ประธานาธิบดีปูตินจะเข้าพบกับ อยาตอลเลาะห์ คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน และ เรเจป ทายยิป แอร์โดอัน ประธานาธิบดีตุรกี
เจ้าหน้าที่รัฐบาลตุรกีเผยว่าการพบปะครั้งนี้ที่กรุงเตหะราน เมืองหลวงของอิหร่าน จะมีการพูดคุยเรื่องการส่งออกธัญพืช ประเด็นซีเรีย รวมไปถึงยูเครน
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
นายปูตินได้ลดจำนวนการเดินทางไปเยือนอดีตประเทศในสหภาพโซเวียตนับตั้งแต่สงครามเริ่มปะทุขึ้น
ในเดือน มิ.ย. นายปูตินเดินทางไปเยือนทาจิกิสถานและเติร์กเมนิสถาน ซึ่งนั่นนับเป็นการเดินทางออกนอกประเทศเป็นครั้งแรกตั้งแต่เริ่มมีสงครามในยูเครน ทั้งสองประเทศล้วนเป็นอดีตประเทศในสหภาพโซเวียต ปัจจุบันนี้ทั้งสองประเทศถูกปกครองโดยผู้นำเผด็จการและพันธมิตรของรัสเซีย
การเดินทางครั้งนี้จะช่วยให้รัสเซียเสริมสร้างสายสัมพันธ์กับอิหร่านให้เข้มแข็งขึ้น ปัจจุบันนี้อิหร่านนับเป็นประเทศส่วนน้อยในโลกแล้วที่ยังแสดงความเป็นมิตรกับรัสเซีย ทั้งยังตกเป็นเป้าในการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจจากโลกตะวันตก
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ออกมาเผยว่ารัฐบาลอิหร่านเตรียมจะขายโดรนนับร้อยลำ ให้กับรัสเซียเพื่อใช้ในสงครามยูเครน
“ความสัมพันธ์กับคาเมเนอีมีความสำคัญอย่างมาก” ยูริ อูชาคอฟ ที่ปรึกษานโยบายต่างประเทศระดับสูงของนายปูตินกล่าวกับสื่อมวลชนเมื่อ 18 ก.ค. ที่ผ่านมา “บทสนทนาที่น่าเชื่อถือระหว่างทั้งคู่พัฒนาขึ้นมาบนประเด็นที่มีความสำคัญที่สุดทั้งในวาระระหว่างประเทศและวาระระดับนานาชาติ”
ตุรกีและรัสเซียให้การสนับสนุนกองกำลังต่างฝ่ายกันในสงครามซีเรีย และพยายามหาทางลดความรุนแรงลงในช่วงเดือนที่ผ่านมา
ทว่าการพบเจอครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางคำขู่จากตุรกีว่าเปิดฉากการโจมตีครั้งใหม่ในบริเวณซีเรียตอนเหนือเพื่อสู้กับกลุ่มชาวเคิร์ดที่มีสหรัฐฯ หนุนหลังอยู่ ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่ทั้งรัสเซียและอิหร่านต่างก็ไม่เห็นด้วย ปฏิบัติการที่ว่านั้นเป็นส่วนหนึ่งของแผนของประธานาธิบดีแอร์โดอัน เพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัยระหว่างชายแดนตุรกีและซีเรีย ราว 30 กม.
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเพิ่งตกลงที่จะขยายความช่วยเหลือในการขนส่งสิ่งของจำเป็นให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ในเมืองที่ถูกผู้บุกรุกยึดครองเป็นเวลา 6 เดือน หลังจากที่ก่อนหน้านี้รัสเซียออกมาวีโต้ข้อเสนอความช่วยเหลือที่จะกินเวลา 1 ปี
รัฐบาลตุรกีปฎิเสธที่จะคว่ำบาตรรัสเซียนับตั้งแต่ที่มีการบุกรุกยูเครนเมื่อ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีแอร์โดอันเคยเสนอตัวเองเป็นตัวกลางในการเจรจาระหว่างรัสเซียและยูเครน
การพบกันครั้งนี้ยังจะมอบโอกาสให้ผู้นำตุรกีหาทางสรุปความตกลงที่ยังค้างคาระหว่างรัสเซียกับยูเครนในประเด็นการทำให้ความมั่นใจว่ายูเครนจะสามารถส่งออกธัญพืช 22 ล้านตันซึ่งเป็นที่ต้องการอย่างมาก
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของตุรกีเผยว่าทั้งสองฝั่งได้ตกลงถึงช่องทางในการสร้างความปลอดภัยในการส่งออกธัญพืชเหล่านี้แล้ว
มีรายงานว่ากองเรือของรัสเซียที่ลอยลำอยู่ในทะเลดำขัดขวางการขนส่งทั้งที่เดินทางเข้ามาหรือออกจากบริเวณดังกล่าว บีบีซีได้รวบรวามข้อมูลและพบว่ากองทัพเรือของรัสเซียขโมยธัญพืชส่งออกจากยูเครนแล้วยังนำไปขายต่อเอง
“จะมีการพูดคุยกับประธานาธิบดีแอร์โดอันเกี่ยวกับประเด็นการขนส่งธัญพืชของยูเครน” นายอูชาคอฟ กล่าว “เราพร้อมที่จะสานต่องานตรงนี้”
ทว่าการพูดคุยครั้งนี้กลับเกิดขึ้นท่ามกลางเสียงวิจารณ์ของเกษตรกรในพื้นที่ด่านหน้าว่าทุ่งธัญพืชของพวกเขาถูกกองทัพรัสเซียระดมยิงอย่างต่อเนื่อง
โอเล พีลีเพนโก นักการเมืองท้องถิ่นในเขตทางตอนใต้ของยูเครนและอดีตนักโทษของรัสเซีย กล่าวกับบีบีซีว่าเกษตรกรที่อยู่ใกล้เมืองทางตอนใต้ของแคว้นมิโคไลอีฟต้องเผชิญหน้ากับการระดมยิงปืนใหญ่และขีปนาวุธอย่างต่อเนื่อง
เขากล่าวว่ากองทัพรัสเซีย “ระดมยิงทุ่งปลูกพืช เครื่องจักรทางการเกษตร และโรงเก็บธัญพืช” เขายังกล่าวว่าเกษตรกรหลายคน “กลายเป็นเหยื่อของการโจมตีนั้นและได้รับบาดเจ็บ”
“นักรบมืออาชีพจากเมืองมิโคไลอีฟไม่กล้าเข้าไป เพราะมันอันตรายมาก” เขาเสริม “เราพยายามหยุดยั้งระเบิดกันเองหลายครั้ง แต่ตอนนี้การระดมยิงกลับเพิ่มมากขึ้น”
สตรีหมายเลขหนึ่งยูเครนเยือนสหรัฐฯ
ขณะที่ประธานาธิบดีปูตินเสริมสายสัมพันธ์ของรัสเซียกับประเทศพันธมิตรที่ยังเหลืออยู่ ล่าสุดสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของยูเครน โอเลนา ชีเลนสกา ออกเดินสายพบปะกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ โดยเธอเข้าพบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน เมื่อ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา และมีกำหนดพบกับสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯ นางจิล ไบเดน 19 ก.ค.
การพบกันครั้งนี้จะถือเป็นครั้งที่สองที่ทั้งสองคนได้พบกัน หลังจากนางไบเดนเดินทางไปเยือนยูเครนอย่างไม่เป็นทางการเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา
นางชีเลนสกายังมีกำหนดกล่าวสสุนทรพจน์ ณ อาคารรัฐสภาสหรัฐฯ ในวันที่ 20 ก.ค.นี้
นางชีเลนสกาเองไม่ได้มีตำแหน่งอะไรในรัฐบาลยูเครนแต่ในช่วงเกือบ 5 เดือนที่ผ่านมา ยูเครนต้องการความช่วยเหลือทางการทาหารและการสนับสนุนทางการเมืองจากสหรัฐฯ
ขณะเดียวกันรัฐสภาสหรัฐฯ อนุมัติเม็ดเงินช่วยเหลือมูลค่าเกือบ 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 1.5 ล้านล้านบาท) เพื่อช่วยเหลือยูเครนแล้ว ซึ่งความช่วยเหลือเหล่านี้จะส่งมอบได้เสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้
เมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา นางเซเลนสกียังได้พับกับนางซามานธา เพาเวอร์ ผู้อำนวยการองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (USAID)ซึ่งมอบเงินสนับสนุนรัฐบาลยูเครนรวมไปถึงความช่วยเหลือทางมนุษยธรรามไปแล้วกว่าพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
….
ข่าว บีบีซี ไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว