“สิงคโปร์” เปิดประตูคริปโทฯ มุ่งฮับสินทรัพย์ดิจิทัล “เอเชีย”

ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในปัจจุบันยังคงเติบโตต่อเนื่อง จากการที่นักลงทุนทั่วโลกมองเห็นโอกาสในการทำเงินมหาศาลผ่านการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลหรือ “คริปโทเคอร์เรนซี” ที่จับต้องไม่ได้และตรวจสอบได้ยาก

ส่งผลให้หลายประเทศหันมาจับตาและควบคุมกิจกรรมเหล่านี้อย่างเข้มงวดมากขึ้น ขณะที่หนึ่งในศูนย์กลางทางการเงินของโลกอย่าง “สิงคโปร์” กำลังมองเห็นโอกาสในการช่วงชิงตลาดและมุ่งสู่กาเป็นศูนย์กลางสินทรัพย์ดิจิทัล

ไฟแนนเชียล ไทมส์ รายงานว่า “อินดิเพนเดนท์ รีเซิร์ฟ” (Independent Reserve) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซี จากออสเตรเลีย รายแรกที่ได้รับหนังสืออนุมัติในหลักการ (IPA letter) จากธนาคารกลางสิงคโปร์ (เอ็มเอเอส) เพื่อให้บริการชำระโทเคนดิจิทัล (DPT) อย่างเป็นทางการในสิงคโปร์ จากจำนวนบริษัทที่ยื่นขออนุญาตราว 170 ราย เช่น “ไบแนนซ์” (Binance) และ “เจมินี” (Gemini)

“ธาร์แมน แชนมูการัตนัม” รัฐมนตรีอาวุโสและประธานเอ็มเอเอส เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้ให้บริการอีกหลายรายอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของขั้นตอนการพิจารณา โดยผู้ที่ยื่นขออนุมัติจะต้องถูกตรวจสอบอย่างละเอียด และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของเอ็มเอเอสอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ การอนุมัติให้ผู้ให้บริการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลสามารถดำเนินการได้อย่างถูกต้อง เป็นไปตามพระราชบัญญัติบริการชำระเงินของสิงคโปร์ที่ออกมาในปี 2019 เพื่อรองรับการลงทุนรูปแบบใหม่และการคุ้มครองนักลงทุนรวมทั้งเพื่อตรวจสอบตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลไม่ให้เป็นแหล่งการฟอกเงิน ฉ้อโกง หรือการจัดหาทุนเพื่อก่อการร้าย รวมถึงการควบคุมความเสี่ยงด้านเทคโนโลยี

“รักส์ สนธิ” กรรมการผู้จัดการของอินดิเพนเดนท์ รีเซิร์ฟ ประจำสิงคโปร์ ระบุว่า เอ็มเอเอสต้องการให้สิงคโปร์กลายเป็นศูนย์กลาง สำหรับระบบนิเวศบล็อกเชนที่เอื้อต่ออุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลก “ขณะนี้ทุกสายตากำลังจับจ้องไปที่สิงคโปร์ และการปรับปรุงกฎระเบียบในประเทศ”

อุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลในสิงคโปร์มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามรายงาน “อินดิเพนเดนท์ รีเซิร์ฟ คริปโทเคอร์เรนซี อินเด็กซ์ สิงคโปร์ 2021” ระบุว่า ปัจจุบันมีชาวสิงคโปร์มากถึง 43% ที่ถือครองสินทรัพย์ดิจิทัล

ปัจจัยที่ส่งผลให้ชาวสิงคโปร์มีความเชื่อมั่นต่อคริปโทเคอร์เรนซีสูงขึ้นคือ กฎเกณฑ์การซื้อขายแลกเปลี่ยนและระบบภาษีที่มีความชัดเจนมากขึ้น หลังการปลดล็อกกฎระเบียบของทางการสิงคโปร์

ถือว่ากฎระเบียบและสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อการลงทุน ทำให้สิงคโปร์กลายเป็นที่น่าดึงดูดสำหรับผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลและนักลงทุนทั่วโลก ขณะที่คู่แข่งอย่าง “ฮ่องกง” กำลังสูญเสียแรงดึงดูด เนื่องจากกฎหมายความมั่นคงที่รัฐบาลจีนบังคับใช้ในฮ่องกง และแนวโน้มการจำกัดควบคุมอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซีในจีนที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้น

“อีริก อันเซียนิ” ซีโอโอของ “คริปโทดอตคอม” ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลรายใหญ่ในฮ่องกง ระบุว่า จีนที่มีอำนาจเหนือฮ่องกง ทำให้ความน่าดึงดูดของฮ่องกงในฐานะเป้าหมายของนักลงทุนคริปโทฯลดลง โดยเฉพาะบริการรับฝากสินทรัพย์ ที่นักลงทุนขาดความเชื่อมั่น “ขณะที่ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ในฮ่องกงเพิ่มสูงขึ้น สิงคโปร์จึงกลายเป็นที่ชื่นชอบของนักลงทุนรายย่อยมากกว่า”

ทั้งหมดนี้ นับเป็นความพยายามของสิงคโปร์ที่จะเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีทางการเงิน และยังเป็นโอกาสที่ประเทศเกาะเล็ก ๆ แห่งนี้จะทวีความสำคัญทั้งในฐานะศูนย์กลางทางการเงินและศูนย์กลางของสินทรัพย์ดิจิทัลของเอเชียและโลกที่น่าจับตาต่อไป