รัสเซีย ยูเครน : เบลารุสจะเข้าร่วมฝ่ายปูตินทำสงครามหรือไม่

Ministry of Defense of the Republic of Belarus

ผู้นำรัสเซียและเบลารุสประกาศก่อตั้งกองกำลังร่วม โดยที่ประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก ของเบลารุสได้กล่าวอ้างซ้ำ ๆ ว่ายูเครนกำลังเตรียมตัวโจมตีประเทศของเขา ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเป็นความพยายามอ้างความชอบธรรมในการเข้าร่วมในสงครามครั้งนี้โดยตรง

นี่ทำให้บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารและนักการเมืองในยูเครนและชาติพันธมิตรเกิดคำถามว่า มีความเป็นไปได้แค่ไหนที่กองทัพเบลารุสจะเข้ากับฝ่ายรัสเซียเพื่อทำสงครามครั้งนี้โดยตรง และมีความเป็นไปได้หรือไม่ที่รัสเซียเตรียมเปิดการโจมตีครั้งใหม่จากฝั่งเบลารุส หรือมีความพยายามครั้งใหม่ในการยึดกรุงเคียฟ

บีบีซีได้พูดคุยกับเหล่านักวิเคราะห์ด้านการเมืองและการทหารถึงความเป็นไปได้ที่อาจเกิดขึ้นในสงครามครั้งนี้

มีทหารรัสเซียในเบลารุสเท่าใด

ความเป็นไปได้เรื่องการโจมตีครั้งใหม่จากทางฝั่งเบลารุสคือประเด็นที่มีการพูดคุยกันตลอดช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา แต่กองทัพยูเครนรายงานว่า “ยังไม่มีความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนใด ๆ” ของสถานการณ์ในภูมิภาคต่าง ๆ ที่ติดกับชายแดนเบลารุส

อย่างไรก็ตาม ช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ รัสเซียได้ส่งกำลังพลเข้าไปในเบลารุสอีกครั้ง และสถานการณ์ก็เริ่มน่ากังวลมากขึ้นหลังจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ประกาศเรียกระดมกำลังพลเมื่อเดือน ก.ย. หน่วยงานข่าวกรองของยูเครนระบุว่า น่าจะมีการส่งทหารเกณฑ์ชุดใหม่ของรัสเซียไปประจำการในเบลารุสประมาณ 20,000 นาย

เมื่อ 10 ต.ค. ซึ่งยูเครนถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธครั้งใหญ่ โดยที่ขีปนาวุธบางส่วนถูกยิงจากฝั่งเบลารุสนั้น ประธานาธิบดี ลูกาเชนโก ได้ประกาศก่อตั้งกองกำลังร่วมกับรัสเซีย

A group of recently mobilised Russian soldiers

ที่มาของภาพ, Ministry of Defense of the Republic of Belarus

จนถึงบัดนี้มีทหารรัสเซียในเบลารุสราว 1,000 นาย อาทิ ผู้เชี่ยวชาญด้านการซ่อมบำรุงเครื่องบินโจมตี 6 ลำ, เจ้าหน้าที่ประจำสถานีเรดาร์ และเจ้าหน้าที่ควบคุมระบบขีปนาวุธเชิงยุทธวิธีอีสกันเดอร์ ( Iskander) รวมทั้งระบบต่อต้านอากาศยาน S-400

อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่าตัวเลขนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปแล้วหรือไม่ แม้ว่าหัวหน้าหน่วยงานความร่วมมือทางทหารของเบลารุสจะระบุว่า มีทหารรัสเซียอยู่ในประเทศตนจำนวน 9,000 นาย

หากภาพถ่ายที่เผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตเป็นจริง ก็น่าเชื่อได้ว่ารัสเซียกำลังส่งทหารเกณฑ์ชุดใหม่เข้าประจำการในเบลารุส

เมื่อ 17 ต.ค. ที่ผ่านมา เบลารุสประกาศว่ารัสเซียจะส่งรถถังราว 170 คัน ปืนและปืนครกที่มีขนาดลำกล้องเกิน 100 มิลลิเมตร จำนวน 100 กระบอก และยานรบ 200 คัน มาให้ใช้ในกองกำลังร่วมที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นใหม่

ยูเครนมีภัยคุกคามอย่างไร

Railway platform with military equipment

ที่มาของภาพ, Ministry of Defense of the Republic of Belarus

เมื่อสัปดาห์ก่อน อเล็กซานเดอร์ โควาเลนโก นักวิเคราะห์การทหารและการเมืองจากโครงการ Information Resistance ระบุว่า การจะคุกคามยูเครนด้วยการรุกรานเต็มรูปแบบนั้น รัสเซียจะต้องมีกองพันปฏิบัติการทางยุทธวิธี (battalion tactical group) ประจำการในเบลารุสไม่ต่ำกว่า 40 กองพัน

นี่หมายความว่าจะต้องมีทหาร 24,000-28,000 นาย ซึ่งเป็นจำนวนพอ ๆ กับที่เข้ารุกรานยูเครนจากฝั่งเบลารุส เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา

ดังนั้นหากขณะนี้มีทหารรัสเซียอยู่ในเบลารุสเพียง 9,000 นายตามที่เบลารุสกล่าวอ้าง ก็บ่งชี้ว่าจะมีกองพันปฏิบัติการทางยุทธวิธีอยู่ไม่เกิน 12 กองพัน อย่างไรก็ตาม นายโควาเลนโกระบุว่า ทหารเหล่านี้ไม่ใช่กองพันปฏิบัติการทางยุทธวิธี แต่เป็นเพียงกองพันทหารราบที่ไม่มียุทโธปกรณ์พิเศษในการสู้รบ

เขาชี้ว่า “นี่คือความพยายามสร้างความไขว้เขวมากกว่าเรื่องที่จะต้องตื่นตระหนกจริง” นายโควาเลนโก กล่าว

อย่างไรก็ตาม หากมีการระดมทหารรัสเซียเข้าไปประจำการในเบลารุสเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า ก็มีความเป็นไปได้สูงที่รัสเซียเตรียมเปิดฉากจู่โจมครั้งใหม่โดยเหล่าทหารเกณฑ์ที่ไม่เต็มใจรบและไม่ได้รับการฝึกฝนเพียงพอ

มีทหารพอสำหรับการรุกรานหรือไม่

อีวาน คิริเชฟสกี ผู้เชี่ยวชาญจากเว็บไซต์ Defence Express ของยูเครน บอกกับบีบีซีว่า ยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงเรื่องนี้ เขามองว่า ทางการรัสเซียจะสั่งให้มีการโจมตี เพื่อสกัดการรุกคืบของกองทัพยูเครน ก็ต่อเมื่อกองทัพรัสเซียในแนวรบอื่นอ่อนกำลังลงจนไม่สามารถต้านทานข้าศึกได้

A column of Russian troops near Bucha in February

ที่มาของภาพ, SATELLITE IMAGE 2022 MAXAR TECHNOLOGIES via EPA

อย่างไรก็ตาม นายคิริเชฟสกียังสงสัยว่ารัสเซียจะมีกำลังพลเพียงพอสำหรับเปิดฉากโจมตีจากทางภาคเหนือของยูเครนหรือไม่

เขายกตัวอย่าง กรณีที่รัสเซียพยายามตั้งกองกำลังรบที่ 3 ซึ่งจะต้องพร้อมปฏิบัติการสู้รบภายในกลางเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ทว่ากลับพร้อมรบจริงในเดือน ก.ย. และยังคงอยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์

“พวกเขายังไม่พร้อม ดังนั้นกองทัพยูเครนจึงจัดการพวกเขาได้ โดยเฉพาะในคาร์คิฟ” นายคิริเชฟสกี กล่าว

ยูเครนพร้อมรับการโจมตีจากทางเหนือหรือไม่

Russian tank

ที่มาของภาพ, МО России

พลโท เซอร์เก นาเอฟ แห่งกองทัพยูเครน อธิบายว่า รัสเซียประสบความสำเร็จในการบุกโจมตีทางภาคเหนือของยูเครนในช่วงต้นสงคราม ที่เป็นเช่นนี้เพราะขณะนั้นกองทัพยูเครนยุ่งอยู่กับความขัดแย้งในภูมิภาคดอนบาส และในยามที่ประเทศอยู่ในความสงบสุข หน่วยทหารทางพรมแดนติดกับเบลารุส ก็ไม่ได้วางกำลังพลไว้เพียงพอสำหรับรับมือการโจมตีอย่างเต็มรูปแบบ

นอกจากนี้ ในช่วง 2 วันก่อนสงครามปะทุขึ้น รัฐมนตรีกลาโหมของเบลารุสได้ให้คำมั่นของ “ชายชาติทหาร” ต่อรัฐมนตรีกลาโหมของยูเครนว่าจะไม่มีการโจมตีจากทางเบลารุส ทว่าในความเป็นจริงกลับไม่เป็นไปเช่นนั้น

อย่างไรก็ตาม พลโท นาเอฟ ระบุว่า ขณะนี้ยูเครนเตรียมพร้อมรับมือการโจมตีครั้งใหม่จากทางเบลารุส โดยจะมีการเสริมกำลังทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์อย่างเหมาะสม

ขณะที่ทางการของภูมิภาคต่าง ๆ บริเวณชายแดนเบลารุสก็ได้หารือถึงการเตรียมความพร้อมในการสู้รบที่จะเกิดขึ้นด้วย

Swamps and forest

ที่มาของภาพ, Getty Images

นายวิทาลี โควัล ผู้นำหน่วยงานด้านทหารและพลเรือนในภูมิภาครีฟเน ของยูเครน ซึ่งมีพรมแดนติดเบลารุสระยะทาง 218 กม. ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีว่า ได้เริ่มเสริมการป้องกันทางชายแดนมาตั้งแต่ 7 เดือนที่แล้ว

นายโควัล บอกว่า การรุกรานจากทางภาคเหนือไม่ใช่เรื่องง่าย

“ดินแดนของเราราว 40% ปกคลุมไปด้วยป่า เป็นผืนป่าและหนองน้ำที่ยากจะผ่านเข้ามาได้บริเวณพื้นที่ตอนเหนือติดพรมแดนเบลารุส นอกจากนี้ยังมีแม่น้ำอีก 170 สาย นี่คือปราการทางธรรมชาติที่เป็นอุปสรรคต่อยุทโธปกรณ์ของศัตรู ส่วนสะพานข้ามแม่น้ำต่าง ๆ ก็สามารถปิดกั้นได้หลายทาง ซึ่งจะช่วยสกัดกั้นการเคลื่อนไหวของข้าศึกได้” เขาอธิบาย

คนเบลารุสจะร่วมทำสงครามนี้กับรัสเซียหรือไม่

ข้อมูลในช่วงปลายปีที่แล้วระบุว่า เบลารุสมีทหารในกองทัพราว 17,000 นาย ส่วนใหญ่เป็นทหารเกณฑ์

นายคิริเชฟสกี ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารจากเว็บไซต์ Defence Express ระบุว่า กองทัพเบลารุสมีทั้งยานหุ้มเกราะและอากาศยาน ซึ่งสามารถสร้างความเสียหายในการโจมตีได้

อย่างไรก็ตาม เขาชี้ว่าทหารเหล่านี้ไม่มีประสบการณ์การสู้รบ

Belarusian paratroopers

ที่มาของภาพ, Ministry of Defence of the Republic of Belarus

แม้ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เบลารุส และตัวประธานาธิบดี ลูกาเชนโก เองจะกล่าวซ้ำหลายครั้งว่าจะไม่โจมตียูเครน แต่ก็ไม่อาจจะแน่ใจได้เลย

เมื่อไม่กี่วันก่อน หนังสือพิมพ์ Nasha Niva ของฝ่ายค้านในเบลารุส ได้พาดหัวข่าวว่า “มีการตัดสินใจระดมกำลังพลเบลารุสแล้ว”

ผู้สื่อข่าวเจ้าของบทความอ้างอิงข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า นายลูกาเชนโก ได้ตัดสินใจที่จะระดมกำลังพลอย่างลับ ๆ เพื่อเสริมทัพรัสเซีย ซึ่งทำให้แนวโน้มที่จะเกิดการสู้รบบริเวณพรมแดนเบลารุส-ยูเครน เพิ่มสูงขึ้น

คณะเสนาธิการทหารยูเครนได้ยืนยันข้อมูลดังกล่าว เมื่อ 18 ต.ค. โดยระบุว่า กองทัพเบลารุสกำลังฝึกฝนการใช้ระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน และรถถัง

รัฐบาลเบลารุสไม่ได้ประกาศเรื่องการระดมกำลังพลอย่างเป็นทางการ ขณะที่นายลูกาเชนโกได้ปฏิเสธเรื่องนี้

Tank on a military range against the background of an explosion

ที่มาของภาพ, Getty Images

โอเลกซี อาเรสโตวิช ที่ปรึกษาหัวหน้าสำนักงานประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี กล่าวว่า แม้เบลารุสจะระดมกำลังพลอย่างลับ ๆ จริง แต่ทหารเป้าหมายส่วนใหญ่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการก่อสร้าง

เขาอธิบายว่า “ภารกิจหลักของฝ่ายเบลารุสไม่ใช่การสู้รบกับพวกเรา แต่เป็นการก่อสร้างที่พักสำหรับกองทัพรัสเซีย”

นายอาเรสโตวิช เชื่อว่า แม้จะมีโอกาสที่กองทัพเบลารุสจะเข้าร่วมการสู้รบโดยตรงอยู่บ้าง แต่ก็น้อยมาก

บรรดาผู้สังเกตการณ์ด้านการทหารชี้ว่า ข้อบ่งชี้หนึ่งที่แสดงว่ากองทัพเบลารุสไม่เต็มใจเข้าร่วมทำสงครามโดยตรง คือการส่งออกอาวุธและเครื่องกระสุนต่าง ๆ ของตนให้กองทัพรัสเซีย

นายอาเรสโตวิชมองว่า การกระทำเช่นนี้คือการที่ประธานาธิบดีลูกาเชนโกพยายามหาทางไม่เข้าไปเกี่ยวข้องโดยตรงในการสู้รบกับยูเครน

Rocket launch

ที่มาของภาพ, Ministry of defence of the Republic of Belarus

กลุ่มนักวิเคราะห์จากช่อง Belarusian Hajun ทางแอปพลิเคชันเทเลแกรม ก็คิดเช่นนั้น โดยชี้ว่า เบลารุสอาจจำกัดการเข้าร่วมสงครามครั้งนี้เฉพาะแค่การช่วยเตรียมความพร้อมให้กองทัพรัสเซียเปิดการโจมตียูเครนจากฝั่งเบลารุส โดยจัดหาอาวุธ และอนุญาตให้ทหารเกณฑ์รัสเซียเข้าไปฝึกในค่ายของเบลารุส เพื่อไม่ต้องให้ทหารของตนเข้าร่วมในสงครามครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้ที่คิดว่ากองทัพเบลารุสจะเข้าร่วมในสงครามครั้งนี้ไม่ช้าก็เร็ว

ทารัส ชมุต จาก Come Back Alive องค์กรระดมทุนช่วยเหลือกองทัพยูเครน เชื่อว่าข่าวที่กองทัพเบลารุสได้รับระบบขีปนาวุธเชิงยุทธวิธีอีสกันเดอร์ และระบบต่อต้านอากาศยาน S-400 นั้นแสดงให้เห็นว่า เบลารุสจะเข้าร่วมสงครามครั้งนี้อย่างแน่นอน

แล้วคนเบลารุสคิดอย่างไรกับเรื่องนี้

ชาวเบลารุสที่ไม่ประสงค์เปิดเผยนามคนหนึ่งซึ่งมีญาติอยู่ในกองทัพให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวบีบีซีแผนกภาษายูเครนว่า “สาธารณรัฐเบลารุสไม่ต้องการสู้รบ และจะไม่ทำเช่นนั้น”

…..

ข่าว บีบีซี ไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว