เซเลนสกี เรียกร้องชาติตะวันตกเเบนนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย

โวโลดีมีร์ เซเลนสกี้
Photo by Sergei SUPINSKY / AFP

เซเลนสกีเดือด ปราศรัยหลังเหตุระเบิดไครเมีย คนหนีตายจ้าละหวั่น เรียกร้องให้ชาติตะวันตกเเบนชาวรัสเซียเข้าประเทศ ไม่ยกเว้นเเม้เเต่ผู้ที่วิจารณ์ปูติน พร้อมย้ำ ‘สงครามนี้เริ่มที่ไครเมีย เเละต้องจบลงที่ไครเมีย’

วันที่ 10 สิงหาคม 2565 นิวยอร์ก โพสต์ รายงานว่า โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน กำลังเรียกร้องให้ประเทศตะวันตกกีดกันชาวรัสเซียไม่ให้เข้าประเทศ โดยประกาศว่าพวกเขาจะต้อง “อยู่ในโลกของตนเองจนกว่าจะเปลี่ยนปรัชญาของพวกเขา”

เซเลนสกีเรียกร้องผ่านการให้สัมภาษณ์กับ วอชิงตัน โพสต์ เมื่อวันจันทร์ที่ 8 ส.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐ ประกาศให้เงินช่วยเหลือเเก่ยูเครนอีกเป็นจำนวนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 35,500 ล้านบาท

โดยเซเลนสกีได้กล่าวกับหนังสือพิมพ์ วอชิงตัน โพสต์ ว่า “การคว่ำบาตรที่สำคัญที่สุดคือการปิดพรมแดน เพราะชาวรัสเซียกำลังยึดครองเเย่งดินแดนของคนอื่น”

แต่วอชิงตันโพสต์ตั้งข้อสังเกตว่า มีคนบางกลุ่มมองว่าคำสั่งห้ามดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้อย่างไม่เหมาะสมกับชาวรัสเซียที่หนีออกจากประเทศของตน โดยเฉพาะกับกลุ่มคนที่ต่อต้านการรุกรานยูเครนของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม เซเลนสกีกลับเน้นย้ำว่าไม่ควรมีการยกเว้นให้กับชาวรัสเซียที่วิพากษ์วิจารณ์ปูติน โดยเขาได้กล่าวว่า “ไม่ว่าจะเป็นคนรัสเซียเเบบไหนก็ตาม…ต้องทำให้พวกเขาไปที่รัสเซีย”

“พวกเขาจะเข้าใจ” ประธานาธิบดีกล่าวในการให้สัมภาษณ์ “พวกเขาจะพูดว่า สงครามนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเรา ประชากรทั้งหมดไม่สามารถรับผิดชอบได้ใช่ไหม มันทำได้! ประชากรพวกนี้เลือกรัฐบาลนี้ และพวกเขาไม่ได้ต่อสู้ ไม่โต้เถียง ไม่โวยวาย”

“คุณไม่ได้ต้องการความโดดเดี่ยวนี้หรอกหรือ?” เซเลนสกีกล่าวต่อ

“คุณกำลังบอกคนทั้งโลกว่าต้องปฏิบัติตามกฎของคุณ ถ้าอย่างนั้นก็ไปอาศัยอยู่ที่นั่นเลยสิ นี่เป็นวิธีเดียวที่จะโน้มน้าวปูตินได้”

ยังมีรายงานอีกว่า ซันนา มาริน นายกรัฐมนตรีเเห่งฟินแลนด์ ได้แสดงการสนับสนุนในครั้งนี้ ด้วยการสั่งห้ามออกวีซ่านักท่องเที่ยวสำหรับชาวรัสเซีย

ขณะที่เมื่อวันอังคาร (9 ส.ค.) ทางการรัสเซียได้ออกมาตอบโต้ข้อเสนอมาตรการเเบนนักท่องเที่ยวดังกล่าวของเซเลนสกี

“ความคิดที่ไร้เหตุผลของเขาในกรณีนี้ไม่สมเหตุสมผลเกินไปอย่างยิ่ง” ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซียประจำทำเนียบเครมลินกล่าวในการประชุมทางโทรศัพท์กับนักข่าว

เขากล่าวเสริมด้วยว่า “เรื่องนี้จะสามารถมองได้ในเชิงลบอย่างยิ่งเท่านั้น ความพยายามใด ๆ ในการแยกรัสเซียหรือชาวรัสเซียเป็นกระบวนการที่ไม่มีโอกาสเกิดขึ้น”

ขณะที่ TIMES NOW ของอินเดีย รายงานเเถลงการณ์ของเซเลนสกีว่า ประธานาธิบดียูเครนยังกล่าวเน้นย้ำด้วยว่า สงครามที่กำลังดำเนินอยู่ระหว่างรัสเซียเเละยูเครนนั้นจะไม่จบลง ตราบใดก็ตามที่พื้นที่บริเวณเเหลมไครเมียในคาบสมุทรทะเลดำของยูเครน ซึ่งถูกยึดครองโดยทางการรัสเซียนั้นไม่ได้รับการปลดปล่อย

พร้อมอ้างถึงคำพูดของประธานาธิบดีที่กล่าวในเเถลงการณ์ช่วงค่ำเมื่อวันอังคาร (9 ส.ค.) ว่า “พื้นที่คาบสมุทรไครเมียนั้นเป็นของยูเครน เเละเราจะไม่ยอมละทิ้งมันเป็นอันขาด”

“ภูมิภาคในทะเลดำจะไม่ปลอดภัยเลย ตราบใดที่ไครเมียถูกยึดครอง” เขากล่าว “จะไม่มีสันติภาพที่มั่นคงและยั่งยืนในหลายประเทศบนชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ตราบใดที่รัสเซียสามารถใช้คาบสมุทรของเราเป็นฐานทัพทหารได้”

เซเลนสกีเสริมด้วยว่า “สงครามระหว่างรัสเซียเเละยูเครน รวมถึงประเทศโลกเสรีของยุโรปทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นที่ไครเมีย เเละจะต้องจบลงที่ไครเมีย ด้วยการปลดปล่อยให้มันเป็นอิสระ”

ก่อนหน้านี้ ได้เกิดเหตุระเบิดหลายระลอกขึ้นที่ฐานทัพซากี (Saky) ใกล้ ๆ กับเมือง Novofedorivka ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของคาบสมุทรไครเมีย ซึ่งถูกครอบครองโดยรัสเซีย เเละถูกใช้เป็นฐานทัพอากาศเพื่อโจมตีเป้าหมายที่อยู่ลึกเข้าไปในยูเครน จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย โดยที่ปรึกษาระดับสูงของยูเครนปฏิเสธว่าทางการยูเครนเป็นผู้รับผิดชอบต่อเหตุระเบิดครั้งนี้

ทั้งนี้ แหลมไครเมียเป็นส่วนหนึ่งของยูเครนอย่างเป็นทางการ แต่ถูกผนวกเข้ากับรัสเซียในปี 2557 หลังจากการลงประชามติ ซึ่งจัดขึ้นโดยรัสเซียที่ประชาคมระหว่างประเทศมองว่าผิดกฎหมาย ขณะที่ระหว่างการปราศรัยของเขาเมื่อคืนที่ผ่านมา เซเลนสกีไม่ได้กล่าวถึงการระเบิดครั้งนี้เลย

บีบีซีระบุเพิ่มเติมว่า ทางการรัสเซียมองว่าการโจมตีไครเมียโดยยูเครนจะถือเป็นเรื่องร้ายแรงอย่างยิ่ง โดยรัสเซียได้ส่งสัญญาณเตือนเมื่อเดือนที่แล้ว ผ่านการที่ ดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย ออกมาขู่เมื่อเดือนที่แล้วว่า “วันพิพากษาจะมารอทันที” หากยูเครนตั้งเป้าการโจมตีไปที่แหลมไครเมีย