บรรดาผู้เชี่ยวชาญระบุว่า เกาหลีเหนือกำลังเผชิญวิกฤตขาดแคลนอาหารครั้งใหญ่
เกาหลีเหนือเป็นหนึ่งในประเทศที่เผชิญภาวะขาดแคลนอาหารอยู่เนือง ๆ แต่การควบคุมพรมแดนอย่างเข้มงวด ประกอบกับสภาพดินฟ้าอากาศที่เลวร้าย และการคว่ำบาตรจากนานาชาติทำให้ปัญหานี้ทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
สื่อทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศจะร่วมการประชุมช่วงสิ้นเดือน ก.พ.นี้ เพื่อหารือถึง “การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ” เกี่ยวกับนโยบายด้านเกษตรกรรมของชาติ
สำนักข่าวเคซีเอ็นเอรายงานว่า นี่คือ “ภารกิจเร่งด่วนและสำคัญยิ่ง” ท่ามกลางปัญหา “ฉุกเฉิน” ด้านเกษตรกรรม
- ฤดูหนาวแห่งความอดอยากในเกาหลีเหนือ
- คิม จอง-อึน เตือนให้รับมือ “ทุพภิกขภัย” ครั้งใหญ่
- เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ 3 ลูกส่งท้ายปี
ข่าวนี้มีขึ้นในขณะที่รัฐบาลเกาหลีเหนือยังเดินหน้าแสดงแสนยานุภาพอันยิ่งใหญ่ของกองทัพ
กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้เตือนเรื่องภาวะขาดแคลนอาหารในเกาหลีเหนือเช่นกัน และได้ร้องขอความช่วยเหลือไปยังโครงการอาหารโลก (World Food Programme หรือ WFP) แห่งสหประชาชาติ
ภาพถ่ายดาวเทียมของทางการเกาหลีใต้แสดงให้เห็นว่า ในปี 2022 เกาหลีเหนือผลิตอาหารได้น้อยกว่าปี 2021 ถึง 180,000 ตัน
เมื่อเดือน มิ.ย.ปีก่อน WFP แสดงความกังวลว่าสภาพอากาศรุนแรงสุดขั้ว เช่น ภัยแล้ง และน้ำท่วม อาจทำให้ผลผลิตทางการเกษตรในฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิของเกาหลีเหนือมีปริมาณลดลง
สื่อทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า เมื่อปลายปีที่แล้ว ประเทศได้เผชิญภัยแล้ง “ครั้งใหญ่อันดับ 2” นับแต่มีการเก็บบันทึกข้อมูลมา
เบนจามิน คัตเซฟฟ์ ซิลเบอร์สไตน์ จาก 38North.org ที่วิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับเกาหลีเหนือ ระบุว่า ในปีนี้ราคาอาหารพุ่งสูงขึ้นตามที่คาดการณ์ ท่ามกลางปริมาณผลผลิตทางการเกษตรที่ตกต่ำ ทำให้คนเกาหลีเหนือต้องหันไปพึ่งพาอาหารราคาถูก
ริมจิน-กัง (Rimjin-gang) นิตยสารข่าวสารเกาหลีเหนือที่มีสำนักงานในญี่ปุ่นรายงานว่า ราคาข้าวโพดถีบตัวสูงขึ้น 20% ช่วงต้นปี 2023 โดยชาวเกาหลีเหนือหันไปรับประหารอาหารชนิดอื่นที่มีราคาถูกกว่าข้าวกันมากขึ้น
นายซิลเบอร์สไตน์ กล่าวว่า “ถ้าผู้คนซื้อข้าวโพดมากขึ้น หมายความว่าอาหารส่วนใหญ่มีราคาแพงขึ้น โดยเฉพาะอาหารหลักอย่างข้าว” ซึ่งปัจจุบันมีราคาประมาณกิโลกรัมละ 3,400 วอนเกาหลีเหนือ (ราว 130 บาท)
เกาหลีเหนือถูกจัดให้เป็นหนึ่งในประเทศยากจนที่สุดในโลก แม้ข้อมูลประมาณการล่าสุดจะหาได้ยาก แต่ CIA World Factbook ซึ่งเป็นข้อมูลจากสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ หรือ ซีไอเอ ประเมินว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ จีดีพี ต่อหัวประชากรเกาหลีเหนือในปี 2015 อยู่ที่ประมาณ 1,700 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 57,800 บาท)
นี่หมายความว่า เราไม่อาจล่วงรู้สถานการณ์และตัวเลขที่แท้จริงในปัจจุบัน เนื่องจากความไม่โปร่งใสทางเศรษฐกิจของเกาหลีเหนือ
เจมส์ เฟรตเวลล์ นักวิเคราะห์จากเอ็นเคนิวส์ (NK News) ที่นำเสนอข่าวสารเกี่ยวกับเกาหลีเหนือระบุว่า “เนื่องจากมาตรการควบคุมโควิดที่เข้มงวดต่อบุคคลและสินค้าบริเวณพรมแดนเกาหลีเหนือ ทำให้ไม่มีทางที่คนภายนอกจะเข้าไปในประเทศ เพื่อตรวจสอบสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้”
เขาอธิบายว่า มาตรการดังกล่าวยังทำให้เป็นการยากที่องค์กรต่างชาติจะส่งความช่วยเหลือให้เกาหลีเหนือในยามวิกฤต
โซคีล พัก ผู้อำนวยการ Liberty in North Korea หรือ Link องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในเกาหลีใต้ บรรยายมาตรการรับมือโควิดของรัฐบาลเกาหลีเหนือว่า “สุดโต่ง และทำด้วยความหวาดระแวง”
องค์กรของนายพัก ซึ่งช่วยผู้ลี้ภัยเกาหลีเหนือให้ตั้งรกรากในเกาหลีใต้ หรือสหรัฐฯ ระบุว่า สินค้าอุปโภคบริโภคขั้นพื้นฐานในเกาหลีเหนือลดน้อยอยู่แล้วตั้งแต่โควิดเริ่มแพร่ระบาด และ Link ได้รับข้อมูลที่เชื่อถือได้ว่ามีคนเสียชีวิตจากความอดอยาก
นอกจากนี้เกาหลีเหนือยังได้รับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากประชาคมโลกน้อยลง สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ ระบุว่า เมื่อปีก่อน เกาหลีเหนือได้รับความช่วยเหลือจากองค์กรระหว่างประเทศและหน่วยงานต่าง ๆ มูลค่า 2.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากปี 2021 ที่ได้รับความช่วยเหลือ 14 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ในขณะที่ภาวะขาดแคลนอาหารอาจมาจากการปิดพรมแดนที่ยาวนาน แต่เจ้าหน้าที่หน่วยงานบรรเทาทุกข์บางคนบอกบีบีซีว่า มาตรการคว่ำบาตรจากนานาชาติที่รุนแรงขึ้นเพื่อตอบโต้การยั่วยุทางการทหารของเกาหลีเหนือ ก็เป็นอุปสรรคต่อการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปในประเทศ
อย่างไรก็ตาม มีสัญญาบ่งชี้ว่าเริ่มมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศเกิดขึ้นอีกครั้ง นิคเคอิเอเชีย รายงานเมื่อสัปดาห์ก่อนว่าเริ่มมีการเดินรถบรรทุกระหว่างเกาหลีเหนือกับจีนอีกครั้ง ซึ่งการค้ากับจีนคิดเป็น 90% ของการค้าทั้งหมดของเกาหลีเหนือ
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า คุณภาพชีวิตของชาวบ้านเกาหลีเหนือจะดีขึ้น
นายพักบอกว่า รัฐบาลเกาหลีเหนือทุ่มเททรัพยากรส่วนใหญ่ของชาติไปกับการเสริมแสนยานุภาพของกองทัพ และการโฆษณาชวนเชื่อ
เมื่อปีก่อน รัฐบาลเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธกว่า 70 ลูก ซึ่งรวมถึงขีปนาวุธข้ามทวีป (intercontinental ballistic missile หรือICBM) ที่อาจมีพิสัยการยิงไกลถึงแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐฯ และเมื่อช่วงต้นเดือน ก.พ. ก็ได้จัดขบวนสวนสนามทางทหารเพื่ออวดโฉม ICBM ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศ
นายพักกล่าวว่า “รัฐบาลเกาหลีเหนือรู้ดีถึงความยากลำบากของสามัญชนคนเกาหลีเหนือ แต่ยังให้ความสำคัญกับการโฆษณาชวนเชื่อ พิธีเฉลิมฉลองให้คนตระกูลคิม การยิงขีปนาวุธ และการควบคุมพลเมืองอย่างเข้มงวด”
บรรดาผู้เชี่ยวกังวลว่า ภาวะขาดแคลนอาหารในเกาหลีเหนือจะเลวร้ายลงอีก และอาจนำไปสู่สถานการณ์ใกล้เคียงกับช่วง “ทุพภิกขภัยในเกาหลีเหนือ” (Arduous March) ซึ่งเป็นคำที่ทางการเกาหลีเหนือเรียกห้วงเวลาที่ประเทศเผชิญภาวะขาดแคลนอาหารอย่างรุนแรงระหว่างปี 1994 – 1998 โดยเป็นช่วงที่อดีตสหภาพโซเวียตล่มสลายทำให้เกาหลีเหนือขาดความช่วยเหลือที่สำคัญ ส่งผลให้ประชาชนราว 6 แสนถึง 1 ล้านคนต้องเสียชีวิตจากโรคขาดสารอาหาร
หมายเหตุ : ข่าว บีบีซี ไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว