ส.อ.ท. เปิด 4 New Economy ปี 2566 ก่อนเสีย FDI ให้เวียดนาม

เกรียงไกร เธียรนุกุล
ภาพจากศูนย์ภาพมติชน

ส.อ.ท. เผยต้นทุนค่าไฟ ทำประเทศไทยเสียเปรียบเพื่อนบ้าน เงินลงทุนไหลเข้าเวียดนาม สิงคโปร์ หวัง 4 New Economy ทั้ง BCG-EV-Smart Elegtronic-Digital กระตุ้นเศรษฐกิจกลับคืนมา แม้ทั้งโลกยังต้องเผชิญกับวิกฤตทุกด้าน ประเมินปี 2566 ท่องเที่ยวฟื้น เลือกตั้งทำเงินในระบบอัดฉีดลงฐานรากพุ่ง

วันที่ 25 มกราคม 2566 นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวในงานเสวนาใหญ่ก้าวสู่ปีที่ 46 “Thailand : New Episode บทใหม่ประเทศไทย 2023” หัวข้อ “New Episode เศรษฐกิจ-อุตสาหกรรมไทย” จัดโดยเครือมติชน ว่า นับตั้งแต่ปี 2565 เศรษฐกิจโลกกำลังก้าวเข้าสู่ยุค BANI world หรือ B-brittle ความเปราะบาง A-anxious ความกังวล N-nonlinear คาดเดายาก และ I-incomprehensible ความไม่เข้าใจ เป็นการเปลี่ยนจากยุค VUCA world (ความผันผวน ความไม่แน่นอน ความสลับซับซ้อน และความคลุมเครือ) ที่ถูกดิสรัปชั่นเช่นกัน

โดย IMF เองได้เตือนว่า 3 ประเทศที่กำลังเผชิญกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในปี 2566 คือ ยุโรป ที่คาด GDP จะโตเพียง 0% จีน โต 4.3% และสหรัฐอเมริกา โต 0.5% เท่านั้น

แต่ในขณะเดียวกันในความผัวผวนจากหลายปัจจัยกลับทำให้เกิดหลายอุตสาหกรรมตามมา เช่น การเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ (Climat Change) เกิดอุตสาหกรรม BCG พลังงานทดแทน อุตสาหกรรมสีเขียว แม้จะมีความท้าทายอยู่บ้างอย่างมาตรการกีดกันทางการ CBAM ที่ยุโรปจะเก็บภาษีกับสินค้านำเข้าที่ไม่ผ่านเกณฑ์ควบคุมการปล่อยคาร์บอน เป็นต้น

สำหรับปี 2566 New Economy ที่จะใช้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย คือ 4 อุตสาหกรรมหลัก BCG ทั้งเศรษฐกิจชีวภาพ หรือ BCG (Bio Circular Green) ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) Smart Elegtronic และ Digital ซึ่งจะเป็นตัวสำคัญที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นกลับมา มีความสามารถการแข่งขัน หลังจากที่ไทยต้องสูญเสียความสามารถในการแข่งขันไปจากวิกฤตด้านพลังงาน ที่ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าในประเทศสูงขึ้น เป็นต้นทุนของภาคอุตสาหกรรมอย่างมาก และแน่นอนว่ามันกลายเป็นอุปสรรคด้านการลงทุน

ขณะที่ไทยกำลังไม่สามารถที่จะสู้กับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนามได้ เนื่องจากมีข้อได้เปรียบทั้งค่าแรง ค่าไฟ จึงเป็นไปได้สูงมากที่เงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) จะย้ายไปอยู่ที่เวียดนาม

โดยจากข้อมูลการลงทุน 6 เดือน (ม.ค.-มิ.ย. 2565) พบว่า FDI มุ่งไปลงทุนที่สิงคโปร์ถึง 50% รองลงมาคือมาเลเซีย และเวียดนาม ขณะที่ไทยตกอันดับ

อย่างไรก็ตาม ไทยยังคงมีโอกาสจาก New Economy และในสเต็ปถัดไป New Episode ของไทย แม้จะต้องเผชิญกับต้นทุนการผลิตที่สูง ส่งออกชะลอตัว ดอกเบี้ยขาขึ้น แต่ไทยภาคการท่องเที่ยวกำลังฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว และที่สำคัญคือไทยกำลังจะมีการเลือกตั้งในเดือน พ.ค. 2566 นี้ ซึ่งจะเป็นตัวที่ช่วยให้เงินในระบบไหลเวียนลงสู่ฐานรากได้อย่างมาก

“S-Curve จะเป็นตัวช่วยเศรษฐกิจไทยทำ GDP ไทยโตเกิน 3% เพราะอุตสาหกรรมเดิมมันโตได้น้อย มันเกิด อุตสาหกรรมใหม่ หรือ Next-gen Industries อย่างที่เรากำลังจะเอา Bio มาเป็นฟีดสต๊อกให้กับหลาย ๆ อุตสาหกรรมและให้ทั่วโลก เช่น เป็นฟีดสต๊อกให้อุตสาหกรรมยา อาหารเสริม เส้นใย พลาสติก หรือแม้แต่แพลนต์เบส เป็นสิ่งที่ 45 กลุ่มอุตสาหกรรม ส.อ.ท. จะจับมือกับสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเพื่อเดินหน้านโยบายนี้ให้ได้”