ทรัมป์ลงนามภาษีนำเข้ารถยนต์ 25% เริ่มเก็บจริง 3 เมษาฯ คาดรายได้ต่อปี 1 แสนล้าน

รถยนต์ที่ท่าเรือขนส่งสินค้าในเมืองซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2025 (รอยเตอร์)

ทรัมป์ขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์เป็น 25% เริ่มเก็บวันที่ 3 เมษายน หลังประกาศวันที่ 2 เมษายน คาดสร้างรายได้ใหม่ต่อปี 1 แสนล้านเหรียญ

บลูมเบิร์ก (Bloomberg) และรอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐลงนามในประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์เป็น 25% ซึ่งเป็นการขยายสงครามการค้าที่ออกแบบมาเพื่อดึงดูดงานผลิตมายังสหรัฐมากขึ้น และปูทางไปสู่การเรียกเก็บภาษีต่างตอบแทนหรือต่างตอบโต้ที่ครอบคลุมในวงกว้างมากขึ้นในสัปดาห์หน้า

“สิ่งที่เราจะทำคือเรียกเก็บภาษี 25% สำหรับรถยนต์ทุกคันที่ไม่ได้ผลิตในสหรัฐ เราจะเรียกเก็บภาษีจากประเทศต่าง ๆ ที่ทำธุรกิจในประเทศของเราและยึดงานของเรา ยึดทรัพย์ของเรา และยึดสิ่งของต่าง ๆ มากมายที่พวกเขายึดมาหลายปีกลับคืนมา” ทรัมป์กล่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อ 26 มีนาคม เวลาท้องถิ่น

ภาษีรถยนต์จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 เมษายน และสหรัฐจะเริ่มเรียกเก็บภาษีในวันถัดไป หรือเที่ยงคืนของวันที่ 3 เมษายน เวลาท้องถิ่นและภาษีจะใช้ไม่เฉพาะกับรถยนต์ที่ประกอบเสร็จสมบูรณ์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงชิ้นส่วนรถยนต์สำคัญ ๆ เช่น เครื่องยนต์ เกียร์ ชิ้นส่วนระบบส่งกำลัง และส่วนประกอบไฟฟ้า รายการดังกล่าวอาจขยายออกไปในอนาคตเพื่อรวมชิ้นส่วนเพิ่มเติมอีก

ทรัมป์ระบุว่าภาษีศุลกากรดังกล่าวเป็นการถาวรและไม่สนใจที่จะเจรจาข้อยกเว้นใด ๆ และในขณะที่ทรัมป์กล่าวอยู่นี้ หุ้นของเจนเนอรัล มอเตอร์ส (General Motors), ฟอร์ด มอเตอร์ (Ford Motor) และสเตลแลนทิส (Stellantis) ร่วงลงในการซื้อขายหลังปิดตลาด

วิลล์ ชาร์ฟ เลขาธิการคณะเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบขาวกล่าวว่า ภาษีนำเข้าดังกล่าวจะรวมอยู่ในภาษีที่บังคับใช้แล้ว และฝ่ายบริหารคาดว่าภาษีนำเข้าดังกล่าวจะส่งผลให้สหรัฐมีรายได้ใหม่ต่อปี 1 แสนล้านดอลลาร์ (ราว 3.3 ล้านล้านบาท)

ADVERTISMENT

การประกาศของทรัมป์ได้รับการตอบรับที่ดีจากสหภาพแรงงานรถยนต์แห่งสหรัฐ (United Auto Workers) ซึ่งเป็นผู้วิพากษ์วิจารณ์ข้อตกลงการค้าเสรีสหรัฐ เม็กซิโก และแคนาดา (USMCA) มาอย่างยาวนาน ซึ่งระบุว่าทำให้คนอเมริกันตกงาน

นอกจากนี้ ตามเอกสารสรุปข้อมูลสำคัญของทำเนียบขาวระบุว่า ยกเว้นชิ้นส่วนรถยนต์ที่เป็นไปตามข้อตกลงข้อตกลงการค้าเสรี USMCA ซึ่งเป็นข้อตกลงการค้าที่เจรจาสมัยทรัมป์ดำรงตำแหน่งวาระแรก โดยจะได้รับโอกาสในการรับรองว่า กระบวนการการผลิตรถที่สำคัญและระบบของตนในสหรัฐจะถูกนำไปปฏิบัติก็จะได้รับการยกเว้นภาษี 25%

ADVERTISMENT

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นนก่อนที่จะมีการประกาศเก็บภาษีที่เรียกว่าภาษีต่างตอบแทนหรือต่างตอบโต้ที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในวันที่ 2 เมษายน ซึ่งเป็นความพยายามที่จะลดอุปสรรคทางการค้าจากประเทศอื่น ๆ และลดการขาดดุลการค้าของสหรัฐ โดยทรัมป์ระบุว่าภาษีดังกล่าวจะได้รับการผ่อนปรนอย่างมาก ซึ่งระบุว่าบางประเทศอาจได้รับการยกเว้น

สำหรับภาษีรถยนต์ถือเป็นการขยายขอบเขตต่อสู้ทางการค้าของประธานาธิบดีทรัมป์อย่างมาก และมีแนวโน้มว่าแบรนด์รถยนต์รายใหญ่บางแบรนด์ในประเทศต่าง ๆ เช่น ญี่ปุ่น เยอรมนี และเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของสหรัฐอาจตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย รวมถึงการดำเนินการดังกล่าวมีความเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของผู้ผลิตรถยนต์ในภูมิภาคอเมริกาเหนือ ซึ่งพึ่งพาเครือข่ายที่บูรณาการกันอย่างสูงในสหรัฐ เม็กซิโก และแคนาดา