั้งหน้าจะลดลงเหลือ 0.5% หรือไม่

วันที่ 3 พฤศจิกายน 2565 สำนักข่าว เอพี รายงานว่า ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด ขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งที่ 0.75% เป็นครั้งที่ 4 ต่อเนื่องกัน ทำให้อัตราดอกเบี้ยขึ้นไปอยู่ที่ 3.75% ถึง 4% สูงที่สุดในรอบ 15 ปี

แม้เฟดส่งสัญญาณให้ลุ้นว่าอาจลดระดับการขึ้นดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้ลง แต่วาทะของประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ที่ว่าขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะคิดถึงการพักขึ้นดอกเบี้ย ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐพากันเดินสู่แนวลบ ทั้ง S&P 500 ดิ่งลงทันทีหลังการแถลง 2.5% ส่วนดาวโจนส์และแนสแด็ก ต่างกระดานแดง ด้วยความวิตกต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย

การขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 6 ในปีนี้ของเฟด ส่งผลให้อัตราการจำนอง เงินกู้ทางธุรกิจ และการบริโภคเพิ่มสูงขึ้น และเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย

แม้แถลงการณ์จากการประชุมนโยบายล่าสุด เฟดส่งสัญญาณว่าอาจเปลี่ยนไปสู่การขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ลดยาแรงลง และจะเริ่มพิจารณาถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยขนานใหญ่ เพราะการทยอยขึ้นดอกเบี้ยต้องอาศัยเวลาที่จะเกิดผลเต็มที่ต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ

Federal Reserve Chairman Jerome Powell speaks at a news conference following a Federal Open Market Committee meeting, Wednesday, Nov. 2, 2022, in Washington. (AP Photo/Patrick Semansky)

แต่ เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลาง แถลงหลังการประชุมว่า เร็วเกินไปที่จะคิดถึงการหยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ย และหลีกเลี่ยงที่จะพูดให้ชัดว่า การขึ้นดอกเบี้ยครั้งหน้าในเดือนธันวาคมหรือมกราคมจะลดลงเหลือ 0.50% หรือไม่

“ขณะที่เราเข้าใกล้ถึงระดับและเคลื่อนไปถึงขอบเขตที่กำหนดแล้ว ประเด็นของอัตราเร่งก็ลดความสำคัญลง อย่างที่ผมพูดในการแถลงข่าวสองครั้งหลังสุดมานี้ว่า เมื่อมาถึงจุดหนึ่ง อาจจะชะลอการเพิ่มได้  ซึ่งอาจจะเป็นการประชุมครั้งหน้า หรือครั้งต่อไป แต่ยังไม่มีการตัดสินใจในตอนนี้”

“ตามความคิดของผม ยังไม่ถึงเวลาอันควรอย่างยิ่งที่จะคิดถึงการพักขึ้นดอกเบี้ย ในเมื่อเรามีทางต้องเดินต่อไป” พาวเวลล์กล่าว

จากถ้อยแถลงดังกล่าว ทำให้คาดคะเนไปได้ว่า คณะกำหนดนโยบายของเฟดอาจมองเห็นแล้วว่า ต้นทุนการกู้ยืมสูงพอที่จะชะลอเศรษฐกิจและลดเงินเฟ้อลงได้แล้ว ดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ยอีก และอาจลดอัตราการขึ้นดอกเบี้ย รวมถึงตัดสินใจลดผลตอบแทนพันธบัตร

 

จากการวิเคราะห์ของสำนักข่าวเอพี คณะผู้กำหนดนโยบายอาจรู้สึกว่าได้เวลาชะลอการขึ้นดอกเบี้ยสูง ๆ แล้ว เพราะมีสัญญาณว่าเงินเฟ้อจะเริ่มลดลงในปี 2023

สินค้าอุปโภคบริโภคขณะนี้ราคาเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับเงินกู้ ส่วนห่วงโซ่อุปทานเริ่มคลี่คลาย ทำให้การขาดแคลนสินค้าและชิ้นส่วนจะบรรเทาลง การเพิ่มค่าจ้างขยับน้อยนิด และอาจลดลง ซึ่งจะช่วยลดแรงกดดันของเงินเฟ้อลง

อย่างไรก็ตาม การที่ตลาดแรงงานยังเติบโตต่อเนื่อง อาจทำให้ยากสำหรับเฟดที่จะลดความร้อนแรงของเศรษฐกิจและควบคุมเงินเฟ้อ สัปดาห์นี้รัฐบาลสหรัฐเพิ่งแถลงว่าบริษัทห้างร้านเปิดรับสมัครตำแหน่งงานเดือนกันยายน เพิ่มจากเดือนสิงหาคม ปัจจุบันยังมีงาน 1.9 ล้านตำแหน่งสำหรับคนว่างงาน ซึ่งเป็นจำนวนที่มากกว่าปกติ

Traders work on the floor at the New York Stock Exchange in New York, Wednesday, Nov. 2, 2022. (AP Photo/Seth Wenig)

ด้วยตัวเลขที่สูงดังกล่าว หมายความว่า นายจ้างจะเพิ่มค่าจ้างเพื่อดึงดูดพนักงานมากขึ้น และการที่ค่าจ้างแรงงานสูงขึ้นมักทำให้ราคาข้าวของแพงตามไป พร้อมกับไปเร่งอัตราเงินเฟ้อ

คณะนักเศรษฐศาสตร์ประจำบริษัทโกลด์แมนแซกส์ คาดการณ์ว่าเหล่าผู้กำหนดนโยบายของเฟดอาจจะทยอยขึ้นดอกเบี้ย จนอัตราแตะที่ 5% ในเดือนมีนาคมสูงว่าเป้าหมายเดิมของเฟด

ส่วนประเทศอื่น ๆ ธนาคารกลางต่างเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามสหรัฐ และบางประเทศขึ้นมากกว่าของสหรัฐด้วยซ้ำ

เมื่อสัปดาห์ก่อน ธนาคารกลางยุโรปขึ้นอัตราดอกเบี้ยรอบสองเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์เงินยูโร เพื่อพยายามคุมเงินเฟ้อที่ไต่ไปถึง 10.7% เมื่อเดือนก่อน

ด้านธนาคารกลางอังกฤษมีแนวโน้มขึ้นดอกเบี้ย วันพฤหัสฯที่ 3 พ.ย.นี้ เพื่อชะลอเงินเฟ้อที่ทะยานเร็วที่สุดในรอบ 40 ปี ขึ้นไปแตะ 10.1% เมื่อเดือนกันยายน และการขึ้นดอกเบี้ยทั้งยุโรปและอังกฤษ ต่างทำให้เศรษฐกิจเดินหน้าไปสู่ภาวะถดถอย


……