ภาพหญิงสาว ส่งรอยยิ้มผ่านลูกกรงบนรถตำรวจ กำลังกลายเป็นอีกหนึ่งภาพในประวัติศาสตร์ ระหว่างการเคลื่อนไหวทางการเมือง ของกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “กลุ่มราษฎร”
หลายคนอาจกำลังสงสัยว่า หญิงสาวที่ยังยิ้มใจดีสู้เสืออยู่นั้นเป็นใคร และเหตุใดจึงไม่หวั่นเกรงต่อข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- ราคาทองวันนี้ (29 มี.ค. 67) พุ่งกระฉูด 600 บาท ทองรูปพรรณบาทละ 39,050 บาท
- เลิกอุ้มดีเซล 30 บาท จ่อขยับเพดานราคา 2 บาท มีผล 1 เมษายน 2567
วันนี้ “ประชาชาติธุรกิจ” จะพาไปทำความรู้จัก “มายด์” ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล เจ้าของรอยยิ้มหลังลูกกรงกัน
“มายด์” อายุ 25 ปี เป็นสมาชิกกลุ่มคณะประชาชนปลดแอก กลุ่มประชาชนที่ริเริ่มการชู 3 นิ้ว ตามหนัง Hunger Games เพื่อสื่อถึงเสรีภาพ ความเสมอภาค และภราดรภาพ ซึ่งท้ายที่สุดกลายมาเป็นสัญลักษณ์ในการยืนหยัดต่อสู้ของกลุ่มผู้ชุมนุม
ข้อมูลจากบีบีซีไทย ระบุว่า “มายด์” เติบโตในสังคมชนชั้นกลาง และเธอให้สัมภาษณ์กับ The People ว่า พ่อเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง แม่ทำอาชีพค้าชาย
จากการสัมภาษณ์ร่วมกับแกนนำกลุ่ม “ไทยภักดี” ของบีบีซีไทย ทำให้เรารู้ว่า เธอเป็นนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหานคร เริ่มให้ความสนใจทางการเมืองในช่วง 1 ปี หลังรัฐประหาร จากการเห็นภาพการจับกุมนักศึกษาและนักกิจกรรมการเมืองหน้าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ เมื่อปี 2558
ตอนนั้นเจ้าตัวเกิดคำถามในใจว่า ในฐานะคนไทย เรามีสิทธิเสรีภาพแค่ไหน และประชาชนอย่างเธอมีอำนาจอะไรบ้างในประเทศนี้
ต่อมา จึงได้รวมตัวกับพวกจัดตั้ง กลุ่มมหานครเพื่อประชาธิปไตย และในช่วงปี 2558 เธอจึงเริ่มมีบทบาทกับเครือข่ายนักศึกษาที่เคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย ก่อนเข้าร่วมคณะประชาชนปลดแอก
ย้อนไปเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2563 “มายด์” ได้พูดที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถึง 3 ข้อเรียกร้อง และได้ให้สัมภาษณ์กับ The People ว่า หลังเกิดการรัฐประหาร ครอบครัวเธอประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ แม่ขายของไม่ได้ เงินไม่ค่อยเข้า ทั้งที่รายจ่ายเท่าเดิมและเพิ่มขึ้น
“ไม่ใช่แค่แม่เราขายของไม่ดีแค่นั้น มันเกิดจากโครงสร้างของปัญหาเศรษฐกิจในทางการเมือง การรัฐประหารทุกๆ ครั้ง มันมักจะหยุดความเจริญ หยุดความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจเสมอ เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หนูต้องออกมาพูดอะไรสักอย่างเกี่ยวกับการเมือง การเมืองมันอยู่ในทุกๆ พื้นที่ของชีวิตเรา”
“การที่หนูออกมาต่อสู้ หนูไม่ได้ทำแค่ตัวเอง ไม่ได้ทำแค่เพื่อคนรุ่นเรา เราต้องการวางรากฐานให้ประชาชนรุ่นต่อๆ ไป” มายด์กล่าว
“มายด์” เป็นแกนนำคนล่าสุด ที่ถูกจับในความผิดฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เมื่อคืนวานนี้ (21 ต.ค.63) หลังยุติการชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาล
ต่อมา ประมาณ 10.00 น. วันนี้ (22 ต.ค.63) ที่ศาลแขวงปทุมวัน ตำรวจได้ควบคุมตัว “มายด์” มาถึง โดยเจ้าตัวได้ชูสามนิ้วแสดงสัญลักษณ์ขณะถูกควบคุมอยู่ภายในรถผู้ต้องขัง พร้อมเล่าถึงเหตุการณ์เมื่อคืนว่า
“ขณะที่ถูกจับกุม ตกใจนิดหน่อย เพราะเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ แต่โดยรวมกำลังใจดี เมื่อคืนก็ได้นอนไปนิดหน่อย ยังไหว ไม่ท้อ และจะสู้ต่อไป ส่วนเรื่องการยื่นขอประกันตัว จะให้ทนายความเป็นผู้จัดการ”
ทั้งนี้ น.ส.ภัสราวลีให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และต่อมาเธอได้รับการปล่อยตัวแล้ว โดยไม่ต้องวางหลักประกัน ไม่มีเงื่อนไข โดยศาลพิจารณาว่าเป็นโทษเบาและยังเป็นนักศึกษาที่อยู่ระหว่างการสอบปลายภาค
ก่อนหน้านี้ “มายด์” ยังเคยถูกพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม ออกหมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาผิด พ.ร.บ.ชุมนุม และ พ.ร.บ.การใช้เครื่องขยายเสียง จากการจัดกิจกรรมชุมนุม “เสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาธิปไตย” ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ร่วมกับผู้ต้องหาอื่นรวม 6 คน ซึ่งทั้งหมดไปรายงานตัวเมื่อวันที่ 1 กันยายน โดยปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
-
นอกเครื่องแบบ จับ มายด์ ภัสราวลี คุมตัวไป ตชด.ภาค 1 ปทุมธานี
- ด่วน! ศาลปล่อยตัว มายด์ มหานครฯ แล้ว ไม่ต้องวางหลักประกัน