“แจ็ค หม่า” อำลาตำแหน่ง 10 ก.ย.นี้ เตรียมลุย “การศึกษา” หันหน้าเข้าวงการกุศล

เว็บไซต์ เดอะสแตนดาร์ด ของฮ่องกง รายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (10 ก.ย.) จะเป็นวันเกิดครบรอบ 55 ปีของ “แจ็ค หม่า” ประธานของบริษัทอาลีบาบา กรุ๊ป และยังเป็นวันที่เขาได้กำหนดจะก้าวลงจากตำแหน่งตามที่ได้ประกาศไว้เมื่อปีที่ผ่านมา โดยนายหม่า จะส่งไม้ต่อให้กับ “แดเนียล จาง” รองประธานบริษัท วัย 43 ปี

ทั้งนี้ แจ็ค หม่า ได้กล่าวในวันครบรอบวันเกิดเมื่อปีที่ผ่านมาว่า มีความเชื่อมั่นในตัวนายแดเนียล จาง ซึ่งเคยสร้างผลงานให้กับอาลีบาบาอย่างมาก กับการเปิดตัวเทศกาล “วันคนโสด” ซึ่งทำยอดขายได้ถึง 52 ล้านหยวนในวันแรกที่เปิดตัว และได้กลายเป็นเทศกาลหลักๆ ที่นักช้อปปิ้งรู้จักในตอนนี้

นอกจากนี้ นายหม่า ยังให้เหตุผลในการวางมือจากประธานใหญ่แห่งอาลีบาบากรุ๊ปครั้งนี้ว่า เขาต้องการทำตามอีกหนึ่งความฝันของตัวเอง โดยจะผันตัวไปสนับสนุนทางด้านการศึกษา สิ่งแวดล้อม และงานการกุศลมากขึ้น ซึ่งตามแผนแรกเขาต้องการที่จะริเริ่มโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวกับ “การศึกษา” โดยหม่า ระบุว่าสิ่งๆ นี้ถือว่าเป็น “รักแรกของเขา” และเขารักที่จะเดินตามรอย “บิล เกตส์” มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์ ซึ่งเป็นบุคคลที่เขาชื่นชมมาโดยตลอด

อย่างไรก็ตาม แจ็ค หม่า จะยังคงดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาให้กับคณะกรรมการบริหารต่อไป

รายงานระบุว่า โดยปกติการเปลี่ยนตัวผู้บริหารระดับสูงของบริษัทใหญ่ๆ มักจะกระทบและส่งผลร้ายแรงในตลาดหลักทรัพย์ แต่สำหรับอาลีบาบา ราคาหุ้นของเครืออาลีบาบากรุ๊ปในสหรัฐกลับลดลงเพียงเล็กน้อย

ก่อนหน้านี้เมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา อาลีบาบากรุ๊ป ได้เข้าซื้อหุ้นมูลค่า 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในธุรกิจ “โคอาล่าดอทคอม” (koala.com) ผู้ให้บริการด้านอีคอมเมิร์ซในเครือเน็ตอีส (NetEase) ซึ่งเติบโตขึ้นจากธุรกิจเกม และในปัจจุบันมีไลน์ธุรกิจใหม่เป็นธุรกิจอีคอมเมิร์ซรายใหญ่อีกแห่งหนึ่งในจีน

ทั้งนี้ เจฟฟรีย์ ทาวสัน ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์และการลงทุน มหาวิทยาลัยปักกิ่งของจีน กล่าวว่า นายแจ็ค หม่า มีความมั่นใจมากว่าจะสามารถส่งต่ออำนาจให้กับผู้ที่ไว้ใจได้ในรุ่นต่อๆ ไป โดยจะเห็นว่าที่ผ่านมานายหม่า ได้วางรากฐานให้กับธุรกิจของเขาอย่างมั่นคง เรียกได้ว่าเป็น “gold standard” เพื่อที่จะสามารถถ่ายทอดอำนาจได้อย่างราบรื่น

ขณะที่ นายทาวสัน ยังมองว่า นายหม่า ประสบความสำเร็จอย่างมากในด้านการบริหารคนและองค์กร โดยไม่ได้ยึดหลักการพึ่งพิงอำนาจที่คนใดคนหนึ่ง ซึ่งเขาได้เปรียบเทียบกับ “สตีฟ จ็อบส์” ผู้ร่วมก่อตั้งแอปเปิล, บิล เกตส์ และ เจอร์รี หยาง ผู้ร่วมก่อตั้งยาฮู เพราะพวกเขายึดติดกับกรอบการบริหารและพึ่งพาผู้นำองค์กรมากจนเกินไป


ในขณะที่ แจ็ค หม่า ได้สร้างวัฒธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง และได้ส่งเสริมบรรยากาศสร้างสรรค์และการคิดค้นนวัตกรรมภายในองค์กรอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งเขาได้เปิดกว้างต่อการคิด การตัดสินใจ และไอเดียต่างๆ จากทีมงานอาลีบาบาอยู่เสมอ