เกาหลีเหนือ: ทำไมคิม จอง-อึน ถึงทำให้ความตึงเครียดเพิ่มมากขึ้น

  • โดยจีน แม็กเคนซี
  • ผู้สื่อข่าวบีบีซีประจำโซล
Kim Jong-un

ที่มาของภาพ, Pool

วงจรของความตึงเครียดที่เกิดในเกาหลีเหนือดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นและก็จบลง แต่สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีในขณะนี้ ถือว่าผันผวนมากที่สุดในรอบห้าปีและดูเหมือนว่าสถานการณ์กำลังเลวร้ายลงเรื่อย ๆ

ช่วงเดือนที่ผ่านมา เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธพาดผ่านญี่ปุ่น ทำให้ประชาชนต้องหนีออกจากที่พำนักเพื่อลี้ภัย ถือเป็นการกระทำที่มุ่งร้ายและยั่วยุชัดเจน นอกจากนี้ เกาหลีเหนือยังได้ยิงทดสอบขีปนาวุธต่อเนื่องอีกหลายลูก ส่งเครื่องบินรบเข้าใกล้เกาหลีใต้ และยิงกระสุนปืนใหญ่หลายร้อยนัดลงทะเล ซึ่งตกลงในพื้นที่กันชนทางทหาร ที่สร้างขึ้นโดยเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ในปี 2018 เพื่อรักษาสันติภาพอันแสนเปราะบาง ดังนั้น โดยหลักการแล้วทั้งสองประเทศยังอยู่ในภาวะสงคราม

เมื่อวันจันทร์ (24 ต.ค.) เรือสินค้าของเกาหลีเหนือได้ข้ามพรมแดนทางทะเลของสองเกาหลี ทำให้ทั้งสองฝ่ายต่างยิงกระสุนเพื่อเตือน เกาหลีใต้กล่าวว่าการบุกรุกครั้งนั้นเป็สิ่งที่เกาหลีเหนือตั้งใจ

คิม จอง-อึนกำลังทำอะไรอยู่

มีเหตุผลสามประการที่เกาหลีเหนือจะยิงขีปนาวุธ นั่นคือ หนึ่ง เพื่อทดสอบและปรับปรุงเทคโนโลยีอาวุธของตน สอง เพื่อส่งข้อความทางการเมืองไปทั่วโลก (โดยหลักคือสหรัฐฯ) และสาม เพื่อสร้างความประทับใจให้ประชากรเกาหลีเหนือและสนับสนุนความจงรักภักดีต่อระบอบการปกครอง

Advertisment

อาจเป็นเรื่องยากที่จะถอดรหัสว่าการกระทำต่าง ๆ ของเปียงยางนั้นมีเป้าหมายอะไรกันแน่ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในคราวนี้ นายคิมแสดงความประสงค์ที่ชัดเจน

Kim at a recent launch

Advertisment

ที่มาของภาพ, KCNA

สื่อของรัฐบาลเกาหลีเหนือรายงานหลายครั้งว่า การยิงขีปนาวุธและการซ้อมรบระลอกครั้งล่าสุดเป็นการตอบโต้การซ้อมรบใหญ่ระหว่างสหรัฐฯ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น เกาหลีเหนือตำหนิศัตรูที่เพิ่มความตึงเครียด และการปล่อยขีปนาวุธเหล่านี้ ถือเป็นคำเตือนที่ชัดเจนว่าพวกเขาควรหยุด

สหรัฐฯ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น จัดซ้อมรบขนาดใหญ่ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ที่มีทั้งแบบแยกกันและร่วมกัน เพื่อแสดงความพร้อมรับมือการโจมตีด้วยนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า การกระทำของมหาอำนาจเหล่านี้ ยิ่งสร้างความโกรธเคืองให้คิม จอง-อึน ที่มองว่าการซ้อมรบลักษณะนี้ เป็นการซ้อมรบเพื่อเตรียมรุกรานเกาหลีเหนือ และเหตุผลที่เกาหลีเหนือต้องพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ก็เพื่อป้องกันการรุกรานนั่นเอง

อีกเหตุผลที่ยังไม่ชัดเจนนัก ถึงการเพิ่มความตึงเครียดในครั้งนี้ของผู้นำเกาหลีเหนือ คือ บางคนเชื่อว่าเขาอาจกำลังเตรียมความพร้อมสำหรับการทดสอบที่ทวีความยั่วยุมากขึ้น อาทิ การทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ครั้งแรกในรอบ 5 ปี หรือการบุกโจมตีเกาหลีใต้ในขนาดย่อม

ปีที่แล้ว คิม จอง-อึน ได้ประกาศแผนยุทธศาสตร์ 5 ปีต่อจากนี้ ลงรายละเอียดเกี่ยวกับอาวุธใหม่ทั้งหมดที่เขาวางแผนจะพัฒนา รวมถึงระเบิดนิวเคลียร์ในสนามรบที่มีขนาดเล็กลง จากนั้นเขาก็สัญญาว่าจะเดินหน้าโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของประเทศด้วย “ความเร็วสูงสุด” และการทดสอบล่าสุดเป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่าเขากำลังดำเนินการตามสิ่งที่ต้องการทำ

แม้ว่าสิ่งที่คิม จอง-อึน ทำอยู่จะมีความคืบหน้า แต่นายคิมต้องการให้โลกหันมาให้ความสนใจ ด้วยความหวังว่า สักวันหนึ่งจะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรรุนแรงที่เกาหลีเหนือกำลังเผชิญอยู่ได้ เพราะนับแต่เกาหลีเหนือพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ไม่มีการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรใด ๆ เลย กระทบหนักต่อเศรษฐกิจของประเทศ

การเจรจาที่มุ่งเป้าไปที่การลดการคว่ำบาตรนั้นหยุดชะงักไปนานแล้ว ประเด็นเรื่องเกาหลีเหนือกำลังหลุดออกจากวาระระดับโลก เพราะโลกวิตกถึงสงครามในยูเครนมากกว่า รวมถึงประเทศจีนที่ทรงอิทธิพลมากขึ้นและมีความเป็นเผด็จการมากขึ้น ส่วนประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ นั้น ชัดเจนว่า การคว่ำบาตรเกาหลีเหนือจะผ่อนคลายได้ก็ต่อเมื่อตกลงที่จะปลดอาวุธนิวเคลียร์ทั้งหมด

A North Korean man watches a state report on its latest missile tests

ที่มาของภาพ, Getty Images

ระหว่างนี้ สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ เห็นพ้องที่จะเสริมความแข็งแกร่งในการป้องกันคาบสมุทรโดยจัดให้มีการซ้อมรบทางทหารที่เกาหลีเหนือเกลียดชังอย่างมาก และตอบโต้การยั่วยุด้วยกำลังทางทหาร ยกตัวอย่าง ภายหลังเกาหลีเหนือปล่อยขีปนาวุธและซ้อมรบครั้งล่าสุด เกาหลีใต้ก็ได้ส่งเครื่องบินรบและยิงปืนใหญ่ของตัวเองเช่นกัน

ดังนั้น ถ้านายคิมต้องการให้สหรัฐฯ เจรจาข้อตกลงที่เป็นประโยชน์ต่อเขา เขาต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าประเทศของเขาอันตรายเพียงใด โดยเมื่อเดือนที่แล้ว เขาประกาศว่าเกาหลีเหนือเป็นรัฐที่มีอาวุธนิวเคลียร์แล้ว

คิม จอง-แด อดีตที่ปรึกษากระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้กล่าวว่า “เราควรกังวลว่าจะแสดงออกถึงความแน่วแน่เพียงใด” เขาชี้ให้เห็นว่าในอดีต เกาหลีเหนือรอจนกว่ากองกำลังสหรัฐฯ จะเสร็จสิ้นการฝึกทหารก่อนที่จะตอบโต้ แต่คราวนี้พวกเขายิงปืนใหญ่ลงทะเลในขณะที่การฝึกซ้อมกำลังดำเนินอยู่

“เราไม่เคยเห็นความกล้าและความก้าวร้าวนี้มาก่อน มันแตกต่างจากที่เคยเป็นมา ตอนนี้เกาหลีเหนือทำตัวเหมือนรัฐนิวเคลียร์” เขากล่าว

รัฐบาลสหรัฐฯ และเกาหลีใต้เชื่อว่าการเตรียมการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งที่ 7 ของเกาหลีเหนือใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว และเกาหลีเหนือกำลังรอโอกาสสุกงอมทางการเมืองที่จะดำเนินการ

นี่ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่น่าสนใจ ในขณะที่การประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีนสิ้นสุดลงและการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ ใกล้เข้ามา

ขณะเดียวกัน เกาหลีใต้กำลังอยู่ท่ามกลางการฝึกซ้อมทางทหารอีกรอบ โดยสหรัฐฯ มีกำหนดจะเข้าร่วมด้วย สิ่งเหล่านี้อาจเป็นบริบท ที่ทำให้คิม จอง-อึน มีข้ออ้างที่เขารอคอยได้เป็นอย่างดี

…….

ข่าว BBCไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว