อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาอีกครั้งในการเลือกตั้งปี 2024 ภายหลังผลการเลือกตั้งกลางเทอมของพรรครีพับลิกันที่ไม่น่าพึงพอใจนัก
“การกลับมาของอเมริกาได้เริ่มขึ้นแล้ว” อดีตประธานาธิบดีวัย 76 ปี ประกาศต่อผู้สนับสนุนหลายร้อยคนที่มารวมตัวกันที่รีสอร์ท มาร์-อะ-ลาโก ของทรัมป์ ในรัฐฟลอริดา
- ฟินแลนด์ระงับการให้วีซ่าแรงงานเก็บผลไม้ป่าทุกคนจากไทย
- เหล้าเบียร์ 5 แสนล้านสะเทือน สิงห์-ช้างอ่วม กฎหมายใหม่ห้ามโฆษณา
- แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท จุลพันธ์ แจ้งคืบหน้า รอประชุมอีก 2 นัด
“เพื่อทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่และเกรียงไกรอีกครั้ง คืนนี้ ผมขอประกาศการลงสมัครชิงประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา” เขากล่าว หลังลงนามในเอกสารเช้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นครั้งที่ 3 หลังการชิงชัยในตำแหน่งนี้เป็นครั้งที่ 2 เมื่อปี 2020 แต่ต้องปราชัยให้กับโจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน จากพรรคเดโมแครต
การประกาศตัวลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ที่ถือว่าเร็วกว่าปกติของทรัมป์ ถูกมองว่า เป็นกลยุทธ์เพื่อชิงตัดหน้านักการเมืองรีพับลิกันคนอื่น ๆ ที่ต้องการเป็นผู้แทนพรรครีพับลิกันลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2024 รวมถึงยังเป็นชั้นเชิงเพื่อหวังเลี่ยงข้อหาทางอาญาที่อาจเกิดขึ้นต่อตัวทรัมป์เองด้วย
การปราศรัยประกาศลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์ มีความยาวกว่า 1 ชั่วโมง โดยเขาเน้นไปที่ผลงานในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 45 รวมถึงวิพากษ์วิจารณ์ โจ ไบเดน ในหลายประเด็น
“ผมจะทำให้มั่นใจว่า โจ ไบเดน จะไม่ได้ไปต่ออีก 4 ปี” ทรัมป์ ปฏิญาณ ขณะที่ ไบเดน ตอบโต้คำกล่าวของทรัมป์ด้วยการทวิตสั้น ๆ ว่า “โดนัลด์ ทรัมป์ ทำอเมริกาผิดหวัง”
ไบเดน ถูก อดีต ปธน. วิจารณ์อะไรบ้าง
ทรัมป์ วิจารณ์การบริหารงานของไบเดน ทั้งเรื่องปัญหาเงินเฟ้อที่พุ่งสูง อาชญากรรมที่เพิ่มขึ้น ปัญหาการอพยพเข้าเมือง พร้อมเสียดสีไบเดนถึงนโยบายกู้วิกฤตสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง ขณะเดียวกัน ทรัมป์ก็ชมตัวเองว่า เป็นผู้โค่นล้มกลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลาม ควบคุมสถานการณ์กับเกาหลีเหนือ และสร้างกำแพงกั้นพรมแดนติดกับเม็กซิโก
“ภายใต้การนำของเรา เราเป็นชาติที่ยิ่งใหญ่และเกรียงไกร แต่ตอนนี้ ประเทศชาติกำลังตกต่ำ” ทรัมป์ กล่าว “นี่จึงไม่ใช่การรณรงค์หาเสียง แต่เป็นภารกิจเพื่อกอบกู้ประเทศ”
“แค่เพียงสองปี รัฐบาลไบเดนทำลายเศรษฐกิจสหรัฐฯ… ถ้าเราคว้าชัยชนะ เราจะสร้างเศรษฐกิจอันยิ่งใหญ่คืนกลับมา”
“ถนนที่ชุ่มเลือดในมหานครหลายแห่งของเรา กลายเป็นแหล่งรวมแห่งอาชญากรรมรุนแรง” โดยทรัมป์ให้คำมั่น “จะฟื้นฟู และปกป้องพรมแดนอเมริกา”
ทรัมป์ประกาศตัวในวันที่เสียเปรียบ
สำนักข่าวเอเอฟพี วิเคราะห์ว่า การประกาศลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์ในครั้งนี้ เขาเสียเปรียบในหลายข้อ ไม่ว่าจะข้อกล่าวหายุยงปลุกปั่นเหตุบุกอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2021
ไม่เพียงเท่านั้น ทรัมป์ยังเผชิญข้อกล่าวหาอื่น ๆ ที่อาจทำให้เขาขาดคุณสมบัติสมัครลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ไม่ว่าจะเป็นการฉ้อโกงทางธุรกิจ ความพยายามคว่ำผลคะแนนเลือกตั้งปี 2020 และเอกสารลับที่เขาซุกซ่อนไว้ในรีสอร์ท มาร์-อะ-ลาโก
ในขณะเดียวกัน ผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกัน หันไปกล่าวโทษผู้สมัครสมาชิกรัฐสภาที่ทรัมป์เป็นคนสนับสนุน ต่อผลการเลือกตั้งกลางเทอมที่ไม่น่าพึงพอใจนัก
ขณะที่มีหลายคนตั้งคำถามว่า แนวทางทางการเมืองของทรัมป์ และข้อกล่าวหาทางกฎหมายมากมาย เป็นคนที่เหมาะสมจะเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของพรรคในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
ทรัมป์เองยังถูกสังคมออนไลน์หลัก ๆ อย่าง เฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ แบนบัญชี ซึ่งถือเป็นข้อเสียเปรียบสำคัญด้านการรณรงค์หาเสียง เพราะเครื่องมือเหล่านี้ เป็นปัจจัยทำให้เขาชนะการเลือกตั้งเมื่อปี 2016
ส่วนตัวเก็งผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้แทนพรรคฯ คนต่อไปที่กำลังเป็นที่จับตา คือ นายรอน เดอซานติส ที่ชนะการเลือกตั้งกลางเทอม และได้เป็นผู้ว่าการรัฐฟลอริดาต่ออีกสมัย
นักการเมืองรีพับลิกันคนอื่น ที่สื่อเก็งว่าอาจลงชิงตำแหน่งผู้แทน คือ อดีตรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ในสมัยของทรัมป์, วุฒิสมาชิกรัฐเทกซัส เทด ครูซ, ผู้ว่าการรัฐเวอร์จิเนีย เกลนน์ ยังคิน, อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ ไมค์ ปอมเปโอ และ อดีตผู้ว่าการรัฐเซาท์แคโรไลนา นิกกิ เฮลีย์
ขณะที่ โจ ไบเดน ระบุเมื่อไม่นานมานี้ว่า เขาตั้งใจจะลงสมัครชิงตำแหน่งสมัยที่ 2 แต่จะตัดสินใจอย่างเป็นทางการในต้นปีหน้า
ส่วนทรัมป์นั้น หากเขากลับมาเป็นประธานาธิบดีได้ในการเลือกตั้งปี 2024 จะถือเป็นประธานาธิบดีอเมริกันคนแรกที่ดำรงตำแหน่งสมัยที่ 2 แบบไม่ต่อเนื่องจากสมัยแรก โดยคนแรกที่ทำได้ คือ โกรเวอร์ คลีฟแลนด์ ที่ชนะการเลือกตั้งในปี 1884 ก่อนพ่ายแพ้ในปี 1888 แล้วชนะการเลือกตั้งกลับมาเป็นประธานาธิบดีในปี 1892
…..
ข่าว บีบีซี ไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว