บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ “โออาร์” มุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนอีกขั้น ปั้นกลยุทธ์ใหม่ในการสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจน้ำมัน ธุรกิจค้าปลีก (Non–Oil) และธุรกิจต่างประเทศด้วยการผนึกกำลังกับ กองทุน 500 Startups หรือ 500 TukTuks กองทุนชั้นนำของไทย เปิดตัว ORZON Ventures จัดงบ 1.5 พันล้านบาท ลงทุนในสตาร์ทอัพดาวรุ่งในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งเป้าปั้นยูนิคอร์นตัวใหม่ให้ประสบความสำเร็จระดับโลก
“ORZON Ventures” กองทุนใหญ่ พร้อมหนุนหลังสตาร์ทอัพ
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
ในงานเสวนาหัวข้อ “Beyond Partnership Beyond Unicorns Beyond Horizons” จิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (โออาร์) กล่าวว่า โออาร์ เตรียมเม็ดเงินลงทุนไว้ 7.5 หมื่นล้านบาท ในระยะเวลาลงทุน 5 ปี จำนวนนี้แบ่งไปลงทุนใน ORZON Ventures กองทุนที่มีเป้าหมายสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพใหม่ ๆ ในระดับ Series A-B ด้วยมูลค่าการลงทุน 1.5 พันล้านบาท โดยมี 500 TukTuks เป็นผู้บริหารจัดการกองทุน
ในการลงทุนครั้งนี้ โออาร์ มีเป้าหมายขยับขยายการลงทุนออกจากธุรกิจน้ำมันและธุรกิจค้าปลีกไปยังธุรกิจอื่น ๆ ภายใต้กรอบ Lifestyle & Mobility ซึ่งก็คือธุรกิจที่ตอบโจทย์การเดินทางในอนาคต และตอบโจทย์การใช้ชีวิตทุกไลฟ์สไตล์ อาทิ การท่องเที่ยว การเดินทาง อาหารและเครื่องดื่ม หรือแม้แต่เรื่องสุขภาพ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจ และสร้างการเติบโตในระยะยาว
 |
 |
ซีอีโอ โออาร์ เผยอีกว่า ที่ผ่านมา บริษัทได้ลงทุนกับบริษัทสตาร์ทอัพและเอสเอ็มอีต่าง ๆ ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่ดี เช่น การลงทุนกับ Flash Express ที่กลายเป็นยูนิคอร์น (สตาร์ทอัพที่มีมูลค่าบริษัทมากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ) ตัวแรกของไทย การลงทุนกับ บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด ผู้บริหารร้าน “โอ้กะจู๋” ที่มีชื่อเสียงด้านผักออร์แกนิกที่สดและมีคุณภาพ รวมทั้งร่วมจัดตั้ง ORBIT Digital ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่แกร่งและมีอนาคตของไทย
“สตาร์ทอัพส่วนใหญ่มีความรู้ความสามารถ มีความเท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก และมีความสามารถในการปรับตัว แต่ยังขาดความพร้อมด้านต่าง ๆ เช่น กำลังคน เงินทุน การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และขาดระบบนิเวศเกื้อหนุน โออาร์ ที่มีศักยภาพและความพร้อมทุกด้าน จึงพร้อมสนับสนุนสตาร์ทอัพอย่างเต็มที่ และพร้อมเป็นแซนด์บ็อกซ์หรือสนามเด็กเล่นขนาดใหญ่ให้สตาร์ทอัพและเอสเอ็มอีได้โตไปกับ โออาร์ และไม่ต้องกังวลว่า การร่วมมือกันครั้งนี้จะต้องอยู่ภายใต้การดำเนินธุรกิจของ โออาร์ แต่เพียงผู้เดียว เพราะ โออาร์ จะเปิดโอกาสให้สตาร์ทอัพได้พิจารณาและตัดสินใจได้อย่างเต็มที่”
ผนึกกำลัง 500 TukTuks ปั้น “ยูนิคอร์น” ตัวต่อไป
การจับมือกันตั้งกองทุน ORZON Ventures ระหว่าง โออาร์ กับ 500 TukTuks ซึ่งเป็น VC (Venture Capital) ชั้นนำของไทยครั้งนี้ นอกจากจะขยายโอกาสให้สตาร์ทอัพในไทย ยังตั้งเป้าตีตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย เพราะเป็นภูมิภาคที่มีประชากรกว่า 600 ล้านคน มีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดี ขณะเดียวกัน แนวโน้มการเติบโตของสตาร์ทอัพในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอีก 10 ปีข้างหน้า คาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 4 แสนล้านเหรียญ ที่สำคัญคือเป็นตลาดที่ทั้ง โออาร์ และ 500 TukTuks มีความเชี่ยวชาญและแข็งแกร่ง
กระทิง พูนผล ผู้บริหารกองทุน 500 TukTuks และ ผู้บริหารของ ORZON Ventures กล่าวว่า ภูมิทัศน์ของสตาร์ทอัพไทยกำลังอยู่ใกล้จุดหักศอก ถัดไปสตาร์ทอัพไทยกำลังจะโตแบบก้าวกระโดด การเข้ามาของ โออาร์ ไม่ใช่เพียงแค่เม็ดเงินลงทุน แต่คือแพลตฟอร์มในการก้าวกระโดดของสตาร์ทอัพ เพราะเป็นการพาสตาร์ทอัพไทยมายืนบนไหล่ของยักษ์ที่แข็งแกร่งและมองการณ์ไกล และตอนนี้เป็นจังหวะที่ประจวบเหมาะ ถูกที่ ถูกเวลาอย่างยิ่งในการลุยตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่กำลังเข้าสู่ยุคทอง และเป็นตลาดใหม่ที่มีขนาดใหญ่ของโลก
ORZON Ventures จึงเป็นการรวมจุดแข็งของทั้ง โออาร์ ด้านทรัพยากร พื้นที่ และระบบนิเวศที่แข็งแกร่ง และ 500 TukTuks ที่ได้ชื่อว่าเป็นนักลงทุนชั้นนำ มีประสบการณ์กว่า 6 ปี พร้อมร่วมมือมุ่งสร้างสตาร์ทอัพให้เติบโตในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตลาดโลก พร้อมโอกาสในการขยายธุรกิจ เปรียบเสมือนลมใต้ปีกของเหล่าสตาร์ทอัพที่คอยช่วยเหลือ ส่งเสริม และผลักดันให้สตาร์ทอัพโผบินได้สูงขึ้น และกว้างไกลขึ้นด้วยการสนับสนุนจาก ORZON Ventures
ผู้บริหารกองทุน 500 TukTuks กล่าวด้วยว่า มีการคาดการณ์ว่า 10 ปีข้างหน้า เอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมียูนิคอร์น 20-40 ตัว ซึ่ง ORZON Ventures จะสร้างส่วนแบ่งตลาดจากมูลค่าสตาร์ทอัพยูนิคอร์นในภูมิภาคนี้ให้เกินเปอร์เซ็นต์ของจีดีพีของประเทศ ซึ่งไทยเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คาดว่า 3-5 ปีต่อจากนี้ น่าจะเห็นผลลัพธ์ที่ดีอย่างแน่นอน
ด้าน ณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ ผู้บริหารกองทุน 500 TukTuks และ ผู้บริหารของ ORZON Ventures เสริมว่า ORZON Ventures มีเป้าหมายลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพ 20-30 บริษัท ซึ่งจะเริ่มคัดเลือก 1-2 บริษัทก่อนภายในปีนี้ โดยมีงบลงทุนให้บริษัทสตาร์ทอัพรายละ 50 ล้านบาท เน้นการลงทุนในระดับ Series A ขึ้นไป ที่ดำเนินธุรกิจในไทยและในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก่อนจะคัดเลือกบริษัทสตาร์ทอัพมากขึ้นในปีต่อ ๆ ไป
ORZON Ventures จึงไม่ใช่การขยับตัวครั้งใหญ่ของ โออาร์ เพื่อมุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนของธุรกิจเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างระบบนิเวศของสตาร์ทอัพไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้แข็งแกร่งขึ้น พร้อมเป็นทิศทางแห่งอนาคต
ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ [email protected]
