สี จิ้นผิง : ชาวจีนลุกฮือประท้วงนโยบายโควิดเป็นศูนย์ ความท้าทายใหญ่ที่สั่นคลอนอำนาจพรรคคอมมิวนิสต์

  • สตีเฟน แมคโดเนลล์
  • ผู้สื่อข่าวบีบีซีประจำประเทศจีน
Police officers confront a man amid crowded scenes at a road junction in Shanghai

ที่มาของภาพ, Getty Images

การแสดงท่าทีต่อต้านไม่ใช่เรื่องผิดปกติในจีน

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ชาวจีนออกมาประท้วงเพื่อแสดงความไม่พอใจในเรื่องต่าง ๆ อยู่เนือง ๆ ตั้งแต่ปัญหามลพิษไปจนถึงการยึดที่ดินอย่างผิดกฎหมาย หรือการที่ตำรวจปฏิบัติต่อประชาชนอย่างไม่เป็นธรรม

แต่การประท้วงที่กำลังลุกลามขยายวงในหลายพื้นที่ของจีนนั้นมีความแตกต่างออกไป

การประท้วงในขณะนี้เกิดจากความคับข้องและเหนื่อยหน่ายใจที่ชาวจีนจำนวนมากรู้สึกตรงกัน หลายคนเก็บความอัดอั้นตันใจนี้ไม่ไหวอีกต่อไป และนำไปสู่การประท้วงเป็นวงกว้างต่อมาตรการควบคุมโควิดอย่างเข้มงวดของทางการ

ความไม่พอใจของประชาชนที่มีต่อนโยบายโควิดเป็นศูนย์ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้สะท้อนออกมาในรูปของการทำลายแนวกั้นที่ถูกออกแบบมาเพื่อเว้นระยะห่างทางสังคม ตลอดจนการลุกฮือขึ้นประท้วงตามมหาวิทยาลัยและหลายเมืองใหญ่ทั่วประเทศ อาทิ กรุงปักกิ่ง และนครหนานจิง

Protest in Beijing against Covid restrictions triggered by a fire in Urumqi that killed 10 people, China - 27 Nov 2022

ที่มาของภาพ, EPA

ขณะเดียวกันก็เป็นเรื่องยากจะอธิบายว่ามันน่าตกใจเพียงใดที่ได้ยินกลุ่มผู้ประท้วงในนครเซี่ยงไฮ้ร้องตะโกนขับไล่ให้ประธานาธิบดีสีก้าวลงจากตำแหน่ง

ในจีนถือเป็นเรื่องอันตรายมากในการวิพากษ์วิจารณ์เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์อย่างโจ่งแจ้ง และทำให้ผู้วิจารณ์เสี่ยงติดคุก

แต่ในการประท้วงที่นครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งประชาชนหลายพันคนลุกฮือขึ้นแสดงความไม่พอใจรัฐบาล หลังเกิดเพลิงไหม้ที่อะพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งที่เมืองอุรุมชี ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 คน เนื่องจากคนที่อาศัยอยู่บริเวณที่เกิดเพลิงไหม้ส่วนใหญ่ถูกห้ามไม่ให้ออกจากบ้านตามมาตรการควบคุมโควิด

ผู้ประท้วงคนหนึ่งร้องตะโกนว่า : “สี จิ้นผิง”

ผู้ประท้วงอีกหลายร้อยคนตอบกลับว่า : “ออกไป”

จากนั้นพวกเขาก็ร้องตะโกนซ้ำ ๆ ว่า : “สี จิ้นผิงออกไป” และ “พรรคคอมมิวนิสต์ออกไป”

ผู้ประท้วงคนหนึ่งในนครเซี่ยงไฮ้ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีว่า เขารู้สึก “ตกใจและตื่นเต้นนิดหน่อย” ที่ได้เห็นผู้คนมากมายออกมาประท้วงตามท้องถนน พร้อมระบุว่านี่ถือเป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นการประท้วงใหญ่ขนาดนี้ในจีน

เขาอธิบายว่า มาตรการล็อกดาวน์ทำให้เขารู้สึก “เศร้า โกรธ และสิ้นหวัง” มันทำให้เขาไม่สามารถไปดูแลแม่ที่กำลังรักษาตัวจากโรคมะเร็งได้

ส่วนผู้ประท้วงหญิงคนหนึ่งเล่าให้บีบีซีฟังว่า กลุ่มผู้ประท้วงถามเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาควบคุมความสงบว่ารู้สึกอย่างไรต่อมาตรการควบคุมโควิดที่เข้มงวด ซึ่งตำรวจตอบว่า “รู้สึกแบบเดียวกับพวกคุณ” แต่ตอนนี้พวกเขากำลังสวมเครื่องแบบและต้องปฏิบัติตามหน้าที่

Wearing fluorescent jackets and face masks, a row of police officers stand watch behind a cordon

ที่มาของภาพ, Getty Images

สำหรับองค์กรการเมืองที่ไม่มีเป้าหมายอะไรสำคัญเท่ากับการอยู่ในอำนาจต่อไปนั้น ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นความท้าทายใหญ่หลวงที่สั่นคลอนอำนาจของพวกเขา

รัฐบาลจีนเองดูเหมือนจะประเมินกระแสความไม่พอใจของประชาชนต่อนโยบายโควิดเป็นศูนย์ต่ำเกินไป ซึ่งนโยบายนี้เป็นสิ่งที่นายสีเพิ่งประกาศจะยึดถือต่อไปโดยไม่มีการผ่อนปรนใด ๆ ในการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนเมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา

ขณะเดียวกันก็ดูเหมือนไม่ใช่เรื่องง่ายที่พรรคคอมมิวนิสต์จะหลุดพ้นจากปัญหาที่ตนเองสร้างขึ้น

เป็นเวลา 3 ปีมาแล้วที่จีนเตรียมเปิดประเทศจากมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด แต่แทนที่จะสร้างหน่วยดูแลผู้ป่วยอาการวิกฤต หรือไอซียูเพิ่ม และเน้นการให้วัคซีนต้านโควิดแก่ประชาชน แต่จีนกลับทุ่มเททรัพยากรมหาศาลไปกับการตรวจคัดกรองโรคเป็นวงกว้าง การสั่งล็อกดาวน์ และการทำศูนย์กักโรค เพื่อทำสงครามกับเชื้อไวรัสที่ไม่มีวันจะหมดสิ้นไป

…..

ข่าว บีบีซี ไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว