หลังผนึกกำลังกับผู้ให้บริการมือถือและอินเตอร์เน็ตอันดับต้นๆ ของเมืองไทยอย่าง “เอไอเอส” มาได้พักใหญ่ พร้อมกับปรับรูปแบบการบริหารจัดการโครงสร้างเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพสูงสุด เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา “ซีเอส ล็อกซอินโฟ” ก็เปิดบ้านที่ชั้น 4 อาคารซีดับเบิ้ลยูทาวเวอร์ เพื่อประกาศให้สื่อมวลชนได้รับรู้ถึงอีกก้าวสำคัญนั่นก็คือการรีโพสิชันครั้งใหญ่ ภายใต้แบรนด์ “ซีเอสแอล” (CSL)
ดร.สมชาย กิตติชัยกุลกิจ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ซีเอสแอล อธิบายว่า จากเดิมที่บริษัทมีความแข็งแกร่งในด้าน Soft Skill วิศวกร ทรัพยากรบุคคล และให้บริการมากว่า 20 ปี มีความเชี่ยวชาญหลายด้านทั้ง Network, System, Cloud และความปลอดภัย เมื่อมีการควบรวมธุรกิจกับเอไอเอสจึงทำให้สามารถมอบบริการให้แก่ลูกค้าองค์กรให้มีความสามารถในการแข่งขันกับทั่วโลกได้มากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับยุค Digital Disruption
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
“ที่สำคัญในการรีโพสิชั่นครั้งนี้ เราได้ปักหมุดที่จะเป็นเบอร์ 1 ในด้านผู้ให้บริการ One Stop ICT Service แบบครบวงจร ภายใต้การขับเคลื่อนของ “กลยุทธ์ 3S” เริ่มจาก S-Data Center & Cloud Solutions ที่จำเป็นมากสำหรับทุกองค์กร โดยเฉพาะ Cloud, Data Center และ ICT Solution ซึ่ง Solution ของซีเอสแอลนั้นแตกต่างไปจากคู่แข่งรายอื่นๆ ที่มีไม่ครบ เช่น ถ้าทำ ICT ก็ไม่มี Data Center หรือ Cloud สำหรับ Data Center แห่งแรกของเรานั้นมีมาแล้วกว่า 20 ปี ปัจจุบันมี 9 แห่ง ครบทุกภูมิภาคหลักของประเทศ โดยเพิ่งเปิดตัว 2 Data Center แห่งใหม่พร้อมกัน ได้แก่ “TELLUS 2” ความจุสูงสุด 1,000 racks พร้อมรองรับการขยายตัวของงานด้าน IT ตามความต้องการขององค์กรทุกขนาด นอกจากนี้ยังมีระบบ Facilities ต่างๆ และ “The Cloud B” ที่มีความจุมากกว่า 350 racks รองรับการขยายตัวของธุรกิจลูกค้าองค์กรและการเติบโตของเทคโนโลยี Cloud, AI และ Iot ได้มาตรฐานความปลอดภัยของข้อมูลด้วย ISO 27001”
ดร.สมชาย ย้ำว่า ทั้งหมดนี้จึงทำให้ซีเอสแอลเป็น Data Center ที่ใหญ่ที่สุด รองรับได้ทุกความต้องการของลูกค้า ได้รับการรับรองมาตรฐานต่างๆ ในระดับสากล และเมื่อผสานกับจุดเด่นทางด้านเน็ตเวิร์คที่แข็งแกร่งของเอไอเอส จึงทำให้ Data Center ทั้งหมดเชื่อมต่อกันด้วยความเร็วที่มากกว่าไฮสปีด โดยมีความเร็วสูงสุด 100 Gbps มี Domestic Bandwidth ขนาดใหญ่ที่สุดเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการทุกราย นอกจากนี้ สิ่งที่เป็นจุดเด่นของซีเอส ล็อกซอินโฟ และยังคงมีอยู่ก็คือ Carrier Neutral Provider เปิดกว้างให้ Network ผู้ให้บริการโครงข่ายทุกรายสามารถเชื่อมต่อได้ สำหรับบริการด้าน Cloud ของซีเอสแอลก็เป็น Hybrid หากลูกค้าต้องการเชื่อมต่อกับ Cloud ต่างประเทศ ก็สามารถให้บริการได้ทั้ง AWS VMWare และอื่นๆ
“S ที่สองคือ S-Managed Service นอกจากการให้คำปรึกษา ออกแบบ ติดตั้ง หรือย้ายระบบตามความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว เรายังมอบบริการโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมดูแลระบบให้หลังการขายอย่างต่อเนื่องแบบ Lifecycle ไม่มีวันจบ ตัวอย่างที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือเรื่องของความปลอดภัยที่ลูกค้าอาจมีโอกาสติดไวรัสหรือโดนแฮ็กได้ ส่วน S สุดท้ายได้แก่ S-System Integration สำหรับการแข่งขันในยุคดิจิทัลนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีผู้เชี่ยวชาญไอทีในแต่ละด้าน ซึ่งซีเอสแอลก็แตกต่างไปจากคู่แข่งรายอื่นๆ เนื่องจากมีพาร์ตเนอร์ที่เป็นบริษัทอันดับโลกที่เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ เช่น Cisco Microsoft Huawei HP AWS และสามารถบูรณาการได้แบบไร้รอยต่อ (Seamless)”
“ธุรกิจในยุคดิจิทัลวันนี้จำเป็นต้องมีทั้ง Cloud และ DATA Center ซึ่งซีเอสแอลพร้อมที่จะให้คำปรึกษา ตรวจสอบระบบ และออกแบบให้เหมาะสมที่สุดกับลูกค้าแต่ละองค์กรได้ ในขณะเดียวกันค่าใช้จ่ายก็น้อยสุด แต่ที่สำคัญการที่ลูกค้ามีผู้ให้บริการที่เชี่ยวชาญและไว้วางใจได้ ก็จะได้ไปโฟกัสหรือทุ่มเทในการพัฒนาธุรกิจที่ต้องแข่งขันจริงๆ”
ยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร เอไอเอส กล่าวเสริมว่า เอไอเอสมีเครือข่ายมือถือที่ใหญ่ที่สุดในไทย มีเครือข่ายไฟเบอร์ทั่วประเทศ มีบริการ Cloud ให้กับลูกค้าคอนซูเมอร์ ตลอดจนแอพพลิเคชั่น เซอร์วิส ซอฟต์แวร์ต่างๆ รวมถึงมีทีมงานที่มีความสามารถในการพัฒนาหรือโซลูชั่นแพลตฟอร์มต่างๆ และได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำทางด้าน Network ที่มีสปีดสูงสุดของประเทศไทยเป็นเวลา 4 ปีติดต่อกัน ส่วนในเรื่องของความถี่ก็มีมากที่สุดในประเทศ คือ 140 MHz และในปีที่ผ่านมาก็มีอัตราการเติบโตของ Network ถึงกว่า 60% ที่สำคัญคือมีฐานลูกค้าขนาดใหญ่สำหรับรองรับวิวัฒนาการใหม่ๆ จากศักยภาพของ Digital Infrastructures ในกลุ่มเอไอเอส ตั้งแต่โครงข่ายหลักและทีมงานมืออาชีพ จึงพร้อมแล้วที่จะช่วยสนับสนุนให้ลูกค้าธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์สามารถทรานส์ฟอร์มสู่ดิจิทัลและมีศักยภาพการแข่งขันกับต่างประเทศ
