ควีนเอลิซาเบธที่ 2 : พระราชพิธีพระบรมศพยกย่อง “ความมุ่งมั่นในภารกิจ” ตลอดพระชนมชีพ

 

Funeral service at Westminster Abbey

ที่มาของภาพ, PA Media

พระราชพิธีพระบรมศพของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ที่พระราชวังเวสต์มินสเตอร์ ยกย่อง “ความมุ่งมั่นในภารกิจ” ตลอดพระชนมชีพของพระองค์

บรรดาพระราชวงศ์ ประมุข และผู้แทนของประเทศต่าง ๆ กว่า 2,000 คน เข้าร่วมพระราชพิธีพระบรมศพของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สอง ซึ่งจัดขึ้นที่มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ใจกลางกรุงลอนดอน โดยมีประชาชนจำนวนมากเฝ้ารอกันอย่างแน่นขนัดที่สองข้างทาง เพื่อถวายความอาลัยขณะขบวนพระบรมศพเคลื่อนผ่าน

กษัตริย์ชาร์ลส์ที่สามทรงเป็นผู้นำขบวนพระบรมศพ โดยทรงพระดำเนินตามหลังหีบพระบรมศพของพระราชมารดา ซึ่งมีการอัญเชิญจากเวสต์มินสเตอร์ฮอลล์ไปยังมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ที่อยู่ใกล้กัน

หลังเสร็จสิ้นพิธีทางศาสนาในมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์แล้ว รถบรรทุกพระศพได้เดินทางออกจากกรุงลอนดอนและมุ่งหน้าไปยังพระราชวังวินด์เซอร์ เพื่อประกอบพระราชพิธีฝังพระศพในโบสถ์น้อยเซนต์จอร์จ ซึ่งเป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาส่วนพระองค์ และเป็นที่ฝังพระศพของเจ้าชายฟิลิป พระราชสวามี

กษัตริย์ชาร์ลส์ที่สาม พร้อมด้วยเจ้าฟ้าหญิงแอนน์, เจ้าชายแอนดรูว์, เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด, เจ้าชายวิลเลียม และเจ้าชายแฮร์รี ทรงพระดำเนินตามหลังรถบรรทุกพระบรมศพที่เคลื่อนช้า ๆ ตามเส้นทางเดินยาว (The Long Walk) สู่ปราสาทวินด์เซอร์และโบสถ์น้อยเซนต์จอร์จ

The Queen's coffin travels along the Mall in London

ที่มาของภาพ, Getty Images

The procession was seen entering St George's Chapel

ที่มาของภาพ, Getty Images

ก่อนหน้านั้นเดวิด ฮอยล์ อธิการแห่งเวสต์มินสเตอร์ ผู้นำประกอบพิธีทางศาสนาที่มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ในช่วงเช้า กล่าวรำลึกถึง “ความมุ่งมั่นไม่หวั่นไหวในเป้าหมายอันสูงส่ง ตลอดช่วงเวลาหลายสิบปีที่ทรงเป็นสมเด็จพระราชินีนาถและประมุขแห่งเครือจักรภพ”

“เราต่างรำลึกถึงการอุทิศทุ่มเทและความมุ่งมั่นในพระราชภารกิจตลอดพระชนมชีพ ด้วยใจยกย่องชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง”

จากนั้นคณะนักร้องประสานเสียงและผู้เข้าร่วมพระราชพิธีพระบรมศพ ขับขานบทเพลง The Lord is My Shepherd ซึ่งใช้ในพระราชพิธีอภิเษกสมรสของควีนกับเจ้าชายฟิลิปที่มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ด้วย

ด้านจัสติน เวลบี อาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอร์เบอรี หรือผู้นำของศาสนจักรอังกฤษ ได้ขึ้นเทศนาโดยกล่าวว่าสมเด็จพระราชินีนาถฯ “ทรงสร้างความประทับใจให้กับผู้คนจำนวนมหาศาล”

“ความโศกเศร้าในวันนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงกับเหล่าพระบรมวงศานุวงศ์เท่านั้น แต่พสกนิกรทั้งประเทศและผู้คนทั่วโลกต่างก็รู้สึกเสียใจต่อการจากไปของสมเด็จพระราชินีนาถฯ ผู้ทรงรับใช้ประชาชนโดยเปี่ยมไปด้วยความรัก และทรงดำรงพระชนมชีพอย่างมีคุณค่าสมบูรณ์”

พิธีในมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์เสร็จสิ้นลง ด้วยการยืนสงบนิ่งถวายความอาลัยพร้อมกันทั้งสหราชอาณาจักรเป็นเวลา 2 นาที จากนั้นปี่สก็อตบรรเลงเพลงโศกแบบโบราณ ต่อด้วยกษัตริย์ชาร์ลส์ที่สามประทับยืนสงบนิ่งขณะเพลงชาติ God Save The King บรรเลงเป็นสัญญาณสิ้นสุดพิธีการช่วงเช้า

A handwritten card on top of the Queen's coffin reads: "In loving and devoted memory. Charles R".

ที่มาของภาพ, Reuters

นอกจากพระมหามงกุฎ พระคทา และพระลูกโลกประดับกางเขน ที่ถูกวางบนหีบพระบรมศพคลุมด้วยธง Royal Standard แล้ว กษัตริย์ชาร์ลส์ที่สามทรงวางพวงมาลาซึ่งทำจากดอกไม้ที่ตัดมาจากสวนในพระตำหนักแห่งต่าง ๆ รวมทั้งมีพระราชหัตถเลขาถึงพระราชมารดาใจความว่า “รำลึกถึงด้วยความรักและภักดี” โดยทรงลงพระปรมาภิไธย Charles R. ซึ่งหมายถึงกษัตริย์ชาร์ลส์ที่สามด้วย

มีการอัญเชิญหีบพระบรมศพไปในขบวนแห่ 3 ขบวน ภายในวันเดียว (19 ก.ย.) โดยขบวนแรกที่ออกจากเวสต์มินสเตอร์ฮอลล์ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมศพในช่วงรัฐพิธีถวายความอาลัยหลายวันก่อนหน้านี้ มีกษัตริย์ชาร์ลส์ที่สามพร้อมด้วยพระขนิษฐาและพระอนุชา รวมทั้งเจ้าชายวิลเลียมและแฮร์รีเสด็จไปในขบวนด้วย

ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ และประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส เป็นหนึ่งในบรรดาประมุขของรัฐจากทั่วโลกที่เดินทางมาเข้าร่วมพระราชพิธีพระบรมศพ เช่นเดียวกับเหล่าพระราชวงศ์ของยุโรป อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ 6 คน และตัวแทนสาธารณชน 200 คน ซึ่งได้รับคัดเลือกในงานเฉลิมพระชนมพรรษาของควีนก่อนหน้านี้

มีการถ่ายทอดสดพระราชพิธีพระบรมศพในครั้งนี้ไปทั่วโลก โดยคาดว่าจะมีผู้ชมหลายล้านคน ส่วนประชาชนที่ไม่สามารถเข้าชมพระราชพิธีและขบวนอัญเชิญพระบรมศพอย่างใกล้ชิด สามารถชมการถ่ายทอดสดจากจอขนาดใหญ่ที่ติดตั้งตามสวนสาธารณะหลายแห่งของกรุงลอนดอน และตามสถานที่สำคัญของประเทศได้

พระราชพิธีพระบรมศพในครั้งนี้จัดเป็นพิธีศพในระดับรัฐพิธีครั้งแรก นับแต่มรณกรรมของเซอร์วินสตัน เชอร์ชิลล์ ในปี 1965 ทั้งยังเป็นพิธีการระดับยิ่งใหญ่ที่สุดของสหราชอาณาจักรที่จัดขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่สอง

ขณะขบวนพระบรมศพเคลื่อนจากมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ไปยังประตูชัย Wellington Arch ที่สวนสาธารณะไฮด์พาร์ก มีการยิงสลุดเพื่อถวายพระเกียรติทุก 1 นาที หลังจากนั้นขบวนผ่านไปยังจุดสวนสนามของกองทหารม้ารักษาพระองค์ ถนนเดอะมอลล์ และพระราชวังบักกิแฮม ก่อนนำหีบพระบรมศพขึ้นสู่รถบรรทุกพระบรมศพที่สวนสาธารณะไฮด์พาร์ก แล้วมุ่งหน้าไปยังโบสถ์น้อยเซนต์จอร์จในพระราชวังวินด์เซอร์

เดวิด คอนเนอร์ อธิการแห่งวินด์เซอร์ ผู้นำประกอบพิธีทางศาสนาขั้นสุดท้ายที่โบสถ์น้อยเซนต์จอร์จกล่าวว่า “พวกเรามาเพื่อร่วมกันส่งดวงพระวิญญาณของสมเด็จพระราชินีนาถฯ ผู้ทรงรับใช้พระผู้เป็นเจ้า กลับคืนสู่พระหัตถ์ของพระองค์”

หีบพระบรมศพถูกหย่อนลงในที่เก็บพระศพของพระราชวงศ์ใต้พื้นโบสถ์ และจะมีการเคลื่อนย้ายไปไว้ยังอนุสรณ์สถานพระเจ้าจอร์จที่ 6 ซึ่งเป็นโบสถ์น้อยอีกแห่งหนึ่งภายในโบสถ์น้อยเซนต์จอร์จในภายหลัง

หีบพระบรมศพถูกฝังไว้เคียงข้างกับของเจ้าชายฟิลิป ดยุคแห่งเอดินบะระ พระราชสวามีผู้สิ้นพระชนม์ไปก่อนเมื่อปีที่แล้ว โดยอยู่ร่วมกับหีบพระบรมศพของพระราชบิดาและพระราชมารดาของสมเด็จพระราชินีนาถฯ ด้วย

Members of the Royal Family walk behind the Queen's coffin

ที่มาของภาพ, Reuters

Prince William and Prince Harry follow the Queen's coffin

ที่มาของภาพ, Getty Images

President Joe Biden in Westminster Abbey

ที่มาของภาพ, Reuters

People lining the procession route in London.

ที่มาของภาพ, Getty Images

Students watch the state funeral of Queen Elizabeth II in their boarding house, Windmill Lodge, at Gordonstoun School, Moray, where King Charles III once boarded

ที่มาของภาพ, PA Media

People at a station in Seoul, South Korea, watch a television broadcast of the State Funeral Procession of Queen Elizabeth II.

ที่มาของภาพ, EPA

…..

ข่าว บีบีซี ไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว