เมียนมา : เครื่องบินรบรุกล้ำเหนือเขตแดนไทยที่ อ.พบพระ จ.ตาก

 

เครื่องบินรบเมียนมาบินล้ำเข้ามาในเขตดินแดนประเทศไทยที่ ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก ซึ่งเป็นพื้นที่ตรงข้ามกับพื้นที่สู้รบในฝั่งรัฐกะเหรี่ยงของเมียนมา ทำให้ชาวไทยและชาวเมียนมาที่อาศัยอยู่บริเวณชายแดนต้องหลบหนีภัยอย่างเร่งด่วน

ขณะที่กองทัพอากาศไทย ชี้แจงว่าได้นำเครื่องบิน F-16 ขึ้นบินลาดตระเวนรบบริเวณแนวชายแดนแล้ว และสั่งทูตทหารในกรุงย่างกุ้งประสานกับทางการเมียนมาเพื่อแจ้งเตือน

สมจิต รุ่งจำรัสรัศมี ผู้สื่อข่าวพิเศษบีบีซีไทย รายงานจาก อ.พบพระ จ.ตาก ช่วงบ่ายวันนี้ (30 มิ.ย.) ถึงสถานการณ์การสู้รบะหว่างทหารสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงกองพลน้อยที่ 6 กองกำลังเคเอ็นดีโอ และกองกำลังพีดีเอฟของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (National Unity Government : NUG) บริเวณบ้านอูเกรทะ ใน อ.สุการี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ของเมียนมา ยังคงมีการสู้รบอย่างหนัก ซึ่งเป็นบริเวณตรงข้ามบ้านวาเล่ย์ใต้ ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก

โดยช่วงเวลาประมาณ 12.00 น. ทหารเมียนมาได้ส่งเครื่องบินรบซู 29 บินล้ำเข้ามาเขตไทยจำนวน 1 ลำ ลึกเข้ามาถึงบ้านวาเล่ย์ใต้ และบ้านวาเล่ย์เหนือ ประมาณ 4-5 กิโลเมตร จนมองเห็นใกล้ เพื่ออ้อมไปยิงจรวดใส่ที่มั่นฝ่ายต่อต้านฝั่งเมียนมาประมาณ 4 รอบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เครื่องบินรบบินล้ำเข้ามาเขตไทยท่ามกลางเสียงระเบิดฝั่งเมียนมา ทำให้ประชาชนไทยในหมู่บ้านวาเล่ย์ทั้ง 2 หมู่บ้าน แตกตื่นตะโกนลั่นด้วยความกลัว ชาวบ้านที่มีหลุมหลบภัยในบ้านได้หนีไปหลบในหมู่บ้าน ขณะที่ทางโรงเรียนบ้านวาเล่ย์ใต้ ได้ประกาศฉุกเฉินให้ผู้ปกครองไปรับบุตรหลานกลับบ้าน และโรงเรียนประกาศหยุดเรียนทันที เนื่องจากเครื่องบินรบเมียนมาบินผ่านหลังคาอาคารเรียนของโรงเรียน

ส่วนที่โรงเรียนบ้านวาเล่ย์เหนือ ได้กดออดให้สัญญาณนักเรียนหนีเข้าไปยังหลุมหลบภัยของโรงเรียน และยังมีชาวบ้านไปร่วมด้วย

bbc

ที่มาของภาพ, STR/BBC THAI

ในเวลาต่อมา พล.อ.ต.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า วันนี้เวลา 11.16 น. หน่วยงานของกองทัพอากาศได้รายงานการตรวจพบอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บินล้ำแดนบริเวณ อ.พบพระ จ.ตาก โจมตีกองกำลังชนกลุ่มน้อยบริเวณแนวชายแดนและบินล้ำแดนเข้ามายังพื้นที่ประเทศไทย ก่อนเป้าหมายจะจางหายไปจากระบบเรดาร์เฝ้าตรวจการณ์ของกองทัพอากาศในเวลาต่อมา

เอกสารเผยแพร่ข่าวของกรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ ระบุด้วยว่า นอกจากนี้ยังตรวจพบเฮลิคอปเตอร์ปฏิบัติภารกิจอยู่ห่างจากแนวชายแดนบริเวณดังกล่าว ระยะทางประมาณ 5 ไมล์ทะเล แต่มิได้ล้ำแดนมายังพื้นที่ประเทศไทยแต่อย่างใด

พล.อ.ต.ประภาส กล่าวว่า กองทัพอากาศจึงได้มีคำสั่งให้เครื่องบินขับไล่แบบที่ 19 หรือ F-16 จำนวน 2 เครื่อง ขึ้นบินลาดตระเวนรบทางอากาศทันที บริเวณแนวชายแดน อ.พบพระ และได้สั่งการผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารอากาศ ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ ย่างกุ้ง ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เพื่อแจ้งเตือนและหาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวขึ้นอีกในอนาคต

ทหารไทยได้แต่ยืนมอง

รายงานจากผู้สื่อข่าวระบุด้วยว่า ทหารเมียนมาส่งบินรบล้ำมาในเขตไทยใช้เวลาปฏิบัติการประมาณ 15 นาที ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยในพื้นที่ได้แต่ยืนมอง โดยไม่สามารถทำอะไรได้ และไม่มีเครื่องบินของไทยออกไปป้องกันน่านฟ้า

ก่อนหน้าที่เครื่องบินเมียนมาจะปฏิบัติการทางอากาศ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีเครื่องบินตรวจการณ์ของทหารเมียนมาบินวนหลายรอบ รวมทั้งเฮลิคอปเตอร์ ไปส่งเสบียงอาหารที่ฐานบ้านวาเล่ย์ของทหารเมียนมา จากนั้นก็มีเครื่องบินรบมิก 29 บินวนในฝั่งเมียนมายิงจรวดใส่ฝ่ายต่อต้าน ก่อนจะล้ำเข้ามาในน่านฟ้าไทยอย่างชัดเจน และทำให้ชาวบ้านแตกตื่น

ชาวบ้านในหมู่บ้านวาเล่ย์ใต้ บอกว่า จากการสู้รบที่ผ่านมาหลายวัน เครื่องบินของทหารเมียนมาไม่เคยล้ำมาน่านฟ้าเขตไทย ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ขณะที่บางคนบอกว่าเครื่องบินทหารเมียนมาบินเข้ามาในหมู่บ้านต่ำมาก ใกล้กับหลังคาบ้านจนน่ากลัว

คนไทยที่ ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก เฝ้าดูสถานการณ์ที่ห้องหลบภัย

ที่มาของภาพ, STR/BBC THAI

ด้านองค์การบริหารส่วนตำบลวาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก ได้ประชาสัมพันธ์แจ้งประชาชนในพื้นที่ว่าหากไม่มีที่หลบภัยหรือรู้สึกไม่ปลอดภัย สามารถมาพักชั่วคราว ณ ที่ทำการ อบต. ได้ พร้อมออกประกาศปิดการเรียนการสอนศูนย์พัฒนาเด็กเล็กของตำบลจำนวน 5 แห่งในวันที่ 1 ก.ค. จนกว่าสถานการณ์จะกลับมาเป็นปกติ

สถานการณ์การสู้รบและการโจมตีทางอากาศบริเวณตรงข้ามฝั่งไทย ซึ่งมีเสียงระเบิดและเสียงปืนดังกึกก้องได้ยินในฝั่งไทยอย่างชัดเจน ทำให้มีผู้อพยพข้ามเข้ามาขอลี้ภัยเป็นจำนวนมาก

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 65 ศูนย์สั่งการชายแดน ไทย-เมียนมา จ. ตาก ได้แจ้งสถานการณ์การสู้รบระหว่างทหารเมียนมากับ ฝ่ายต่อต้าน ว่าในห้วงวันที่ 26-28 มิ.ย. ว่า ได้ส่งผลกระทบต่อฝ่ายไทย โดยมีกระสุนไม่ทราบชนิด ไม่ทราบฝ่าย ข้ามมาตกยังฝั่งไทย บริเวณ พื้นที่ทำการเกษตร ของราษฎรบ้านวาเล่ย์ใต้ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 ได้ทำการยิงเตือน ด้วยกระสุนควันไปยังฝั่งเมียนมาเพื่อให้ทราบว่า มีกระสุนข้ามมาตกในฝั่งไทย พร้อมทั้งได้ดำเนินการทำหนังสือประท้วงไปยังคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย-เมียนมา (TBC)

……..

ข่าว BBCไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว