ทบทวนเส้นทางความสำเร็จ 25hours จากวันเริ่มต้นถึงวันแยกวง

คอลัมน์ Music Talk โดย ท้องฟ้าสีเทา

วันนี้ (วัน ที่ 31 สิงหาคม 2563) เป็นวันเศร้า ๆ ของแฟนเพลงจำนวนมากของวง 25hours เนื่องจากวงดนตรีดังวงนี้มีกำหนดการบอกกล่าวประกาศยุบวงอย่างเป็นทางการ

วง 25hours ได้ปล่อยสกู๊ปประมวลภาพมิวสิกวิดีโอตลอด 6 ปีที่อยู่กับค่ายจีนี่ฯ พร้อมทั้งชี้แจงกับแฟนเพลงว่า

“เหตุผลที่แยกวงเพราะความคิด ความรู้สึก ของวงไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน พวกเราเลยคิดว่ามันจะทำให้เรื่องการทำงาน การทำเพลงออกมาไม่ดีเท่าที่ควร และส่งผลต่อค่าย ต่อแฟนเพลง ทำให้ศักยภาพวงไม่ดี เราเลยควรพัก แยกย้ายไปในทางที่ควร เพราะเรากลัวว่าจะออกมาไม่ดี

ถ้าถามถึงอนาคต เป็นเรื่องของอนาคต เอาวันนี้ก่อน ถ้าทำวันนี้ให้ดีถ้าไม่ดีเราจะเดินไปไม่ได้ เราควรพักไว้ตรงนี้ ให้ทุกอย่างทำงานของมันไป เราเดินทางมาพอสมควรแล้ว

สิ่งที่อยากจะบอกแฟน ๆ เราจำเป็นต้องแจ้ง อยากให้แฟนเพลงเข้าใจ พวกเราจะเดินหน้าต่อไป ทุกคนจะได้ไม่ต้องเดาเข้าใจผิด ต่อไปนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหวังว่าแฟนเพลงจะเข้าใจเรา จะมีรอยยิ้มให้เราเหมือนเดิม”

25hours เป็นหนึ่งศิลปินชื่อดัง และศิลปินระดับคุณภาพของเมืองไทย มีแฟนเพลงเฝ้าติดตามผลงานอยู่เป็นจำนวนมาก หากนับตามตัวเลขผู้ติดตามในเฟซบุ๊กแฟนเพจของวงก็เป็นจำนวนมากถึง 1.4 ล้านคน

คอลัมน์ Music Talk ในเว็บไซต์ “ประชาชาติธุรกิจ” ขอร่วมบันทึกบทหนึ่งในประวัติศาสตร์วงการเพลงไทย และพาผู้อ่านทบทวนเส้นทางความสำเร็จของหนึ่งวงดนตรีแห่งยุค ซึ่งเราอาจจะเรียกพวกเขาว่าเป็น “วงดนตรีแห่งยุคการมาของเฟซบุ๊ก” ก็น่าจะได้ เพราะ 25hours โด่งดังขึ้นมาพร้อมกับความนิยมของแพลตฟอร์มเฟซบุ๊กในเมืองไทยพอดี

25hours เป็นกลุ่มดนตรีแนวอัลเทอร์เนทีฟที่มีส่วนผสมของดนตรีแบบบริตป็อป, โฟล์ก, และร็อก ประกอบด้วยสมาชิก 5 คน ได้แก่ แหลม-สมพล รุ่งพาณิชย์ (ร้องนำ), โฟร์-ประทีป สิริอิสสระนันท์ (กีต้าร์), ปู๋-ปิยวัฒน์ มีเครือ (กีต้าร์), บัง-เอกศิริ กำบังภัย (เบส) และจ๊อบ-กฤตพงศ์ สกุลนามอเนก (กลอง) มีอดีตสมาชิกที่ออกจากวงไปแล้ว 1 คน คือ ตั้ม-กิตติศักดิ์ ตันตระรุ่งโรจน์ (กลอง)

วงก่อตั้งโดยสมาชิก 2 คนคือ ตั้มและบัง ก่อนจะมีโฟร์มาร่วมเล่นกีตาร์ จากนั้นได้พบกับ แหลม นักร้องนำ จากคำแนะนำของพนเทพ สุวรรณะบุณย์ และกมลศักดิ์ สุนทานนท์ หลังจากนั้นได้ชวนปู๋เข้าร่วมเป็นสมาชิก และได้ก่อตั้งวงในชื่อ 25hours (ทเวนตีไฟฟ์อาวส์)

ปี 2552 ช่วงกลางปี พวกเขามีผลงานสตูดิโออัลบั้มชุดแรกภายใต้สังกัดค่าย Believe Records ใช้ชื่ออัลบั้มเดียวกันกับชื่อวง “25hours” อัลบั้มนี้แจ้งเกิดให้วงได้อย่างสวยงาม มีเพลงฮิตติดชาร์ตและติดหูคนฟังหลายเพลง (เกือบทั้งอัลบั้มก็ว่าได้) ที่ฮิตสุด ๆ ก็อย่างเพลง “วันดีดี”, “ถามจันทร์”, “ทำได้เพียง” สามารถพูดได้เลยว่า “25hours” เป็นอัลบั้มที่มีเพลงฮิตมากที่สุดในปีนั้น เป็นอัลบั้มยอดนิยมแห่งปี

ปี 2553 เป็นปีที่สำคัญมากในเส้นทางความสำเร็จของวง หลังจากที่พวกเขาสร้างชื่อเสียงกันเองจากผลงานอัลบั้มแรก ปี 2553 พวกเขาได้รับเลือกให้ทำเพลงประกอบภาพยนตร์ “กวน มึน โฮ” ของค่าย GTH ซึ่งความสำเร็จของหนังและตลาดที่กว้างของค่าย GTH เป็นแรงที่เสริมให้ผลงานเพลง “ยินดีที่ไม่รู้จัก ของ 25hours ฮิตถล่มทลาย ทำให้ความโด่งดังของวงที่มีในหมู่คนฟังเพลงได้แพร่กระจายออกไปเป็นระดับแมส ระดับที่ว่าคนที่ไม่ได้สนใจฟังเพลงก็ยังรู้จัก ไม่ว่าจะเป็นเด็กประถม หรือคุณลุงคุณป้าก็คุ้นหูกับเพลงสนุก ๆ ที่ร้องว่า “ยินดีที่ไม่รู้จัก ไม่รู้จัก รู้แค่ว่ารักก็พอใจ”

ปี 2554 พวกเขาออกอัลบั้มเต็มชุดที่ 2 ในสังกัดค่ายเดิม ชื่ออัลบั้มว่า Colour in White” ที่ได้เติมสีสันใหม่ ๆ เติมความเป็นอิเล็กทรอนิกส์เข้าไป ซึ่งอัลบั้มนี้ยังคงไม่ผิดฟอร์มของ 25hours ยังมีเพลงฮิตมาให้ร้องตามอีกเหมือนเคย “คิดเหมือนกันหรือเปล่า” กับ “เที่ยงคืนสิบห้านาที” คือเพลงดังประจำอัลบั้มนี้

ปี 2557 เป็นอีกจุดเปลี่ยนสำคัญของวง หลังจากหมดสัญญากับค่าย Believe Records พวกเขาได้เซ็นสัญญาเป็นศิลปินในสังกัดค่าย genie records ค่ายลูกของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ซึ่งการย้ายไปอยู่ค่ายที่ใหญ่ขึ้นทำให้พวกเขาได้เป็นส่วนหนึ่งของโปรเจ็กต์ใหญ่ ๆ ในเวลาต่อมา

ปีเดียวกันนี้ พวกเขาได้ทำเพลงประกอบภาพยนตร์ให้ GTH อีกครั้ง คือเพลง “ไม่ต่างกัน” ประกอบภาพยนตร์เรื่อง “คิดถึงวิทยา” ถึงแม้ทั้งหนังและเพลงไม่ได้ดังเปรี้ยงปร้างมากเท่าเพลง “ยินดีที่ไม่รู้จัก” กับหนัง “กวน มึน โฮ” แต่เพลงนี้ก็นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเพลงดังของวงที่ยังคุ้นหูมาจนถึงตอนนี้

ปี 2558 อัลบั้มชุดที่ 3 ของวง ซึ่งเป็นอัลบั้มแรกในค่ายใหม่ออกมาในช่วงปลายเดือนสิงหาคม อัลบั้มนี้มีชื่อว่า Mom & Popshop” แปลว่า “ร้านขายของชำ” ซึ่งโดยภาพรวมของอัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มที่ฟีลกู๊ด พูดถึงความสุข ซึ่งอาจมาจากสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ใกล้ตัว อัลบั้มนี้ 25hours ได้สร้างปรากฏการณ์เพลงฮิต (ระดับฮิตมาก ๆ) อีกครั้งด้วยเพลง “ไม่เคย” เพลงช้าเศร้า ๆ ที่ชวนให้มองเห็นคุณค่าของคนสำคัญก่อนจะสาย

25hours เคยพูดถึงอัลบั้มนี้ในการให้สัมภาษณ์กับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า “เหตุผลที่ต้องเป็นร้านขายของชำเพราะคิดว่าความสุขไม่จำเป็นต้องเป็นอะไรที่ใหญ่โต มันอาจจะเป็นอะไรที่เราพอใจในสิ่งที่เรามีเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างวงเราก็เหมือนร้านค้าเล็ก ๆ ที่ทำเพลงแล้วเราก็มีความสุขดีที่เราได้มีพื้นที่ของเรา เราเลือกจะทำในสิ่งที่เรามีความสุข ได้นำเสนอสิ่งที่มีประโยชน์ต่อคนที่อยู่ใกล้ ๆ บ้านเราบ้าง ซึ่งก็คือแฟนเพลงของพวกเราที่อยู่กับเรามานาน 7-8 ปี ถ้าเขาเดินเข้าร้านเรามา เราก็อยากให้สิ่งที่อร่อยและมีประโยชน์ ในวันที่เราก็มีความคิดความอ่านขึ้น ชื่ออัลบั้มมันก็สะท้อนท่าทีของเราด้วย ตอนนี้เราย้ายมาอยู่ค่ายใหญ่ แต่เราก็ยังเป็น Mom & Pop Shop อยู่ เราไม่ได้เปิดห้างใหญ่ มันค่อนข้างมีหลายมิติในคำ ๆ นี้”

ปี 2561 ช่วงต้นปีค่ายจีนี่เร็คคอร์ดสจัดคอนเสิร์ตใหญ่ “genie fest 19 ปี กว่าจะร็อกเท่าวันนี้” เป็นการเฉลิมฉลอง 19 ปีของค่าย ซึ่ง 25hours เป็นหนึ่งศิลปินที่ขึ้นแสดงต่อหน้าผู้ชมรอบละ 60,000 คน รวมการแสดง 2 รอบมีสักขีพยานมากกว่า 1 แสนคน

ในช่วงปลายปี 2561 คายจีนี่เร็คคอร์ดสทำโปรเจ็กต์ “PLAY 2 PROJECT” ที่ให้ศิลปินรุ่นใหม่ในค่ายนำเพลงดังในอดีตมาทำใหม่ในสไตล์ของตัวเอง ซึ่ง 25hours ก็เป็น 1 ใน 18 ศิลปินในโปรเจ็กต์นี้ พวกเขาเลือกเพลง “ดูโง่โง่” ของเสือ ธนพล ซึ่งเป็นไอดอลของแหลม นักร้องนำของวง

ปี 2562 อัลบั้มเต็มชุดที่ 4 ชื่ออัลบั้ม Night in Heaven” ถูกปล่อยออกมาในเดือนกรกฎาคม อัลบั้มนี้พวกเขาเปลี่ยนฟีลจากโทนสดใสในอัลบั้มที่ 3 มาทำเพลงโทนมืดหม่น แต่ก็ยังพอมีสีสันให้สัมผัสได้อยู่ เหมือนคอนเซ็ปต์ของอัลบั้มที่สื่อว่าในความมืดตอนกลางคืนก็ยังมีแสงพอเป็นความหวังอยู่บ้าง ซึ่งพาร์ตดนตรีอัลบั้มนี้ได้มีการนำเครื่องดนตรีอื่น ๆ อย่างเครื่องสายและเครื่องเป่าเข้ามาสร้างเสียงประสานให้มีความอลังการขึ้น

หากจะพูดตามความจริง อัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มที่ดังน้อยที่สุดของวง แต่ในเรื่องคุณภาพยังคงการันตีได้ว่าสมศักดิ์ศรี 25hours เป็นอัลบั้มที่เต็มไปด้วยเพลงน่าฟัง สารภาพว่าผู้เขียนไม่ทราบกระแสเกี่ยวกับอัลบั้มนี้เลยว่าเพลงไหนเป็นที่นิยมแค่ไหน ฉะนั้นขอยกตัวอย่างเพลงที่ชอบส่วนตัว คือ “หยุดคงไม่ไหว”, “ลืมกันแล้วหรือยัง”, “ไม่เป็นไร” และ “ขออภัย”

ปี 2563 วง 25hours ได้รับเลือกเป็น 1 ศิลปินในโปรเจ็กต์ “My Hero” ที่ให้ศิลปินดังในยุคปัจจุบันได้ร่วมสร้างสรรค์งานเพลงกับฮีโร่ในวงการเพลง ซึ่ง 25hours ได้จับคู่กับ เสือ-ธนพล อินทฤทธิ์ ในเพลง “นับ 1 ถึง 100” ซึ่งเพิ่งปล่อยออกมาให้ฟังเมื่อกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมานี่เอง

วันศุกร์ ที่ 28 สิงหาคม 2563 หลังจากมีความเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ว่าวง 25hours ยกเลิกการแสดงที่รับไว้ทั้งหมด ค่ายจีนี่ เร็คคอร์ดส ได้เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ว่า จะปล่อยสกู๊ปประมวลภาพมิวสิกวิดีโอตลอด 6 ปีที่ 25hours อยู่กับค่ายจีนี่ฯ ในวันที่ 31 สิงหาคม และจะปล่อยมิวสิควิดีโอเพลงสุดท้ายของวง ชื่อเพลง “Before Sunset (หมดเวลาแล้ว)” ในวันที่ 4 กันยายน

วันนี้ 31 สิงหาคม 2563  ชัดเจนแล้วว่า วงดนตรีที่หลาย ๆ คนรักได้เดินทางมาถึงทางแยกแล้วจริง ๆ

ส่วนอนาคตข้างหน้าพวกเขาจะเดินมาบรรจบและเดินร่วมทางกันต่อไปอีกหรือไม่ ยังไม่มีใครรู้ แต่อย่างน้อยแฟน ๆ ก็สามารถหวังได้ เพราะมีวงดนตรีหลาย ๆ วงในโลกนี้ที่แยกย้ายกันไปแล้วกลับมารวมวงกันอีก ซึ่ง 25hours ก็อาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้