กราดยิงหนองบัวลำภู : “ฉันเจ็บปวดและโกรธ”

  • วัชชิรานนท์ ทองเทพ, ลอว์รา บิกเกอร์ และ ฟรานเชส เหมา
  • บีบีซี นิวส์

ดวงพันธ์ ปัฏโภชานันท์เดินอย่างไร้จุดหมายนอกศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ในมือถือถุงพลาสติกเต็มไปด้วยของเล่น

คุณยายวัย 64 ปี เฝ้ารอว่าเมื่อไหร่จะได้เห็นหน้าหลานชาย เพื่อจะได้นำของเล่นชิ้นโปรด รวมถึงหุ่นไดโนเสาร์ของหลาน ใส่ลงไปในโลงศพ

หลานของคุณยาย ชื่อ “กัปตัน” เป็นเด็กชายวัย 3 ขวบ เป็น 1 ในเด็ก 23 คนที่เสียชีวิต จากเหตุถูกทำร้ายด้วยมีดและปืนที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อ 6 ต.ค. ที่ผ่านมา

หลานของดวงพันธ์ เป็นหนึ่งเด็กเล็กที่เสียชีวิต

อดีตตำรวจที่ถูกให้ออกจากราชการบุกเข้าไปในศูนย์ แล้วใช้ปืนและมีดสังหารเด็กเล็กนับสิบชีวิต อายุน้อยสุด 3 ขวบ ที่กำลังนอนกลางวัน โดยช่วงก่อนและหลังก่อเหตุในศูนย์ เขายังยิงสังหารประชาชนที่พบเห็น มีผู้เสียชีวิตด้วยน้ำมือเขารวม 36 คน ก่อนที่จะปลิดชีพตัวเอง

ปกติแล้ว ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กแห่งนี้ มีเด็กอยู่วันละกว่า 90 คน แต่ด้วยฝนตกหนักในวันนั้น การเดินทางไม่สะดวก ทำให้มีเด็กอยู่ภายในศูนย์เพียง 24 คน และจาก 24 คน มีเด็กรอดชีวิตเพียงคนเดียว

พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน เมื่อ 7 ต.ค. ถึงผลการชันสูตรศพผู้ก่อเหตุว่า ไม่พบสารเสพติดในร่างกาย นั่นหมายความว่า ผู้ก่อเหตุไม่ได้ใช้สารเสพติดในรอบ 72 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ครอบครัวที่เศร้าเสียใจ, Thai News Pix

“คดีฆ่ายังเหมือนเดิม สำนวนชันสูตรยังเหมือนเดิม เพียงแต่เราดูไว้มาเป็นบทเรียนในคราวต่อไปว่าสาเหตุเกิดจากอะไรบ้าง”

ผบ.ตร. ยังเผยถึงผลการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า ช่วงเช้าตรู่วันก่อเหตุ ผู้ก่อเหตุทะเลาะกับภรรยา ภรรยาจึงขอให้มารดามารับ จึงสันนิษฐานได้ว่า ผู้ก่อเหตุอาจคิดว่าภรรยาจะไม่อยู่ด้วยแล้ว จึงเกิดเป็นความเครียดสะสม ประกอบกับขาดรายได้จากการตกงาน แต่ไม่พบหลักฐานว่ามีอาการทางจิต เพราะเมื่อครั้งไปที่ศาลก็ไม่มีอะไรผิดปกติ

ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ผู้ก่อเหตุซื้อมาถูกต้อง คาดว่าผ่านโครงการสวัสดิการตำรวจ ซึ่งแม้จะถูกไล่ออกจากราชการ แต่ถือว่ามีใบอนุญาตใช้เป็นของส่วนตัวไปแล้ว ตอนนี้ ร่างของผู้ก่อเหตุอยู่ระหว่างกระบวนการระงับศพไว้ในกลุ่มงานนิติเวชเพื่อตรวจ จึงยังไม่สามารถประกอบพิธีได้ และวัดในพื้นที่ทั้ง 3 วัด ไม่อยากรับ จึงอาจให้มารดารับไปประกอบพิธีที่วัดอื่น

เสียงของผู้สูญเสีย

“ตอนได้ยินข่าวเหตุกราดยิง ฉันแทบเป็นลม” ดวงพันธ์ บอกกับบีบีซี บนโทรศัพท์มือถือของเธอ คือรูปของหลานชายวัย 3 ขวบ ในชุดนักเรียน ที่ถ่ายก่อนเกิดเหตุเพียงไม่กี่ชั่วโมง

เช่นเดียวกันศูนย์เด็กเล็กแห่งอื่น ๆ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อ.อุทัยสวรรค์ ถ่ายและโพสต์รูปภาพเด็ก ๆ ให้ผู้ปกครองเห็นบนสังคมออนไลน์ เป็นภาพที่เด็กมีความสุข สีหน้าเปื้อนยิ้ม กำลังเขียนหนังสือ หรือวาดภาพใกล้เสร็จ

ดวงพันธ์ เป็นหนึ่งในญาติผู้เสียชีวิตที่เศร้าสลด ที่รวมตัวกันหน้าศูนย์ ในเช้าวันศุกร์ที่ 7 ต.ค.

น้องกัปตันใกล้ฉลองวันเกิดปีที่ 3 แล้ว

คุณยายอีกคน อายุ 46 ปี บอกกับบีบีซีว่า เธอเสียหลายชายและหลานสาวไปทั้งคู่

“ฉันเจ็บปวดใจ…(และ) โกรธที่ฉันทำอะไรไม่ได้เลย” เธอกล่าว และไม่ใช่เพียงคุณยายสองคนนี้ที่เศร้าเสียใจ แต่มีอีกมากที่ร้องหาคำตอบ

“ทำไมถึงมาลงที่เด็ก ๆ ทำไมต้องฆ่าพวกเขาทั้งที่เด็ก ๆ ไม่ได้ไปทำอะไรให้” ญาติของน้องกัปตันที่เสียชีวิต กล่าว และอีกไม่นาน น้องกัปตันจะฉลองวันเกิดปีที่ 3 อยู่แล้ว

ญาติผู้เสียชีวิตหลายคนกรีดร้องและหมดสติ, Thai News Pix

นางทองใจ ดวงคำจันทร์ ยายผู้เลี้ยงดู ด.ช. กฤษณพงษ์ วัย 4 ปี ที่เสียชีวิตในเหตุร้ายครั้งนี้ พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ว่า เมื่อวานตอนเช้าก็เพิ่งจะไปส่งหลานเข้าโรงเรียนมา หลานชายก็เพิ่งเข้าเรียนได้แค่เพียง 2 วันเท่านั้น

คุณยายในวัย 48 ปี หาเลี้ยงชีพด้วยการทำการเกษตรตามวิถีชาวบ้านใน อ. นากลาง ก็มีความสุขตามอัตภาพ ได้เลี้ยงหลานชายที่พ่อแม่ของเขาฝากให้เลี้ยง เพราะต้องทำมาหากินในกรุงเทพ ซึ่งได้กลับมายังบ้านเกิดแล้ว แต่ไม่ได้มารับศพลูกเพราะยังทำใจไม่ได้

“หลายชายเป็นเด็กน่ารัก พูดเก่ง ตื่นเช้าขึ้นมาก็มักถามหาคุณตา แต่ไม่คิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะเป็นเรื่องจริง ทั้ง ๆ ที่หลานชายเพิ่งเข้าโรงเรียนได้แค่สองวันเท่านั้น” นางทองใจ พูดไปด้วยก็เลื่อนภาพหน้าจอมือถือที่มีรูปของหลานรักไปด้วย พร้อมกับเล่าว่า “รูปนี้ก็ถ่ายตอนไปเที่ยวที่พัทยา บอกไม่ให้สวมแว่นกันแดดก็ไม่ฟัง เพราะเขาชอบสวม”

ด.ช. กฤษณพงษ์ วัย 4 ปี, Watchiranont Thongtep/BBC Thai

เสียงจากทีมกู้ภัย

หัวหน้าทีมกู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมอุดรธานี ยอมรับ เจอเหตุร้ายมาเยอะตลอด 30 ปี แต่ไม่มีครั้งไหน “หนักหนา” เท่าครั้งนี้ แต่จะส่งน้อง ๆ ถึงมือครอบครัวอย่างดีที่สุด

“เป็นการซ้อมแผนไหม หรือว่ามันเป็นจริงหรือ” นี่คือคำถามแรกที่ผุดขึ้นในหัวของนายประจักษ์ วงษ์รอด หัวหน้าทีมกู้ภัยจากมูลนิธิส่งเสริมธรรมอุดรธานี บอกบีบีซีไทย โดยหวนรำลึกถึง หลังการรับแจ้งข่าวการแจ้งเหตุกราดยิงเด็กเล็กที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (6 ต.ค.)

เขาจึงขอคำยืนยันกับทางหน่วยกู้ภัยอีกครั้งพบว่าเป็นเรื่องจริง เนื่องจากหน่วยกู้ภัยนี้อยู่ที่เกิดเหตุแล้ว โดยระบุที่เสียงปลายสายว่ามีผู้เสียชีวิตจำนวนมากและเข้าพื้นที่ยังไม่ได้จึงขอการสนับสนุนไปช่วยเหลือ จากนั้นเขาจึงจัดทีมพนักงานหน่วยกู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมอุดรฯ มุ่งไปที่เกิดเหตุที่ อ. นากลาง

ประจักษ์ วงษ์รอด หัวหน้าทีมกู้ภัยจากมูลนิธิส่งเสริมธรรมอุดรธานี , Napat Wesshasartar/BBC Thai

ภารกิจนี้ต้องรวมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยกว่า 50 นาย เขาเล่าว่าเมื่อไปถึงที่เกิดเหตุแล้ว เจอสภาพศพแรกที่อยู่ศูนย์พัฒนาเด็ก ผู้เสียชีวิตสองคนถูกยิง และได้รับแจ้งว่า ยังอยู่ข้างในอีก 20 กว่าศพ แต่ก็ยังเข้าไม่ได้ เพื่อรอทีมแพทย์ แล้วค่อย ๆ ประสานกันว่าทำอย่างไร เมื่อพร้อมแล้วค่อยเข้าไป โดยมีทีมเขาเป็นทีมแรก และมีคณะแพทย์เข้าไปด้วยประมาณ 6 คน แต่จากสภาพที่เห็นในจุดเกิดเหตุทุกคนถึงกลับต้องผงะ

“เข้าไปครั้งแรกปุ๊บ คุณหมอเป็นลม เพราะไม่เคยเจออย่างนี้” เขาเล่า

บีบีซีไทยไม่สามารถเล่ารายละเอียดที่หัวหน้ากู้ภัยรายนี้เล่าให้ฟัง เพราะจะเป็นการตอกย้ำให้เห็นสภาพความเลวร้ายที่เกิดขึ้น แต่หัวหน้ากู้ภัยรายนี้บอกว่า น่าจะเป็นเหตุการณ์เลวร้ายครั้งแรกในชีวิตการเป็นอาสาสมัครกู้ภัยมา

“ผมอยู่ที่นี่มาประมาณ 30 ปี ประสบการณ์ก็เจอมาเยอะ แต่ไม่เคยเจอหนักมากขนาดนี้เคยเห็นข่าวเมืองนอก แต่ไม่เคยเจอกับตัวเอง เพิ่งเจอครั้งแรก เข้าไปแล้วก็สงสาร สลดใจ” เขาอธิบายความรู้สึกจากเหตุการณ์อันน่าเศร้าสลดที่เพิ่งเกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม เขาพูดในฐานะผู้ที่ได้รับผิดชอบดูแลจัดการศพของผู้เสียชีวิตเขาให้คำมั่นว่า “ผมทำให้ดีที่สุด ชันสูตรทุกอย่างเด็กเป็นอะไรตรงไหนอย่างไร มาถึงโรงพยาบาลเราจะตกแต่งให้ดีที่สุด แต่เราจะตกแต่งไปให้เสร็จสภาพสวย ๆ ใส่โลงสวย ๆ”

วันที่ 7 ต.ค. ทีมกู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมอุดรธานีทำหน้าที่เป็นผู้นำร่างผู้วายชนม์ไปให้เจ้าหน้าที่ชันสูตรทั้งหมดที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานีในช่วงเช้าก่อนที่จะลำเลียงร่างผู้เสียชีวิตมายังวัด 3 แห่ง ประกอบด้วย วัดศรีอุทัย 10 ราย วัดศรีสำราญ 6 ราย และวัดราษฎร์สามัคคี 20 ราย

“เราได้ประสานกับหัวหน้าทาง อ. นากลาง กับญาติพี่น้อง(ผู้เสียชีวิต) ไม่ต้องเดินทางมาที่นี่ หน่วยกู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมฯ จะไปส่งถึงที่บ้านเขาเลย เราจะใส่โลงใหม่อาบน้ำแต่งตัวใส่เสื้อผ้าไปพร้อมกันอย่างนี้เลย ให้ญาติรอเอกสารไว้เลยจะได้ไม่ลำบากวุ่นวาย” ประจักษ์ เล่า

“เราจะส่งเขากลับไปให้ครอบครัวให้ดีที่สุด”, Napat Wesshasartar/BBC Thai

อีกฟากของความสูญเสีย

คมสันต์ นรบุตร เป็นอีกหนึ่งคนที่สูญเสีย เพราะอดีตภรรยาของเขา แต่งงานใหม่กับผู้ก่อเหตุ ที่ก่อนจบชีวิตตัวเอง ได้ฆ่าภรรยาและลูกชายวัย 3 ขวบที่คมสันต์มีกับภรรยา

“ผมอยู่ที่โรงงาน ตอนที่เพื่อนผมบอกไปไปดูข่าว ผมโทรหาอดีตภรรยาและลูก ว่าพวกเขาโอเคไหม แต่ไม่มีใครรับ” เขากล่าว “ลูกผมเป็นเด็กดี ชอบพูด ผมกำลังรอรับศพเขา จะได้เห็นหน้าเขาเป็นครั้งสุดท้าย”

เวลานี้ ทางการได้เคลื่อนศพผู้เสียชีวิต 20 ศพ มาที่วัดราษฎร์สามัคคี เพื่อให้ญาตินำหลักฐานมายืนยัน พร้อมเปิดโลงให้ดูศพ โดยมีเสียงแม่ที่กรีดร้องเสมือนขาดใจ ดังขึ้นอยู่เป็นระยะ จนเจ้าหน้าที่ต้องมาปฐมพยาบาล

สำหรับพิธีสวดพระอภิธรรมศพของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้ เบื้องต้น จะจัด 3 คืน ใน 3 วัด คือ วัดศรีอุทัย วัดราษฎร์สามัคคี และวัดเทพมงคลพิชัย

ส่วนร่างของผู้ก่อเหตุนั้น ผบ.ตร. ระบุว่า วัดทั้ง 3 ไม่อยากรับไว้ จึงต้องประสานให้มารดาผู้ก่อเหตุรับไปประกอบพิธีที่อื่น

…..

ข่าว บีบีซี ไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว