พิษดอกเบี้ยสูงทำจำนวนการผิดนัดชำระหนี้ของบริษัทสหรัฐที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับ “เก็งกำไร” (Speculative Grade) ในช่วงครึ่งแรกของปี 2023 พุ่งขึ้น จนมากเกินจำนวนการผิดนัดชำระหนี้ของทั้งปี 2022 ไปถึง 53% และคิดเป็นส่วนใหญ่ของการผิดนัดชำระหนี้ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ทั้งยังมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีก
ผลกระทบจากการขึ้นดอกเบี้ยสูงและการเงินตึงตัวในสหรัฐอเมริกามีมาให้เห็นเรื่อย ๆ ล่าสุดมีข้อมูลน่าสนใจจาก Moody’s Investors Service (มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส) ซึ่งสำนักข่าว Insider (อินไซเดอร์) นำมารายงานเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2023 ว่า จำนวนการผิดนัดชำระหนี้ของบริษัทที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ “เก็งกำไร” (Speculative Grade) ในสหรัฐอเมริกาในช่วงครึ่งแรกของปี 2023 มากเกินจำนวนการผิดนัดชำระหนี้ทั้งปี 2022 ไปแล้ว
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
ข้อมูลจาก Moody’s ระบุว่า บริษัทที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ “เก็งกำไร” (Speculative Grade) ในสหรัฐจำนวน 55 บริษัท ผิดนัดชำระหนี้ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 53% จากจำนวนการผิดนัดชำระทั้งหมดในปี 2022 ซึ่งมีจำนวน 36 บริษัทที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด
จำนวนการผิดนัดชำระหนี้ของบริษัทในสหรัฐถือเป็นส่วนใหญ่ของการผิดนัดชำระหนี้ที่เกิดขึ้นทั่วโลกในปีนี้ โดยในครึ่งแรกของปี 2023 มี 81 บริษัททั่วโลกที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ ซึ่งในจำนวนนี้เป็นบริษัทสหรัฐไปแล้วถึง 55 บริษัท
ส่วนอัตราการผิดนัดชำระหนี้ทั่วโลกในช่วง 12 เดือน (12-month global default rate) สิ้นสุด ณ เดือนมิถุนายน 2023 อยู่ที่ 3.8% เพิ่มขึ้นจากอัตรา ณ เดือนธันวาคม 2022 ซึ่งอยู่ที่ 2.8%
Moody’s คาดว่า การผิดนัดชำระหนี้ขององค์กรทั่วโลกจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยอัตราการผิดนัดชำระหนี้ทั่วโลกในปีนี้จะสิ้นสุดที่ 4.7% และในซีนารีโอที่เลวร้ายที่สุด ซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ อัตราการผิดนัดชำระหนี้ทั่วโลกอาจสูงถึง 13.7% ซึ่งสูงกว่าอัตราการผิดนัดชำระหนี้ในช่วงวิกฤตการเงินปี 2008
ก่อนหน้านี้ ผู้เชี่ยวชาญได้เตือนถึงกระแสการผิดนัดชำระหนี้ที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ อันเป็นผลมาจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และธนาคารต่าง ๆ หยุดการปล่อยสินเชื่อหลังจากการล้มเหลวของธนาคารระดับภูมิภาคของสหรัฐเมื่อต้นปีนี้ ปัจจัยทั้งสองนี้ได้ทำให้สภาวะการเงินตึงตัว ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจถดถอย
สิ่งที่เกิดขึ้นนี้กำลังเป็นไปตามที่ Bank of America (แบงก์ ออฟ อเมริกา) เตือนไว้เมื่อต้นปีว่า สภาพแวดล้อมด้านสินเชื่อที่เข้มงวดขึ้นบวกกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยเต็มรูปแบบ อาจส่งผลให้เกิดการผิดนัดชำระหนี้ขององค์กรรวมมูลค่าเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์
ด้าน Deutsche Bank (ดอยช์แบงก์) ธนาคารรายใหญ่ในเยอรมนีวิเคราะห์ว่า อัตราการผิดนัดชำระหนี้โดยรวมของสหรัฐอาจเพิ่มขึ้นเป็น 11.3% ซึ่งเกือบจะใกล้เคียงระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 12% ในช่วงเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ (The Great Recession)
นอกจากนั้น ในช่วงต้นปีที่ผ่านมามีบริษัทในสหรัฐยื่นขอล้มละลายจำนวนมาก ก่อนหน้านี้มีข้อมูลจาก S&P Global Market Intelligence (เอส แอนด์ พี โกลบอล มาร์เก็ต อินเทลลิเจนซ์) ที่ระบุว่า ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2023 บริษัทสหรัฐยื่นขอล้มละลายแล้ว 236 บริษัท เป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2010 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัน โดยธุรกิจสินค้าฟุ่มเฟือยเป็นภาคธุรกิจที่ล้มละลายมากที่สุด รองลงมาคือภาคอุตสาหกรรมการผลิต
