อินโดนีเซียรับอานิสงส์ยูเครน นำเข้า-ส่งออก มี.ค. พุ่งประวัติการณ์

นำเข้า-ส่งออก
FILE PHOTO : ADEK BERRY / AFP

อินโดนีเซียส่งออกมีนาคมพุ่ง 44% อานิสงส์สงครามยูเครน ยอดเกินดุลการค้าทะยานเท่าตัว

วันที่ 18 เมษายน 2565 รอยเตอร์สรายงานว่า สำนักข้อมูลสถิติอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า ยอดส่งออกของอินโดนีเซียในเดือนมีนาคม ทะยานขึ้น 44.36% เมื่อเทียบรายปี มูลค่าแตะ 2.65 หมื่นล้านดอลลาร์ นับเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อีกทั้งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์หลายฝ่ายเคยคาดไว้ ท่ามกลางราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นอันเนื่องมาจากผลกระทบของสงครามยูเครน

ซึ่งทำให้อินโดนีเซียซึ่งเป็นชาติผู้ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์สำคัญ อาทิ เหล็กกล้า ถ่านหิน ดีบุก นิกเกิล และน้ำมันปาล์ม ซึ่งมีความต้องการในตลาดโลกสูงอยู่แล้ว รับผลประโยชน์เกินดุลการค้ามากกว่าคาด

รายงานระบุว่า การส่งออกในเดือนมีนาคมที่เพิ่มขึ้นนั้นเหนือกว่าที่คาดการณ์ไว้ 23.83% ส่วนการนำเข้าเพิ่มขึ้น 30.85% มูลค่าแตะ 2.19 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าคาดการณ์ก่อนหน้าที่ 18.30% ส่งผลให้ยอดเกินดุลการค้าสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 4.53 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ทั้งถือว่าสูงกว่ายอดเกินดุลการค้าในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

วิษณุ วาร์ดานา นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารพีที แบงก์ ดานามอน อินโดนีเซีย (PT Bank Danamon Indonesia) ให้ความเห็นคาดว่า ยอดเกินดุลดังกล่าวได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวในภาคการผลิตและการบริโภคที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ได้คลี่คลายลง ขณะที่สินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกกำลังเป็นที่ต้องการจากปัจจัยสงครามยูเครน ทำให้อินโดนีเซียซึ่งเป็นชาติผลิตสินค้าโภคภัณฑ์สำคัญเหล่านี้รับอานิสงส์ไปเต็ม ๆ

นายวาร์ดานาเสริมว่า “ตราบใดที่รัฐบาลยังคงรักษาระดับความเคลื่อนไหวในปัจจุบันเอาไว้ได้ เราเชื่อว่าการนำเข้าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี แต่มูลค่าการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งสูงขึ้นจะช่วยหนุนให้ยังมียอดเกินดุลการค้าอยู่บ้างในช่วงเวลาข้างหน้า”

ด้านนายมาร์โก ยูโวโน หัวหน้าสำนักงานสถิติของอินโดนีเซียเผยว่า “สงครามในยูเครนที่ช่วยหนุนการส่งออกน้ำมันและก๊าซของอินโดนีเซียนั้น ผลที่เกิดขึ้นกับการค้าในขณะนี้อยู่กับว่าความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนนั้นจะยื้ดเยื้อเพียงใด”

นับตั้งแต่สหภาพยุโรปประกาศแบนพลังงานรัสเซีย ส่งผลให้การส่งออกสินค้าด้านพลังงานของอินโดนีเซียพุ่งขึ้นเกือบทุกชนิด โดยถ่านหินเป็นสินค้าส่งออกของอินโดนีเซียที่มียอดส่งออกพุ่งมากสุดเกือบ 150% เมื่อเทียบเป็นรายปี ที่ 3.9 พันล้านดอลลาร์ ปริมาณการขนส่งถ่านหินเพิ่มขึ้นประมาณ 22% ต่อปีเป็น 35.3 ล้านตัน

มาร์โก ยูโวโน หัวหน้าสำนักสถิติกล่าวว่า การส่งออกถ่านหินพุ่งขึ้นเฉลี่ย 41% ต่อเดือน ส่วนใหญ่เป็นการซื้อโดยจีน อินเดีย และฟิลิปปินส์ ส่วนการจัดส่งไปยังประเทศในยุโรป อาทิ เนเธอร์แลนด์ อิตาลี และเยอรมนีมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นกัน


สำนักงานสถิติยังบันทึกการนำเข้าสินค้าประเภท เนื้อสัตว์ ผลไม้ และเวชภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งบางส่วนกล่าวว่าอาจเนื่องมาจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นก่อนเดือนรอมฎอนที่ถือศีลอดของชาวมุสลิม ซึ่งเริ่มในต้นเดือนเมษายน