

“ฉันจ่ายค่าเช่าปีที่แล้ว 4,500 ลีรา (ประมาณ 7,900 บาท) แต่เจ้าของบ้านบอกว่า เขาจำเป็นต้องขึ้นค่าเช่า” เซดา กล่าว “เราจ่ายมากขึ้นเป็น 2 เท่าแล้ว แต่เขาก็ยังขอให้เราย้ายออกจากแฟลต”
เธอเป็นหนึ่งในชาวตุรกีหลายล้านคนที่เผชิญปัญหาค่าครองชีพในประเทศ ซึ่งอัตราเงินเฟ้อทางการสูงกว่า 64%
ท่ามกลางความวุ่นวายทางเศรษฐกิจ ประธานาธิบดีเรเจป ทายยิป แอร์โดอัน ของตุรกีได้ประกาศว่า จะจัดการเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค. นี้ เพื่อพยายามที่จะอยู่ในอำนาจต่อไป หลังจากดำรงตำแหน่งผู้นำมานาน 20 ปีแล้ว
โดยในวันนั้นจะมีทั้งการเลือกตั้งประธานาธิบดีและการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาในวันเดียวกัน โดยผลการสำรวจความคิดเห็นหลายแห่งแสดงให้เห็นว่า มีคะแนนสูสีกันมากในการเลือกตั้งทั้งสองอย่าง
เซดายังคงหาแฟลตต่อไป แต่ค่าเช่าได้ทะยานขึ้นไปอยู่ที่ 30,000 ลีรา (ประมาณ 52,600 บาท) แล้ว ขณะที่รายได้ของเธอขึ้นไม่ทันกับเงินเฟ้อ “ฉันรู้สึกไม่มั่นคงเลย เหมือนกับอยู่ในป่า พยายามที่จะเอาชีวิตรอด”
ประธานาธิบดีแอร์โดอัน ได้ประกาศเพิ่มการใช้จ่ายภาครัฐมากเป็นประวัติการณ์ เพื่อหวังว่า จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ
แผนการของเขารวมถึง การอุดหนุนด้านพลังงาน, การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 2 เท่า และการปรับขึ้นเงินบำนาญ รวมถึงโอกาสที่คนกว่า 2 ล้านคนจะได้เกษียณในทันที

แต่ชายชราคนหนึ่งที่กำลังหาซื้อของที่ตลาดแห่งหนึ่งในนครอิสตันบูลไม่รู้สึกประทับใจ
“เรากลายเป็นคนที่จนลงในทันทีในปีนี้ ผมคิดว่า เงินเฟ้อที่เรารู้สึกตามท้องถนนคือ 600% แต่การขึ้นเงินบำนาญอยู่ที่เพียง 30% เท่านั้น” เขากล่าว
นักวิเคราะห์บางส่วนระบุว่า การเลือกตั้งเร็วขึ้น อาจจะช่วยให้ประธานาธิบดีแอร์โดอันได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของเขา
แต่อาทิลลา เยชีลาดา ที่ปรึกษาด้านตุรกีของบริษัทโกลบอลซอร์ส พาร์ตเนอร์ส (GlobalSource Partners) เชื่อว่า เงินเฟ้อจะสูงเกินกว่าการขึ้นค่าจ้างในอีกไม่นานนี้
“ถ้าไม่มีการปรับเงินบำนาญและค่าจ้างอีกครั้งหนึ่ง…ความรู้สึกขอบคุณที่ผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้งรู้สึกในปัจจุบันจะลดลงอย่างรวดเร็ว” เขากล่าว
ฝ่ายค้านหลักของประธานาธิบดีแอร์โดอันคือ กลุ่มพันธมิตรพรรคการเมืองฝ่ายซ้ายกลางและฝ่ายขวาที่รู้จักกันในชื่อ เทเบิล ออฟ ซิกซ์ (Table of Six)
พวกเขาได้สัญญาว่า จะเปลี่ยนแปลงนโยบายทางเศรษฐกิจของนายแอร์โดอัน ใช้นโยงานการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น และฟื้นฟูความเป็นอิสระของธนาคารกลาง
แต่พวกเขาก็ยังไม่ได้เลือกว่า จะส่งให้ใครลงสมัครเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดี
- ตุรกี : ประธานาธิบดีชูนโยบายเศรษฐกิจแหกคอก ลดดอกเบี้ยกระตุ้นส่งออก ทำสกุลเงินอ่อนยวบ เงินเฟ้อพุ่ง
- สหประชาชาติ เปลี่ยนชื่อ ตุรกี เป็น ตุรเคีย ตามการร้องขอแล้ว
- ย้ายประเทศ : “ตุรกีคือบ้าน แต่ฉันอยากมีชีวิตที่ดีกว่าในต่างประเทศ”
คาดว่า จะมีการตัดสินใจเรื่องนี้ในวันที่ 13 ก.พ. และหลายคนคาดว่า พวกเขาจะเลือกนายเคมาล คูลุตช์ดารอลู ผู้นำพรรคของสาธารณรัฐประชาชน (Republican People’s Party–CHP) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลักของตุรกี ให้ลงเลือกตั้ง
บุคคลที่ถูกพูดถึงมากอีกคนหนึ่งคือนายเอกเครม อีมามอลู นายกเทศมนตรีนครอิสตันบูล
เมื่อเดือนที่แล้ว ศาลได้ห้ามเขาไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง จากการถูกกล่าวหาว่า ดูหมิ่นเจ้าหน้าที่ทางการจัดการเลือกตั้ง และพิพากษาลงโทษจำคุกเขานานเกือบ 3 ปี ในคดีที่เขาเห็นว่า มีแรงจูงใจทางการเมือง เขายังคงทำหน้าที่ต่อไป ขณะที่กำลังอุทธรณ์คำตัดสินนี้
โซแนร์ ชาอับทาย จากสถาบันวอชิงตัน (Washington Institute) เชื่อว่า ความพยายามใด ๆ ในการห้ามนายกเทศมนตรีนครอิสตันบูลไม่ให้มีชีวิตทางการเมือง อาจจะส่งผลสะท้อนกลับ
เขาชี้ว่า ประธานาธิบดีแอร์โดอันเองก็เคยตกอยู่ในสถานการณ์คล้ายคลึงกันในช่วงทศวรรษ 1990 ในสมัยนั้นเขาคือนายกเทศมนตรีนครอิสตันบูลที่ประสบความสำเร็จและได้รับความนิยม ซึ่งถูกศาลของตุรกีตัดสินห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเมือง
“นั่นทำให้เขากลายเป็นคนเสียละและวีรบุรุษ เขาก็กลับมาได้อย่างสวยงาม” นายชาอับทาย กล่าว
พรรคที่น่าจะมีบทบาทในการเลือกว่า ใครจะได้ขึ้นมาเป็นผู้นำ น่าจะเป็นพรรคที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของตุรกี
พรรคประชาธิปไตยของประชาชน (Peoples’ Democratic Party–HDP) คือ พรรคที่สนับสนุนชาวเคิร์ด โดยเมื่อเดือน ม.ค. ศาลสูงสุดของตุรกีได้สั่งตัดเงินสนับสนุนของรัฐที่มอบให้กับทางพรรค และอาจจะมีการสั่งห้ามพรรคนี้จากข้อกล่าวหาว่า เกี่ยวข้องกับสมาชิกกลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ด
เซลาฮาทิน เดเมียร์ทาช อดีตหนึ่งในผู้นำของพรรค ถูกจำคุกมาตั้งแต่ปี 2016 จากการถูกกล่าวหาว่า “เผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อก่อการร้าย”

ฮิชยาร์ อึซซอย รองประธานของพรรค HDP ยอมรับว่า ทางการอาจยุบพรรคของพวกเขา แต่เขากล่าวว่า จะไม่เป็นการหยุดยั้งพรรคของเขา หรือคนที่สนับสนุนพรรค
“แม้ว่า จะมีการสั่งห้ามพรรค คนของเราจะหาหนทางในการเข้าร่วมการเลือกตั้งด้วยการใช้พรรคการเมืองอื่นบางพรรค” เขากล่าว
ถ้าการเลือกตั้งประธานาธิบดีต้องแข่งขันกันในรอบที่ 2 การสนับสนุนพรรคจาก HDP จะเป็นตัวกำหนดว่า ใครมีโอกาสจะเป็นประธานาธิบดีตุรกีคนต่อไปมากที่สุด
ขณะนี้ยังไม่มีใครประกาศตัวอย่างเป็นทางการว่า จะลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดี รวมถึงประธานาธิบดีแอร์โดอันเองด้วย มีการถกเถียงกันว่า เขาควรจะได้รับอนุญาตให้ลงเลือกตั้งหรือไม่ เพราะเขาได้รับเลือกตั้งมาแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งถือว่า สูงสุดตามที่กฎหมายกำหนดแล้ว

มาตรา 101 ในรัฐธรรมนูญของตุรกี บัญญัติว่า “บุคคลอาจได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีของสาธารณรัฐสูงสุด 2 สมัย”
“ถ้าแอร์โดอันต้องการลงเลือกตั้ง เขาก็จะลง” นายชาอับทาย กล่าว
“เพราะยี่ห้อของเขาคือ การที่เขาเป็นไก่รองบ่อนที่ต่อสู้กับพวกชนชั้นนำ มันอาจจะเป็นผลดีกับเขา ถ้ามีคนออกมาบอกว่า เขาไม่ได้รับอนุญาต นี่จะเป็นเหตุผลแบบเดียวกับที่ได้ช่วยแอร์โดอันมาแล้วในอดีต”
การเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงมีเดิมพันที่สูง โดยคนสำคัญจากฝ่ายค้านหลายคนระบุว่า มันจะเป็นการเลือกระหว่างการเป็นเผด็จการที่เพิ่มขึ้นและประชาธิปไตย พรรค AKP ที่เป็นพรรครัฐบาล ระบุว่า มีเพียงแค่พรรค AKP เท่านั้น ที่สามารถทำให้ค่าครองชีพลดลงและรักษาเสถียรภาพต่อไปได้”
สำหรับนายแอร์โดอัน ซึ่งเป็นผู้นำตุรกีมาตั้งแต่ปี 2003 เริ่มจากการเป็นนายกรัฐมนตรีและต่อมาได้รับเลือกตั้งโดยตรงเป็นประธานาธิบดี การเลือกตั้งครั้งนี้ จะเป็นการตัดสินว่า การปกครองตุรกีของเขาจะเข้าสู่ทศวรรษที่ 3 หรือไม่
ข่าว บีบีซี ไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว