กษัตริย์ชาร์ลส์ที่สาม ทรงเสนอแบ่งกำไรจากการลงทุนธุรกิจโรงไฟฟ้าของราชวงศ์ ให้ประชาชน

 

Getty Images

Getty Images

สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงเสนอให้ลดการถวาย “เงินปีส่วนพระมหากษัตริย์” ที่ถวายแก่ราชวงศ์ เพื่อนำไปใช้เพื่อประโยชน์ของประชาชน เนื่องจากผลการดำเนินการของโครงการกังหันลมผลิตไฟฟ้านอกชายฝั่ง 6 แห่ง ที่ลงทุนโดยสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์  (Crown Estate) มีกำไรเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด

สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงเสนอให้นำเงินรายได้จากกำไรที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งจากโครงการกังหันลมผลิตไฟฟ้าปีละ 1 พันล้านปอนด์ต่อปี ไปใช้เพื่อประโยชน์ของประชาชน แทนการนำเงินเข้าสู่พระคลังของราชวงศ์

ปกติแล้ว รัฐบาลสหราชอาณาจักร จะถวายเงินปีส่วนพระมหากษัตริย์ (Sovereign Grant) เป็นเงินรายได้แก่ราชวงศ์ปีละครั้งเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในราชวงศ์ โดยจะถวายในสัดส่วน 25% ของผลกำไรที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์หาได้แต่ละปี

นั่นหมายความว่า จะมีการแบ่งส่วนจากผลกำไรที่เพิ่มขึ้นจากการการลงทุนโดยราชวงศ์ มอบให้กับกระทรวงการคลังของสหราชอาณาจักร เพื่อนำไปใช้จ่ายสำหรับสาธารณะ

Advertisment

สาระสำคัญของในการพระราชทานพรแก่ประชาชนเนื่องในวันคริสต์มาสที่ผ่านมาของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ตรัสถึงแรงกดดันเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิต และทรงดูเหมือนว่า พระองค์พยายามกระทำบางอย่างเพื่อหลีกเลี่ยงการทำให้จำนวนเงินรายปีที่รัฐบาลถวายเพิ่มขึ้น

สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ (Crown Estate) เป็นหน่วยธุรกิจหากำไรที่ดำเนินการโดยอิสระ กำไรจากการดำเนินงานจะเป็นเกณฑ์กำหนดจำนวนเงินปีที่รัฐบาลต้องถวายแก่ราชวงศ์ในแต่ละปี ซึ่งปีที่ผ่านมา  เงินปีส่วนพระมหากษัตริย์อยู่ที่ 86.3 ล้านปอนด์

Advertisment

ผลกำไรที่เพิ่มขึ้นนี้ เกิดจากการเซ็นสัญญาการลงทุนเกี่ยวกับโรงไฟฟ้าฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่ง 6 แห่ง จากเอกชนที่ต้องการเข้ามาพัฒนาพื้นที่นอกชายฝั่งของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ซึ่งจะทำให้มีกำไรปีละ 1 พันล้านปอนด์ต่อปี ไปอย่างน้อย 3 ปี

อย่างไรก็ตาม หากกำไรจากการลงทุนของสถาบันกษัตริย์เพิ่มขึ้น นั่นหมายถึงเงินปีที่รัฐบาลต้องถวายนั้นจะเพิ่มขึ้นด้วย จึงอาจกลายเป็นประเด็นที่ถูกวิจารณ์จากสาธารณะเกี่ยวกับการใช้งบประมาณของราชวงศ์

พระราชวังบักกิงแฮม ระบุว่า จากข่าวดีของธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากกังหันลมนอกชายฝั่ง สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงมีพระราชประสงค์ให้ลดส่วนแบ่งกำไรที่จะจัดส่งเข้าคลังของราชวงศ์

ปัจจุบัน เงินปีส่วนพระมหากษัตริย์ ที่รัฐบาลถวายเป็นเงินรายได้แก่ราชวงศ์ มีสัดส่วนคิดเป็น 25% ของกำไรที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์หาได้แต่ละปี ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 15% เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการซ่อมแซมปรับปรุงพระราชวังบักกิงแฮม

แต่เดิม เงินปีส่วนพระมหากษัตริย์ เป็นค่าใช้จ่ายที่สมาชิกราชวงศ์ใช้สำหรับประกอบพระราชกรณียกิจ เช่น ค่าเดินทาง ค่าบำรุงรักษาพระราชวัง

สำหรับพระราชประสงค์ของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงการคลังของสหราชอาณาจักร คาดว่าจะมีผลในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

ด้านเซอร์ ไมเคิล สตีเวนส์ ผู้ดูแลพระคลังข้างที่ ได้เขียนจดหมายถึงนายกรัฐมนตรีอังกฤษและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อเสนอ “การปรับลดที่เหมาะสม”

ธุรกิจโรงไฟฟ้าฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่งของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์แห่งใหม่ จำนวน 3 แห่ง อยู่ที่บริเวณนอกชายฝั่งนอร์ธ เวลส์, คัมเบรีย และแลงคาเชียร์ อีก 3 แห่งอยู่ที่นอกชายฝั่งทะเลตอนเหนือในยอร์กเชียร์ และลินคอล์นเชอร์ โรงไฟฟ้าฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่งทั้งหมด มีเป้าหมายเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าให้กับครัวเรือน 7 ล้านครัวเรือน

เดิมโรงไฟฟ้าฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่งของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์มีอยู่ 36 แห่ง นอกชายฝั่งอังกฤษ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ

แดน แลบแบ็ด ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ กล่าวชื่นชมถึงคุณประโยชน์ของโครงการโรงไฟฟ้ากังหันลมรุ่นถัดไป

“นี่เป็นตัวอย่างของคุณประโยชน์ระยะยาวที่บริษัทผลิตไฟฟ้าจากพลังลมระดับโลกของเราทำให้กับประเทศชาติ พลังงานที่ผลิตได้ในประเทศ สร้างตำแหน่งงาน การลงทุนให้กับชุมชน และรายได้สำหรับผู้เสียภาศี นอกจากนี้ยังได้พลังงานสะอาดสำหรับสิ่งแวดล้อมด้วยวิธีการที่พอเหมาะและยั่งยืนที่เคารพต่อความหลากหลายทางชีวภาพ”

ข่าว บีบีซี ไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว