สำนักงานการแพทย์แห่งยุโรป แนะนำว่า ประเทศที่การติดเชื้อโควิด-19 ลดลงแล้ว ควรเลี่ยงฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ให้กับผู้ที่อายุเกิน 60 ปี
วันที่ 13 มิถุนายน 2564 มติชน รายงานข้อมูลจากรอยเตอร์สว่า นายมาร์โก คาวาเลอรี หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจรับมือโควิด-19 ของสำนักงานการแพทย์แห่งยุโรป (อีเอ็มเอ) เผยว่า ประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลดลง ควรหลีกเลี่ยงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าให้กับประชาชนวัยเกิน 60 ปีขึ้นไปด้วย เพื่อป้องกันการเกิดลิ่มเลือด พร้อมกับแนะนำให้หันมาใช้วัคซีน เอ็มอาร์เอ็นเอของ ไฟเซอร์-ไบออนเทค หรือ โมเดอร์นา แทน
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี
อีเอ็มเอพิจารณาว่าวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ปลอดภัยสำหรับประชาชนทุกกลุ่มอายุ ขณะที่หลายประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปกำหนดให้ใช้วัคซีนนี้กับผู้สูงอายุเท่านั้น เพราะเกรงว่าจะก่อให้เกิดภาวะลิ่มเลือดในกลุ่มคนอายุน้อย
นายคาวาเลอรี แนะนำว่า หากจำนวนการติดเชื้อโควิด-19 ใหม่ ลดลง และประชากรวัยหนุ่มสาวติดเชื้อลดน้อยลง รวมถึงมีวัคซีนให้เลือกมากขึ้น ควรหันไปใช้วัคซีนที่มีความเสี่ยงต่ำกว่าแทน และในหลายประเทศ เช่น ฝรั่งเศส เยอรมนี ฯลฯ ที่เข้าถึงวัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอได้ดี ควรเลี่ยงการฉีดวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าให้กับประชากรวัยเกิน 60 ปีด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา รัฐบาลอิตาลีมีคำสั่งให้ควบคุมการใช้วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า โดยจะให้ใช้วัคซีนชนิดนี้กับบุคคลที่มีอายุเกินกว่า 60 ปีขึ้นไปเท่านั้น หลังมีรายงานว่ามีหญิงสาวอายุ 18 ปี ที่ได้รับวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมเสียชีวิตจากอาการลิ่มเลือดอุดตัน
ส่วนคนที่อายุต่ำกว่า 60 ปีที่ได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเข็มแรกไปแล้ว ทางการอิตาลีจะให้รับวัคซีนต่างยี่ห้อกันในเข็มที่สองแทน
